บทที่ 8 แผนในอนาคต
บทที่ 8
แผนในอนาคต
ค่ำคืนนั้น ลู่ซินฟางเปิดประตู ข้ามฝั่งมาที่มิติ
สายลมเจือกลิ่นอายสดชื่นโชยปะทะใบหน้า ทุ่งหญ้าสีเขียว สวนผลไม้ พืชไร่ในท้องนา อุดมสมบูรณ์ราวกับถูกหยุดเวลาไว้
ตอนนั้นเอง หลินบินเข้ามานั่งบนหัวไหล่ กอดลู่ซินฟางด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“เจ้านาย!”
“หลิน...” ลู่ซินฟางทักทายภูตน้อย ก่อนจะหยิบรองเท้าฟางเล็กๆ ขนาดเท่ากับของตุ๊กตาออกมา “นี่รองเท้าฟาง ข้าถักมาให้”
“ว้าว น่ารักจังเลย”
เพราะดีใจที่ได้รับของขวัญจากเจ้านาย ภูตน้อยกระโดดกลางอากาศไม่หยุด
ลู่ซินฟางหัวเราะชอบใจ จากนั้นช่วยสวมรองเท้าให้กับหลิน
“พอดีเปะเลย”
“นั่นสิ ใส่ได้พอดีเลย”
“เจ้านาย หลินจะชงชาให้ ไปที่บ้านกันเถอะ”
ภูตน้อยพูดพร้อมกับจูงมือลู่ซินฟางไปที่บ้านไม้ รูปทรงแบบยุโรป
บ้านไม้หลังนี้ ลู่ซินฟางกับสัตว์อสูรที่เข้ามาขอเป็นพันธมิตรช่วยกันสร้างขึ้นมา อันที่จริง ทั้งบ้านทั้งสวนและไร่นาในมิตินี้ส่วนใหญ่พวกสัตว์อสูรเป็นทำ ทั้งยังช่วยดูแลให้มีสภาพสมบูรณ์
พอเข้ามาในบ้าน ลู่ซินฟางนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ หลินรินชาคาโมมายล์กลิ่นหอมกรุ่นให้กับลู่ซินฟาง
“หอมมากเลย หลินชงเองเหรอ”
“ใช่แล้ว หลินชงชาเองละ”
เมื่อก่อนลู่ซินฟางได้นำดอกคาโมมายล์เข้ามาปลูกที่นี่ ตอนแรกเห็นว่าสวยดี ต่อมา นางเริ่มนำไปตากแห้งแล้วทำเป็นชา
ไม่เพียงแค่ดอกคาโมมายล์ ยังมีดอกไม้หลายชนิดและสมุนไพรต่างๆ มากมาย อย่างเช่นดอกกุหลาบและดอกมะลิ
“ท่านซินฟาง ขนมขอรับ”
ชายหนุ่มผมยาวสีขาวเงิน ตรงขมับทั้งสองข้างมีหูของหมาป่าสีขาว เดินเข้ามาพร้อมกับคาราเมลคัสตาร์ดเค้กเนื้อนิ่ม แค่ได้กลิ่นหอมหวาน ลู่ซินฟางก็แทบน้ำตาไหล
ฮือ...ไม่ได้กินของอร่อยๆ แบบนี้มานานแล้ว!
อยากเอากลับไปให้เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์กินด้วยจังเลย
“ยังมีอีกนะขอรับ” พ่อบ้านหมาป่าพูดด้วยรอยยิ้มเหมือนเดาความคิดของลู่ซินฟางออก
พ่อบ้านหมาป่าตนนี้ เป็นหนึ่งในสัตว์อสูรที่อยู่ในมิติมาก่อน เพราะอาณาเขตที่พวกเขาอาศัยอยู่แห้งแล้ง หาของกินไม่ได้ ตอนแรกก็ตั้งใจจะมาขอพักพิงชั่วคราว แล้วค่อยออกเดินทางหาที่อยู่กันใหม่ แต่ลู่ซินฟางเสนอให้เผ่าหมาป่ามาช่วยทำงานในไร่ โดยแลกกับอาหาร และที่อยู่อาศัย เพื่อพวกเขาไม่ต้องเดินทางเร่ร่อนไปทั่ว
ภายหลังลู่ซินฟางตั้งชื่อให้หมาป่าหนุ่มตนนี้ว่า ‘หลางไป๋’ เพราะเขามีขนสีขาวเงิน
พวกพ้องของหลางไป๋สร้างหมู่บ้านเล็กๆ อยู่ในป่า คอยไล่สัตว์ที่มาก่อกวนในไร่ และดูแลเรื่องผลผลิต มีก็แต่เจ้าตัวที่ขอทำงานเป็นพ่อบ้าน
“หลางไป๋ เจ้าก็มานั่งดื่มชากินขนมด้วยกันสิ”
ตลอดสิบปีที่ลู่ซินฟางริเริ่มพัฒนาที่ดินแถบนี้จนกลายเป็นฟาร์ม และต่อให้หลินจะเรียกนางว่าเจ้านาย แต่นางไม่เคยทำตัวยิ่งใหญ่ เพราะนางเองก็เป็นผู้อาศัยไม่ต่างจากเผ่าพันธุ์อื่นๆ
หลางไป๋เตรียมชากับขนมในส่วนของตัวเอง แล้วมานั่งร่วมดื่มชาด้วยกัน
ระหว่างดื่มด่ำกับชาหอมๆ กับขนมแสนอร่อย ลู่ซินฟางเล่าเรื่องข้างนอกให้ทั้งสองฟัง พร้อมทั้งหยิบเหรียญทองแดงออกมา
“นี่ก็คือเงินที่เจ้านายใช้ในตอนนี้เหรอ”
“ใช่แล้วละ นี่ก็คือเงินให้ยุคโบราณ” นางพยักหน้าตอบ จากนั้นก็รบกวนให้หลินช่วยก๊อปปี้เงินเหรียญขึ้นมาจำนวนหนึ่ง
ถึงจะใช้วิธีที่โกงไปหน่อย แต่ถ้าจะทำธุรกิจก็ต้องมีเงินทุน!
ตอนที่นางกับหลินคุยกันอยู่ หลางไป๋ทำหน้าครุ่นคิดก่อนเอ่ยถามขึ้นว่า “ก่อนกลับออกไป ท่านซินฟางจะเอาขนมไปฝากเด็กๆ ด้วยไหมขอรับ”
ลู่ซินฟางทำหน้าเสียดาย “ใจจริงก็อยากเอาไปฝากพวกเขานะ แต่รูปแบบขนมของโลกทางนี้ไม่เหมือนกับขนมในโลกทางนั้น หากเอาออกไปแล้ว ข้าไม่รู้จะอธิบายกับพวกเขายังไงดี”
“ถ้าทำแบบนี้ล่ะขอรับ”
หลางไป๋ใช้เวทมนตร์ได้นิดหน่อย ทำให้คาราเมลคัสตาร์ดเค้กเปลี่ยนรูปร่างเป็นหมั่นโถเนื้อนุ่มนิ่ม แตะเบาๆ ผิวสัมผัสเด้งดึ๋งหน่อยๆ แต่ยังคงมีรสชาติและกลิ่นหอมหวานของคาราเมล
“ว้าว ทำไมข้าคิดวิธีแบบนี้ไม่ออก”
ไม่เพียงเป็นไอเดียที่ดี วิธีของหลางไป๋ยังจุดประกายความคิดให้กับลู่ซินฟางหลายอย่าง
เช้าวันต่อมา หลังจากลู่ซินฟางกับลูกๆ กินข้าวเช้าอิ่มเรียบร้อย นางก็หยิบคาราเมลคัสตาร์ดที่แปรรูปเป็นหมั่นโถออกมา บอกพวกเด็กๆ ว่านี่เป็นของว่าง เอาไว้กินตอนที่นางขึ้นเขาไปหาของป่า
ลู่ซินฟางยังกำชับให้เด็กๆ อยู่บ้านห้ามออกไปไหน
เด็กทั้งสองตอบกลับมาว่า เข้าใจแล้ว พวกเขาจะอยู่เฝ้าบ้านให้เอง
เพราะตั้งใจจะหาของป่ากลับมาให้คุ้มและยังมีแผนหาเงินในขั้นถัดไป ลู่ซินฟางจึงไม่อยากพาลูกๆ เข้าป่ามาด้วย
ในช่วงเที่ยงวัน พระอาทิตย์สูงโด่งตรงหัว ลู่ซินฟางถึงค่อยหอบฟืนกับของป่าที่หามาได้เต็มตะกร้าตรงกลับบ้าน
“ท่านแม่ ท่านแม่!”
เป่าเอ๋อร์เห็นมารดามาถึงบ้านก็กระโดดกอดเอว แถมยังยิ้มแย้มผิดปกติ
“มีอะไรหรือ เป่าเอ๋อร์”
“หมั่นโถของท่านแม่อร่อยจัง ข้าไม่เคยกินอะไรแบบนี้มาก่อนเลย!”
อย่างนี้นี่เอง...ดีใจเพราะได้กินของอร่อยๆ สินะ
แป้งที่ใช้ทำซาลาเปากับหมั่นโถในโลกนี้เนื้อสัมผัสด้านๆ จืดๆ ถึงจะใส่ไส้เนื้อ แต่ก็เป็นการเพิ่มรสชาติให้อาหารได้แค่นิดหน่อย กินแล้วก็ให้รู้สึกฝืดคออยู่ดี
อีกอย่าง เด็กๆ ชอบของหวาน พอได้กินของหวานอร่อยๆ ย่อมติดใจ
“อร่อยขนาดนั้นเชียว?”
นางแกล้งถาม
“อืมๆ” เป่าเอ๋อร์กำหมัด พยักหน้ารัวๆ
“กลิ่นหอม แล้วก็หวานอร่อย ข้าก็ไม่เคยกินหมั่นโถรสชาติแบบนี้มาก่อนเลย” เฉิงเอ๋อร์บอก ถึงจะกินหมดแล้ว แต่รสชาติหอมละมุ่นยังเหมือนติดที่ปลายลิ้น
ลู่ซินฟางหัวเราะคิกๆ ก่อนจะยกนิ้วขึ้นมาแตะริมฝีปาก และยังทำหน้าลึกลับ
“แม่ก็แค่ลองเติมอะไรหวานๆ ลงไป แล้วก็เพิ่มกลิ่นหอมด้วยสูตรลับนิดหน่อย พวกเจ้าห้ามเอาไปพูดเด็ดขาดเชียว ประเดี๋ยวมีคนมาขอสูตร แล้วจะขายไม่ออก”
ทันใดนั้น แววตาของเฉิงเอ๋อร์เปล่งประกายขึ้นมา
“ท่านแม่จะทำขนมขายหรือ!?”
คำถามของลูกชายทำเอาลู่ซินฟางแปลกใจนิดๆ
ดูๆ ไปแล้ว เฉิงเอ๋อร์น่าจะมีหัวการค้า นางไม่ได้บอกตรงๆ ว่าจะทำขนมขาย แต่เด็กคนนี้กลับคิดได้ทันที ฉลาดไม่เบา
หลังจากชิมขนมแป้งของเฉิงเอ๋อร์และน้ำตาลปั้นของเป่าเอ๋อร์เมื่อวาน ขนมในโลกนี้มีเพียงรสหวานจากน้ำตาล กลิ่นหอมแทบไม่มี เนื้อสัมผัสของขนมยังไม่ค่อยเนียนพอ
อีกอย่าง พอเห็นวิธีเปลี่ยนรูปแบบของอาหารที่หลางไป๋ทำ ลู่ซินฟางเริ่มมีไอเดียใหม่ในการหาเงินเพิ่มอย่างแนบเนียน
แต่การจะตั้งแผงขายก็ได้เงินช้าเกินไป จะหาเงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียวก็ต้องเริ่มที่การขายสูตรอาหาร จากนั้นค่อยให้หลินก๊อปปี้เงินก้อนใหญ่ขึ้นมา แต่วิธีโกงแบบนี้ไม่ควรทำบ่อย ขอแค่เป็นเจ้าของที่ดินสักผืน เริ่มทำธุรกิจแบบยั่งยืนก็พอแล้ว!