บทที่1 สงครามสิ้นสุด
เสียงร่ำไห้ของทหารและประชาชนดังกึกก้องไปทั่วเมืองเหออัน โลงศพของหยวนหมิงแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นฉินกำลังถูกทหารพากลับไปยังเมืองหลวงในฐานะวีรบุรุษ การต่อสู้ที่กล้าหาญครั้งสุดท้ายของท่านแม่ทัพ ทหารแคว้นฉินทุกคนล้วนจดจำเอาไว้ในใจ
สงครามระหว่างแคว้นฉินและแคว้นเซี่ยนั้นมีมาช้านานทำให้ชาวเมืองที่อาศัยอยู่ในแถบชายแดนได้รับความลำบากยากแค้นขึ้นไปทุกวัน ชาวเมืองส่วนใหญ่อพยพพาครอบครัวเดินทางออกจากเหออันเพื่อหนีภัยสงคราม แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังคงปักหลักอยู่ที่นั่นเช่นเดิม
ไม่มีใครไม่เสียใจที่ต้องสูญเสียผู้นำทัพที่ห้าวหาญเช่นเขา ตลอดสิบกว่าปีมานี้ไม่มีครั้งใดเลยที่ทัพฉินจะพ่ายแพ้จนหมดรูปเช่นนี้ เพราะแม่ทัพคนใหม่ของแคว้นเซี่ยที่ทั้งเยาว์วัยและเก่งกาจผู้นั้น
เขามีร่างกายสูงใหญ่ทั้งที่อายุยังน้อย และกระบวนท่าการต่อสู้ของเขาก็ดุดันเหนือกว่าแม่ทัพฉินหลายส่วน ทำให้ศึกครั้งนี้แม่ทัพฉินที่อายุมากกว่าต้องกลายเป็นผู้ที่พ่ายแพ้ไป นั่นเป็นรายงานของรองแม่ทัพหลี่ที่ส่งมายังเมืองหลวงพร้อมกับร่างอันไร้วิญญาณของแม่ทัพหยวนหมิง
ร่างบอบบางในชุดไว้ทุกข์ยืนอย่างสงบแผ่นหลังตั้งตรงดูเด็ดเดี่ยวไม่ต่างจากผู้เป็นบิดายามออกศึก หยวนชิงหลิงบุตรสาวคนโตของแม่ทัพหยวนหมิง นำขบวนมารอรับร่างไร้วิญญาณของบิดาที่ประตูทางเข้าเมืองทิศเหนือ
ชาวเมืองซิ่นโจวเองก็มายืนรอจนเต็มสองฝั่งของถนน เพื่อรับวีรบุรุษผู้เสียสละทั้งชีวิตปกป้องอาณาเขตแคว้นฉินเพื่อให้ประชาชนอยู่อย่างสงบสุข
เสียงร้องไห้ดังระงมตลอดเส้นทางจนกระทั่งไปถึงด้านหน้าจวนแม่ทัพสกุลหยวน แสดงให้เห็นว่าพวกเขานั้นเคารพและนับถือในตัวแม่ทัพผู้นี้เพียงใด องค์ชายห้าฉินฉู่อี้คนรักของหยวนชิงหลิงยืนเคียงข้างนางไม่ห่าง เขามาที่จวนแม่ทัพหยวนตั้งแต่รู้ข่าวเรื่องการเสียชีวิตของแม่ทัพผู้ทำหน้าที่พิทักษ์แผ่นดิน
ตอนนี้ภายในตระกูลหยวนกำลังปั่นป่วนเพราะผู้นำเพียงคนเดียวที่คอยค้ำจุนได้จากไปแล้ว ตระกูลหยวนมีบุตรชายที่เกิดจากฮูหยินเอกเพียงคนเดียวคือแม่ทัพหยวนหมิง แต่มีน้องชายที่เกิดจากอนุถึงสามคน หลังจากที่พวกเขาได้ข่าวเรื่องการตายของผู้นำตระกูล น้องชายต่างมารดาเหล่านั้นก็ขอแยกบ้านทันที ราวกับรู้มาล่วงหน้าว่าจะเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น
ทหารส่งข่าวขี่ม้าที่ถือธงสัญลักษณ์ของกองทัพวิ่งตรงมายังประตูเมือง เพื่อแจ้งข่าวว่าขบวนศพของแม่ทัพหยวนใกล้มาถึงแล้ว ดวงตาแดงก่ำที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างยาวนานของหยวนชิงหลิงกลับมาบวมช้ำอีกครั้ง ทั้งที่นางสัญญากับตนเองแล้วว่าต่อจากนี้ไปนางจะเข้มแข็งเพื่อเป็นเสาหลักของตระกูลแทนบิดา
แต่เมื่อได้ยินว่าศพของแม่ทัพหยวนหมิงใกล้มาถึงแล้วนางก็อดที่จะหลังน้ำตาออกมาอีกครั้งมิได้ นางอยากจะให้เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพียงความฝัน นางต้องการจะตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าบิดาของนางนั้นยังคงมีชีวิตอยู่ ตลอดชีวิตของหยวนหมิงได้อยู่กับครอบครัวเพียงไม่นาน เพราะเขาจะต้องประจำการที่ชายแดนเมืองเหออันถึงสองปี จากนั้นจึงจะได้มีโอกาสกลับมาอยู่กับครอบครัวสามเดือน
หยวนหมิงนั้นเหมือนบิดาของเขา ที่เลือดในกายและจิตวิญญาณล้วนมีแต่ความจงรักภักดีต่อแคว้นฉินและชาวเมือง ท่านปู่ของหยวนชิงหลิงเองก็สละชีพเพื่อบ้านเมืองที่สนามรบ ต่อมาก็เป็นบิดาของนาง แต่หยวนหมิงมีทายาทให้ตระกูลหยวนเพียงสองคนคือหยวนชิงหลิงและน้องชายของนางที่อายุพึ่งจะสิบขวบ