บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 ประกาศิตไร้ใจ (2)

“หยุดเดี๋ยวนี้นะแม่พราว!”

“จะหนีไปไหนยัยเด็กเลว อยู่ที่ไหนก็ทำให้เขาเดือดร้อนไปทั่ว เลวเหมือนแม่มันไม่มีผิด” คำบริภาษที่พาดพิงไปถึงบุพการีทำให้ความกลัวมลายหายไปชั่วขณะ

“อย่ามาว่าแม่หนูนะ”

“ดู๊ ดูมันเถียง อีเด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน อย่าอยู่เลย นี่แน่ะ” สิ้นคำ ฝ่ามือมฤตยูก็ตวัดลงไปอีกครั้ง คราวนี้เด็กน้อยกลับรวบรวมกำลังเข้าผลักอีกฝ่ายจนสุดแรง ก่อนวิ่งหนีออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว หากพอถึงประตูก็ชนโครมเข้ากับคนที่เดินสวนเข้าเสียก่อน

“หนูทราย!” คุณไกรภพร้องเรียก พลางก้มมองร่างบางที่สะอึกสะอื้นสะบักสะบอมที่อยู่ในอ้อมแขนอย่างตกใจ

“เกิดอะไรขึ้น ใครทำร้ายหนูแบบนี้ลูก เดี๋ยว” ยังไม่ทันได้คว้าตัวมาสอบถาม เด็กหญิงตัวน้อยก็วิ่งหายออกไป พร้อมกับทิ้งรอยเลือดหยดเล็กๆ จากฝ่ามือไว้เป็นทาง “นี่มันเรื่องอะไรกันน่ะ คุณพราว”

“คุณพ่อ!” คุณไกรภพปรายตามองคนเรียกที่ยืนหน้าซีด มือข้างหนึ่งมีเลือดไหลซ่ก

“อ้าว แล้วนั่นตาเพชรมือไปโดนอะไรมาลูก”

“ก็ถามนังเด็กที่คุณไปเก็บมาเลี้ยงดูสิ นี่ถ้าฉันมาไม่ทัน มันคงฆ่าลูกเราตายไปแล้ว พวกเลี้ยงไม่เชื่อง เลวเหมือนแม่มันไม่ผิด”

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ คุณพราวพิไล!”

“ดูสิตาเพชร ดู๊ คุณพ่อของลูกเห็นขี้ดีกว่าไส้ไปแล้ว ลูกแท้ๆ เจ็บปางตายไม่ไยดี มัวแต่ไปเอาใจเด็กเหลือขอที่ไหนก็ไม่รู้ เราไปกันเถอะลูก ถ้าใครไม่รักเราก็ช่างเถอะ จำไว้แล้วกันว่าแม่รักลูกคนเดียวก็พอ” ดวงตาขุ่นเขียวสะบัดมองหน้าสามีอย่างเจ็บแค้นระคนน้อยใจ ก่อนประคองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนขึ้นไปบนบ้าน คุณไกรภพได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอา นี่เขาคิดผิดหรือถูกกันแน่ที่ให้เด็กน้อยเข้ามาอยู่ร่วมบ้านแทนที่จะให้อยู่ในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้านั้น บางทีอย่างหลังอาจทำให้เด็กน้อยมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ก็เป็นได้

“คุณไกรครับ ผมว่าใจเย็นๆ ค่อยพูดค่อยจากันก่อนดีกว่า”

“เย็นยังไงไหวคุณเอก คุณก็เห็นว่าหนูทรายโดนทารุณยังไงบ้าง แล้วนี่วิ่งหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้”

“ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมจะไปตามหนูทรายให้เอง” คุณพงศ์เอกอาสา

“ผมไปด้วย”

“อย่าเลยครับ คุณไกรควรอยู่ที่นี่ก่อน” คนพูดพยักเพยิดไปที่ร่างบนวีลแชร์เป็นเชิงเตือน ก่อนที่เขาหันหลังจะชวนคนที่เดินตามมา “ไปกันเถอะ เจ้า... อ้าว หายไปไหนอีกคนล่ะเนี่ย”

“คุณพี่มานานแล้วหรือครับ ผมไม่ทันเห็น” คุณไกรภพยกมือไหว้ทักทายพี่สาวของภรรยา

“ก็มาพร้อมๆ กับเขานั่นแหละ” น้ำเสียงอ่อนระอาบอก แม้จะเป็นพี่สาวแท้ๆ ของคนที่เพิ่งผละไป หากการกระทำที่ประจักษ์กับตาก็ทำให้หญิงมากวัยต้องทอดถอนใจกับนิสัยใจคอที่คับแคบและเจ้าคิดเจ้าแค้นของน้องสาว

“งั้นคุณพี่ก็คงเห็นปัญหา...”

“ก็เห็นอย่างที่คุณเห็นนั่นแหละ...” คุณพรรณรายยอมรับ มันก็น่าอยู่หรอกที่น้องสาวของเธอจะเดือดดาลได้ถึงขนาดนั้น แม้ไม่อยากจะเชื่อ หากทว่าเค้าโครงหน้าที่เล่นถอดพิมพ์เดียวกันออกมาแบบนี้ มีหรือที่น้องสาวของเธอจะไม่ยอกแสยงในอก ยิ่งมาอยู่ร่วมชายคาด้วยแล้ว ก็เหมือนกับกอดระเบิดเวลาเอาไว้ไม่มีผิด หากทว่ามันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเธอ ในเมื่อเธอเองก็มีสถานการณ์ไม่ต่างจากเด็กหญิงผู้น่าสงสารนี้

“ผมเพิ่งทราบเรื่องของคุณพี่ เสียใจด้วยจริงๆ นะครับ คนดีๆ อย่างคุณพจน์ไม่น่ามาด่วนจากไปแบบนี้เลย” คุณไกรภพเอ่ยพลางเข้าช่วยเข็นรถพี่สาวภรรยาไปทางห้องรับแขก ดวงตาเศร้าสร้อยเมื่อนึกถึงสามีผู้ล่วงลับไปอย่างกะทันหัน ทั้งที่หน้าที่การงานของเขากำลังรุ่งโรจน์จนเกือบจะขึ้นไปถึงตำแหน่งเอกอัครราชทูตอยู่ร่อมร่อ

“แล้วนี่คุณพี่จะกลับมาอยู่เมืองไทยเลยหรือเปล่าครับ”

“ค่ะ ก็คงอย่างนั้น พอสิ้นคุณพจน์ ที่นู่นก็ไม่มีใคร”

“ก็ดีสิครับ นี่คุณแม่คงดีใจที่ลูกสาวมาอยู่เป็นเพื่อน” คนพูดไม่ทันสังเกตสีหน้าของอีกฝ่ายที่หม่นหมองลงทันควัน

“ถ้าเป็นอย่างที่คุณพูดก็คงดี” คุณพรรณรายขอบตาร้อนผ่าวเมื่อนึกถึงชะตากรรมของตนเอง

“เกิดอะไรขึ้นหรือครับ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel