ตอนที่ 2
ช่างภาพสื่อมวลชนสายบันเทิงแทบไม่ปล่อยให้ทุกอิริยาบถของเธอหลุดลอดไปจาก ลามไลท์ ( Lamlight ) ในขณะที่เธอหยุดยืน พ้อยท์เท้า เสียงชัตเตอร์จากกล้องทุกตัวในที่นั้น ลั่นรัวขึ้นพร้อมกันราวกับนัดหมาย
เสียงขยับของกระบอกเลนส์ ซูมเข้าซูมออก แสงจากไฟแฟลชสาดใส่เรือนร่างของเธอพรึ่บพรั่บไม่หยุด ด้วยตระหนักว่าทุกช็อตทุกเฟรมที่เป็น ‘ดาวเรียง’ โดยเฉพาะในชุดอะร้าอร่าม นุ่งน้อยห่มน้อย กำลังมีมูลค่าสำหรับวงการบันเทิงและแฟชั่น ในวินาทีที่ความสนใจทั้งหมดของโลกมายา กำลังทุ่มโถมมาที่เธอ
“ยิ้มหน่อยครับคุณดาว”
เสียงจากช่างภาพชายของนิตยสารปลุกใจเสือป่าคนหนึ่ง ตะโกนแทรกสวนไปกับจังเสียงเพลงกระหึ่ม ขณะที่ดาวเรียงกำลังเยื้องย่าง ขยับโพสต์ท่าไปมา เท้าสะเอว เชิดหน้า ทุกจังหวะลีลาบ่งบอกถึงความเป็นมืออาชีพซึ่งเกิดจากพรสวรรค์ล้วนๆ
ไม่แปลก! ที่มักได้ยินสื่อมวลชนเขียนถึงเธอบ่อยๆว่า ‘ดาวเรียงเกิดมาเพื่อเวทีแห่งนี้’
หารู้ไม่ว่าความปรารถนาลึกๆที่ซ่อนตัวเงียบเชียบอยู่ในใจของดาวเรียงมาตลอด คือการได้ไปเดินชอปปิ้งร่วมถนนเดียวกันกับผู้หญิงธรรมดาคนอื่นๆ ได้พบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ อยากเดินกินลูกชิ้นปิ้งริมทาง อยากนั่งกินส้มตำและขนมจีนที่มีผักเยอะๆ โดยไม่ต้องคอยหลบซ่อนปาปาราสซี่ที่ตามติดชีวิตเธอจนเป็นเรียลลิตี้
ชื่อเสียงและความโด่งดังกำลังแยกหล่อนออกจากถนนสายเดิมที่เคยเดิน
ดาวเรียงเคยเปรยออกมาหลายครั้งว่ารู้สึกเหนื่อยหน่าย แม้เจ๊แป๊ดที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวจะกล่าวให้ได้ยินบ่อยๆว่า ‘ถนนสายมายาเส้นนี้…ส่งเธอมาไกลเกินกว่าจะหันหลังกับ’
ดาวเรียงรู้สึกอึดอัดใจขึ้นทุกที ปาปาราสซี่พวกนี้ขโมยเอาความเป็นส่วนตัวไปจากชีวิตเธอจนวินาทีสุดท้าย
เธอรู้สึกว่าในแต่ละวัน...ชีวิตจะเป็นของเธอก็ต่อเมื่อถึงเวลาปิดไฟนอนเท่านั้น
ไม่สิ!.....
มีบางครั้งที่ปาปาราสซี่พวกนี้ยังเข้ามารังควานเธอ…แม้ในความฝัน
ดาวเรียงพิสูจน์ด้วยช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตมาแล้ว ว่าโลกของความฝัน…มีความสุขกว่าโลกของความจริงอย่างที่เธอเป็นอยู่ จึงไม่แปลกที่หลายๆครั้ง…เธอรู้สึกอยากหลับโดยไม่ตื่น
“ยิ้มหน่อยครับคุณดาวเรียง”
ช่างภาพหนุ่มอีกคน ที่คอแขวนป้ายซึ่งมีโลโก้คุ้นตา บ่งบอกว่ามาจากแมกกาซีนบันเทิงชื่อดัง ตะโกนลั่น เมื่อความต้องการที่มีต่อเธอยังไม่จบไม่สิ้น
ดาวเรียงเบื่อที่ผู้คนชอบให้เธอปั้นหน้า แค่นยิ้มที่บางครั้งก็ฝืดและฝืน เบื่อหน่ายกับการต้องคอยเชิดหน้า ทำตัวให้สวยสง่า ยิ้มสู้กล้องได้ตลอดเวลา เหมือนหุ่นยนต์กลไกที่ไร้วิญญาณ
“อีกทีครับคุณดาว…ยิ้มหน่อยครับ”
เสียงร้องขอจากบรรดาช่างภาพดังแทรกประสานกันขึ้นมาอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้กลับไม่ได้รับการตอบสนอง
นอกจากจะไม่ยิ้มตามที่ช่างภาพเหล่านั้นตะโกนขอ เธอแสร้งทำสีหน้าเครียดขรึมเหมือนแค้นเคืองใคร ใส่ช่างภาพเหล่านั้น ทว่าในสายตาของช่างภาพและผู้คนที่มองเธอด้วยสายตาชื่นชมอยู่ตรงนั้น กลับเห็นว่าใบหน้าของเธอในยามที่บึ้งตึง ไม่ยิ้ม ช่างเต็มไปด้วยความลึกลับ น่าค้นหา มีความสวย คม โฉบเฉี่ยว เฉิดฉายอยู่ในโครงหน้าเดียวกันนั้น
‘ดาวเรียงมีพิมพ์ของใบหน้าที่ใช่ว่าจะหาได้ในนางแบบทั่วๆไป’ เป็นคำชมจากปากของคณะกรรมการคนหนึ่งที่กล่าวให้เธอได้ยิน เมื่อวันตัดสินรอบสุดท้าย ก่อนเธอจะคว้าตำแหน่งซุปเปอร์โมเดลเมื่อสามปีก่อน
“นางแบบคนนี้เป็นใครครับคุณแม่!...?” เฟอร์นานโด ทายาทคนเดียวของคุณอิงอรซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมและรีสอร์ตชื่อดังหลายแห่งในประเทศ เอ่ยถามกับผู้เป็นมารดาที่นั่งอยู่ใกล้ๆ
ไม่แปลกที่เฟอร์นานโดไม่รู้จักนางแบบชื่อดังคนนี้ เพราะเขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับบิดาซึ่งมีธุรกิจต้องดูและอยู่ที่ต่างประเทศ
“ดาวเรียง พราวดวงเด่น นางแบบที่กำลังโด่งดัง