บทที่ 14 วางใจในตัวเสด็จแม่
โดยนิสัยของโจวเจ๋อฮั่นเขาไม่นิยมชมชอบที่จะให้เหล่าสตรีเข้ามาวุ่นวายในจวน หากต้องการเพียงกระดิกนิ้วเจ้าอี้เหวินก็เนรมิตผู้ที่เข้ามารับใช้เขาได้อย่างรวดเร็ว
เพราะเป็นพระประสงค์ของเสด็จแม่โจวเจ๋อฮั่นจึงไม่อาจปฏิเสธความหวังดีนี้ได้ จวนอ๋องอื่นมีสตรีทั้งอนุทั้งสตรีข้างห้องนับสิบนาง
สำหรับเขาแล้วห้านางนี้ยังน้อยไปในสายพระเนตรของเสด็จแม่ เช่นนั้นเขาค่อยหาเรื่องส่งพวกนางกลับเข้าวังหรือส่งออกนอกจวนในภายหลังก็แล้วกัน
เมื่อกลับไปถึงจวนก็พบว่าเจ้าอี้เหวินมารอเขาอยู่ก่อนแล้ว อีกทั้งคนผู้นั้นยังใช้สายตากรุ้มกริ่มมองสตรีที่ติดตามอย่างเปิดเผย
โจวอ๋องสั่งให้พ่อบ้านจัดเรือนแยกให้สตรีเหล่านั้นพัก อีกทั้งเรือนพวกนั้นยังห่างจากเรือนท่านอ๋องชนิดหากไม่เรียกหาก็อาจไม่พบหน้ากันตลอดชีวิต
เจ้าอี้เหวินเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกเสียดายเป็นอย่างยิ่ง
"ท่านอ๋องสาวงามเช่นนั้นเหตุใดจึงให้ไปอยู่เรือนท้ายจวน"
"เรือนพักในจวนที่ว่างและเหมาะสมที่จะให้อยู่คือท้ายจวน ที่นั่นสะดวกสบายมากเจ้าขัดข้องหรือ"
"โถ่ไท่โฮว่ทรงคัดเลือกหญิงงามเช่นนั้นมาให้ท่าน อย่างไรก็อย่าทำร้ายพระทัยไท่โฮว่เลย"
"หากเจ้าต้องการข้าจะยกให้"
"มิกล้า มิกล้า"
"เจ้าประหลาดแล้ว มีสิ่งใดที่คนอย่างเจ้าอี้เหวินไม่กล้าบ้าง"
"มิกล้าขัดพระทัยไท่โฮว่ เอาเป็นว่าปล่อยพวกนางอยู่ที่นี่ไปก่อนหากท่านรู้สึกเบื่อขึ้นมาให้ยกให้ข้ายังไม่สาย"
โจวเจ๋อฮั่นมองหน้าสหายคนสนิทแล้วส่ายหน้า พร้อมทั้งเอ่ยว่า
"อ้อที่แท้ก็อยากได้ แต่ยังเกรงพระทัยเสด็จแม่"
"เป็นท่านที่เข้าใจข้าที่สุด" เจ้าอี้เหวินหัวเราะอย่างมีความสุข
"เจ้าไร้สาระยิ่ง เรื่องที่ให้สืบไปถึงไหนแล้ว"
เจ้าอี้เหวินไม่รีบร้อนตอบ เขาค่อยๆสูดดมความหอมของชาที่บ่าวรินให้แล้วจิบช้าๆ อีกทั้งยังชายตาดูท่าทางร้อนใจของท่านอ๋องอย่างนึกขบขัน จวบจนในที่สุดเขาก็เอ่ยขึ้นราวกับไม่ใส่ใจ
"จากที่ติดตามสืบหาจากอาภรณ์ของนางนั้น ผ้าไหมที่คุณหนูผู้นั้นใช้พบว่าเป็นของโรงผ้าจินซ่านอีกไม่นานคงสืบได้ว่าคนที่ซื้อผ้าชิ้นนั้นไปตัดอาภรณ์เป็นผู้ใดกันบ้าง"
"ทำงานได้ไม่เลว แต่เชื่องช้าไปสักหน่อย"
"ดูเหมือนท่านอ๋องจะติดใจนางผู้นั้น ข้าน้อยก็หาได้แปลกใจในเมื่อนางงดงามชวนตะลึงปานนั้น"
"อย่าได้พูดมากความข้าคร้านที่จะฟังเจ้า ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีเถิดส่วนความคิดของข้าอย่าบังอาจคิดจะคาดเดาเลย"
"ท่านอ๋องนี่ท่านกำลังผลักไสสหายเช่นข้าอยู่ เป็นไปได้อย่างไร"
"ข้าบอกแล้วว่าทุกคำของเจ้า ล้วนเป็นคำที่พูดออกมามากเกินความจำเป็น อาเหวินเจ้าดูนี่เคยเห็นสิ่งนี้หรือไม่"
โจวเจ๋อฮั่นล้วงมือเข้าไปในสาบเสื้อแล้วหยิบผ้าชิ้นเล็กผืนหนึ่งออกมาส่งให้เจ้าอี้เหวิน
เมื่อเจ้าอี้เหวินพิจารณาดูแล้วจึงส่ายหน้า โจวเจ๋อฮั่นดึงผ้าผืนนั้นกลับคืนและเก็บไว้ในที่เดิมด้วยความระมัดระวัง
"ลักษณะการตัดเย็บเช่นนี้ไม่อาจเรียกว่าเป็นผ้าเช็ดหน้า หรือผ้าคาดอำพรางใบหน้าได้ ที่ข้าให้เจ้าดูเผื่อว่าเจ้าเห็นของที่คล้ายกันแบบนี้ก็ให้ตรวจดูให้ละเอียดไม่แน่ว่าอาจจะพบนางก็เป็นได้"
เจ้าอี้เหวินพยักหน้าเข้าใจ เมื่อเห็นว่าท่านอ๋องของเขายังเก็บผ้าชิ้นเล็กนั้นติดกายอีกทั้งท่าทางแปลกประหลาดราวกับหวงผ้าผืนน้อยนั้นพลันยิ้มเจ้าเล่ห์
"ท่านอ๋องข้ารู้มาเรื่องหนึ่งท่านอยากฟังหรือไม่"
"หากอยากเล่าก็เล่ามา หากเจ้าไม่อยากข้าก็หาได้ใส่ใจ"
มีหรือเจ้าอี้เหวินจะรอช้าเขารีบเอ่ยขึ้นว่า
"เรื่องนี้มีข่าวว่า ว่าที่พระชายาของท่านเป็นบุตรสาวคนเล็กของท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายเสนาบดีหลิวผู้อ่อนน้อมผู้นั้น เสนาเฒ่านั่นจากที่ข้าให้คนสืบมา ไม่คิดว่าเขาจะยังมีบุตรสาวอีกหนึ่งคนเห็นว่าหลายปีก่อนตกน้ำจำความไม่ได้จนกลายเป็นสตรีบ้าใบ้ เหตุใดองค์ไทว่โฮว่จึงต้องการให้ท่านแต่งกับคนเช่นนั้น เรื่องนี้ท่านมีความเห็นว่าอย่างไร"
"ไม่เห็นว่าอย่างไร เรื่องพระชายาเป็นเสด็จแม่ที่จัดการ ข้าเป็นเพียงบุตรหากเสด็จแม่ต้องการให้แต่งข้าก็ไม่ขัด ดีเสียอีกหากนางบ้าใบ้จะได้ไม่ต้องเข้ามาวุ่นวายกับข้านัก ขังไว้ให้ห่างจะได้ไม่ต้องคอยขัดหูขัดตา"
"ท่านอ๋องของข้าช่างแปลกประหลาดเสียจริง"
"แล้วอย่างไร ข้าหาได้สนใจ"
"เรื่องนี้น่าสนใจกว่าที่ท่านคิด ท่านไม่สนใจฟังต่อหรอกหรือ"
ถึงเจ้าอี้เหวินจะเป็นนักรบ แต่ด้วยนิสัยเจ้าสำราญเขาย่อมไม่พลาดเรื่องสนุกเช่นนี้
"ไม่ว่านางจะเป็นเช่นใด ถึงอย่างไรข้าก็ต้องแต่งนางเป็นพระชายาอยู่ดี มีอะไรน่าสนใจหรือ"
"โถ่ท่านอ๋อง นางจากนางจะบ้าใบ้จำความไม่ได้ยังมีข่าวลือหนาหูว่านางใบหน้าเสียโฉมเพราะอุบัติเหตุไฟไหม้ที่นางกระทำขึ้นมาเอง เพราะแบบนี้หากท่านแต่งเท่ากับว่าท่านได้สตรีบ้าใบ้อีกทั้งยังได้สตรีเสียโฉมมาเป็นชายา เช่นนี้คนจะไม่หัวเราะเยาะไปทั่วหรือ"
เสียโฉมหรือ เขาก็เคยพบสตรีผู้หนึ่งที่เสียโฉมและสุดท้ายสตรีผู้นั้นเพียงแต่ทำเรื่องหลอกลวง อีกทั้งเสด็จแม่ของเขาเป็นสตรีที่เฉียบคมไม่มีทางที่จะให้สตรีเช่นนั้นมาเป็นภรรยาของเขาแน่
เพราะเชื่อใจเสด็จแม่ข่าวลือก็เป็นเพียงข่าวลือ หรือหากเป็นเรื่องจริงแล้วอย่างไร คนเช่นเขาหาได้สนใจไม่