บทที่ 4
การเดินทางไม่ลำบากจนมากเกินไป แต่ก็ไม่สะดวกสบายเกินไปของเป่าฮู่ มาจนถึงเมืองซื่อหู่ อันเป็นสถานที่ตั้งของ บ้านสกุลเหมยและเป็นเป้าหมายแรกของชายหนุ่มผู้เดินบนเส้นทางที่เดียวดายนี้
“นี่ขอรับคุณชาย บ้านสกุลเหมยที่ท่านตามหา ท่านจะมาตัดเสื้อผ้าก็ไม่บอกข้า”
เพียงได้เห็นป้ายหน้าร้านตัวขนาดใหญ่สลักอักษรที่เด่นชัด ขึ้นป้ายซะจนเป่าฮู่เองยังต้องยกยิ้มออกมา
“นี่นะหรือ บ้านของเจ้าแม่นางเหมยฮวา แต่ก่อนอื่นขอไปซื้อเสื้อผ้าที่ดีมาเปลี่ยนก่อนเถอะ”
เป่าฮู่เดินเข้าไปพร้อมทั้งสอบถามราคาและหลอกถามเรื่องต่างๆจากพนักงานในร้าน หลังจากนั้นตัวเป่าฮู่ก็ได้เห็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินย่ำกายออกมา ด้วยบารมีที่แผ่ออกมา ดูมีราศีที่ดีกว่าใครเพื่อน
เพียงพนักงานตัวร้ายที่ต้อนรับเป่าฮู่อยู่นั้นหันมาพบเจอ ชายผู้เป็นถึง เถ้าแก่ร้ายและผู้นำการค้าสกุลเหมยไปในตัว
“คาราวะท่านผู้นำ”
เหมยซุนบิดาของเหมยฮวา เพียงเห็นพนักงานหันมาสนใจตนแทนลูกค้าที่ยืนอยู่ด้านข้าง ทำให้เหมยซุนต้องเดินมาขออภัยลูกค้าด้วยตนเอง
“บัดซบ! มิเห็นหรือว่าลูกค้ารอเจ้าอยู่ไป! ลูกค้าคนนี้ข้าจะรับหน้าแทนเอง”
เพียงเท่านั้นเป่าฮู่ที่ยืนมองชายวัยกลางคนผู้นี้ด้วยความสนใจ แม้ความองอาจผ่าเผยจะสู้ชายหนุ่มไม่ได้ แต่ก็เปี่ยมด้วยความทะนงตน และเป็นครั้งแรกที่เห็นผู้นำตระกูลอาสารับหน้าเด็กรุ่นเยาว์เช่นตน
(ระดับปราชญ์ลมปราณ ขั้นปลาย นับว่าไม่เลว)
เมื่อเหมยซุนชายผู้ที่ดำรงตำแหน่งผู้นำตระกูลเดินเข้ามารับหน้าแทนพนักงาน
“คาราวะคุณชาย มิทราบว่าท่านต้องการสินค้าใดในวันนี้!”
เป่าฮู่ได้ฟังก็กล่าวตอบออกไปในสิ่งที่ต้องการ
“เอ่อไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นก็ได้ ว่าแต่พอมีชุดให้ข้าน้อยเลือกสักหน่อยหรือไม่?”
เพียงคำถามนี้ เหมยซุนหันไปมองพนักงานร้านด้วยสายตาคาดโทษ โดยเป่าฮู่ก็รู้ถึงการกระทำนั้น จึงกล่าวออกไปเพื่อลดทอนสิ่งที่พนักงานคนนั้นจะโดน
“เอ่อ...ไม่เกี่ยวกับพนักงานคนนั้นหลอกนะขอรับ เพียงแบบพี่ชายท่านนั้นมอบให้ข้าดูน้อยดูยังไม่โดนใจ และเอ่อข้าน้อยมาที่นี่เพียงได้ทราบมาว่าตระกูลเหมยชำนาญเรื่องการตัดเสื้อผ้าเป็นอย่างมาก และ เอ่อ.....เอ่อ...”
เหมยซุนเห็นอาการลังเลใจของชายหนุ่มจึงถามออกไป
“คุณชายท่านนี้มีสิ่งใดก็กล่าวเถอะ เพราะว่า ข้าเหมยซุนเป็นคนใจกว้างมีสิ่งใดที่คุณชายต้องการติชมแนวทางการตัดเสื้อผ้าเชิญว่ามาได้เลย?”
เมื่อเป่าฮู่สำรวจเงินในตัว พบว่าเหลือเพียงไม่มากจึงคิดว่า จะเจรจามัดจำไว้ก่อนเท่าเงินที่มี
“อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย เถ้าแก่ ข้าน้อยต้องการชุดแบบนี้สัก 2 ชุดและชุดที่ไว้สำหรับต่อสู้อีก 1 ชุด ว่าแต่เถ้าแก่ในเมืองหู่นี้จะหาเงินได้ดี และเร็วนั้นต้องทำเช่นไรดี?”
การหลอกถามถึงแหล่งที่มาของเงิน เป่าฮู่เด็กหนุ่มที่เติบโตมาเพียงลำพังต้องถนัดการดิ้นรนเอาตัวรอดอยู่แล้ว
“คุณชาย ค่าตัดชุดทีท่านกล่าวมา คือ50 ผลึกลมปราณระดับกลาง และอีก 10 ผลึกลมปราณระดับต่ำ ไม่ทราบคุณชายมีเงินมาพอหรือไม่ หากไม่พอ ข้าคงต้องตัดตามเงินที่คุณชายมีก่อน
ส่วนเรื่องที่คุณชายถาม นั้นเมืองหู่ หากจะหาเงินได้เร็วและไม่เสี่ยงตายมากนักก็คือ อาชีพคุ้มกันขบวนสินค้า แต่หากต้องการเงินแบบเร่งด่วนนั้นคงขึ้นอยู่กับฝีมือ
เพราะที่เมืองหู่มีการรับจ้างล่าอสูรตามคำสั่งของจวนเจ้าเมือง เหล่าลูกคุณหนูจากแดนศักดิ์สิทธิ์ต้องการอสูรที่มีวงแหวนตามที่พวกตนต้องการ แต่ไม่อยากและมีความเสี่ยง จึงจ้างคนเช่นเราๆจากดินแดนรอบนอกออกไปล่ามาให้ ส่วนเนื้อหาและตัวเป้าหมายก็ไปรับได้ที่จวนเจ้าเมือง”
เพียงเท่านั้นเป่าฮู่ก็จ่ายเงินที่เหลือทั้งหมดไป 30 ผลึกพลังลมปราณระดับกลาง โดยหักค่าอาหารเอาไว้ 10 ผลึกพลังงานระดับกลาง เอาไว้เป็นทุนก้นหีบ และก่อนที่ เถ้าแก่เจ้าของร้านจะจากไป เป่าฮู่ก็ฉวยโอกาสถามคำถามอีก 1 ข้อ
“เอ่อ... ข้าน้อยขอเวลาเถ้าแก่สักครู่ ข้าน้อยยังมีคำถามที่ค้างคาใจต้องการถามท่านสักครั้งได้หรือไม่?”
เมื่อเหมยซุ่นได้ฟังวาจาเด็กหนุ่มก็มองดูเวลาและหันกลับมากล่าวอย่างเร่งรีบ
“อื่ม เห็นแก่ท่านเป็นลูกค้าที่ดี เชิญท่านกล่าวคำถามของท่านมาหากข้าตอบได้จะตอบมันให้”
เพียงเท่านี้แผนการที่วางไว้ตั้งเนินนานก็เสร็จ เป่าฮู่ไม่รอช้าเริ่มบรรเลงงัดเอาไม้เด็ดออกมา การกล่าวถึงสิ่งที่ตัวของเป่าฮู่ต้องการสื่อออกมา จนเวลาที่กล่าวถ้อยคำเหล่านั้นออกไป สีหน้าของเหมยซุ่นก็พลันดำมืดลงทุกขณะ
“สิ่งที่ข้าน้อยสงสัยนั้น ท่านพอช่วยตอบข้าได้หรือไม่ว่า ข้าน้อยได้พบเจอเรื่องที่น่าเศร้าของหญิงนางหนึ่งมา นางตกตายไปเพราะความริษยาของผู้อื่น
โดยทิ้งจดหมายเลือดที่นางเขียนกับมือของนางไว้ และข้าน้อยที่บังเอิญไปพบเจอเหตุการณ์เข้า จึงเดินทางมาเพื่อมอบสารนั้นแก่ผู้ที่คาดว่าจะเป็นบิดาหรือมารดาของนาง ท่านพอรู้จัก หญิงสาวที่ชื่อว่า เหมยฮวาหรือไม่?”
เพียงคำกล่าวนั้นดังออกมา ภาพที่ตัวเหมยซุ่นได้เห็น ร่างของบุตรสาวที่ตกตายไป หลังจากลับมาจากสำนักเจ้าเมืองซื่อหม่า ด้วยความสงสัยเหมยซุนนำหมอชั้นดีไปสำรวจศพ กลับพบว่านางตกตายเพราะลมปราณแตกซ่านจากภายในและนั่นยังทำให้เหมยซุนคลางแคลงใจอยู่ตั้งแต่ตอนนั้น
“คุณชาย! ท่านกล่าวว่า ท่านพบเจอนางด้วยความบังเอิญ สถานที่แห่งนั้นคือที่ใด? และเหตุที่นางตกตายคือสิ่งใดกันแน่? หากท่านล้อเล่นเชื่อได้เลยว่าข้าจะบดขยี้ท่านซะตอนนี้”
บรรยากาศที่เหมยซุนปลดปล่อยพลังลมปราณระดับปราชญ์ออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เป่าฮู่ก็กล่าวทักเตือนสติออกไปทันที
“เถ้าแก่เหมยซุน ท่านโปรดระงับโทสะ ข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านกับนางมีความสัมพันธ์ใด แต่ว่า สถานที่ที่ข้าพบร่างของนางก่อนที่ศิษย์สำนักเจ้าเมืองซื่อหม่าจะนำออกไป คือ ถ้ำลับด้านในของสำนักหลังภูเขาสูง
ข้าใช้ที่แห่งนั้นฝึกตนมานานกว่า 2 ปี จึงได้เห็น แต่ขณะที่ข้าฝึกตนข้าไม่อาจจะขยับได้ จนในที่สุดข้าก็ถูกลมปราณร้อน จากร่างบุตรสาวท่านแผ่ออกมา จนทำให้ข้าต้องหลุดจากการฝึกตนจนได้รับบาดเจ็บ
ภาพที่เห็นก็คือหญิงสาวที่ถูกนำพาตัวมาในสภาพที่ไร้ซึ่งสติ พร้อมถูกจับกรอกยาพิษบางอย่างลงไป จนทำให้นางเกิดอาการธาตุไฟเข้าแทรก นี่คือจดหมายที่นางเขียนเองกับมือ”
ความโกรธที่มีปะทุทันทีหลังรู้ความจริง แต่อีกใจหนึ่งก็โกรธชายหนุ่มผู้นี้ที่เห็นแต่ไม่ยื่นมือเข้าไปช่วย หากตัวชายหนุ่มยื่นมือเข้าไปช่วย นางคงไม่ตกตายอย่างอนาถเช่นนี้ แต่เพียงเสี้ยวอึดใจที่ระงับความโกรธจุดนั้นได้
เหมยซุนพุ่งเป้าไปที่ตัวผู้ลงมือตัวจริง และอักษรลายมือของเหมยฮวาที่ให้ตายเหมยซุนก็ไม่มีทางลืมเลือน เนื้อหากล่าวถึงคนที่ลงมือก็คือ ตระกูลลู่ และตระกูลหนิว เพียงเท่านี้ก็ทำให้เหมยซุนดีใจมากแล้ว
“เรียนคุณชายท่านนี้ไม่ทราบว่า คุณชายชื่อแซ่อะไร และข้า ก็ขอเชิญคุณชายร่วมไปเยือนตระกูลทั้งสองพร้อมกับข้าด้วย”
เอาแล้วไงการหาเหาใส่หัว เป่าฮู่ได้ฟัง ก็กล่าวออกไปว่า
“เรียนเถ้าแก่ตามตรง ข้าเพียงมาแจ้งข่าวให้แก่นางหวังให้ท่านทำพิธีให้นาง ส่วนเรื่องที่ท่านจะชำระแค้นนั้นข้าคนนอกไม่ขอยุ่งเกี่ยว”
เมื่อคำกล่าวนั้นดังออกมา เหมยซุนที่มีโทสะระเบิดลมปราณออกมาเป้าหมายคือเป่าฮู่ แต่เป่าฮู่ที่มีระดับลมปราณที่สูงกว่า ก็เพียงหยัดยืนอยู่ท่ามกลางสายลมที่ปะทะกับร่างกายเท่านั้น
“ท่านคิดถูกแล้วหรือ ที่ทำกับข้าที่เป็นทั้งลูกค้าและผู้ส่งสาร เถ้าแก่เหมยซุน?”
เป่าฮู่ได้เห็น ก็ไม่อาจทนต่อไปกับพฤติกรรมเหล่านี้ได้ จึงปลดปล่อยลมปราณ ระดับราชาขั้นปลายออกไปเพียงชั่วครู่ ร่างของเหมยซุนก็กระเด็นออกไปชนกับเข้าของในร้านค้าจนพินาศ
((((ครึ่ม!))))
ภาพที่พนักงานร้านได้เห็น และทหารยามของตระกูลต่างกรูเข้ามา
“ท่านผู้นำ!”
“ท่านพ่อ !”
ทั้งอาวุโสและบุตรชายของเหมยซุนต่างพากันกรูเข้ามา บัดนี้เบื้องหน้าของเป่าฮู่ เหล่าชาวยุทธ์มากมายที่เป็นสมาชิกตระกูลเหมยกำลังจะเข้าจัดการกับชายหนุ่มแปลกหน้าคนนี้
“ไม่ต้องพูดมาก คุณชาย ต้องเป็นมัน จัดการ”
แต่เพียงเสี้ยวอึดใจ “หยุด!” คำๆเดียวที่ทำให้เป่าฮู่ลดการป้องกันลงคือภาพของเหมยซุนคุกเข่าต่อหน้าเป่าฮู่
“สหายน้อย ข้าต้องขออภัยท่าน สำหรับความโง่เขลาของข้า มีตาแต่ไร้สมอง มองไม่เห็นว่าท่านเก็บงำความสามารถไว้”
ด้านบุตรชายที่เย้อหยิ่งของเหมยซุน นามเหมยเชียน
“ท่านพ่อ! นี่ท่าน”
“หุบปาก!”
เป็นเหมยซุนตวาดออกไป ท่ามกลางการรับรู้ของชายหนุ่มตรงหน้า เป่าฮู่ก็กล่าวออกไปเพียงว่า
“ข้านำความมาบอกแก่ท่าน เพราะเวลานี้คนแซ่หนิวที่ตายตามหญิงสาวนางนี้ไป ก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน ท่านควรหันไปจัดการ อย่างไรก็ตามสมควร คนแซ่ลู่ที่เหลือ ไม่ใช่ข้า เอาหละวันนี้ข้าจะคิดว่าข้าโง่เองที่ยื่นมือช่วยคนเขลาเช่นพวกท่าน”
ก่อนที่เป่าฮู่จะหันหน้าเดินจากไป เหมยซุนก็รีบให้พนักงานร้าน นำเสื้อผ้าชั้นดี 2 ชุดพร้อมเงินอีก 100 ผลึกลมปราณระดับกลางไปมอบแก่เป่าฮู่ที่กำลังจะจากไป
“เจ้า! รีบเอาของในแหวนนี้ไปมอบแก่คุณชายท่านนั้นหากเขาไม่รับของในแหวนนี้ ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งซะ”