บทที่ 8 งานประมูล
“สวัสดีดาวิส ยัยเซล่าไม่ว่างแม่เลยมากับตาลูซจ้ะ”
“สวัสดีหลานชาย”
“หวัดดีเพื่อน วันนี้มีอะไรดีๆบอกกันบ้างสิวะ” ลูเซียโนถามเพื่อนรักเพราะทุกครั้งดาวิเต้จะมีเซอร์ไพรส์ตลอดและครั้งนี้เหมือนกันแต่เขาอยากรู้ก่อน
“บอกไม่ได้ว่ะ นายลุ้นเอาก็แล้วกันแต่บอกเลยว่านายพลาดไม่ได้เลยเพื่อน” ดาวิเต้ตบไหล่เพื่อนเบาๆยิ่งทำให้ลูเซียโนอยากรู้ซะแล้วว่าที่เพื่อนบอกมันจะเจ๋งแค่ไหนเพราะแต่ละคอลเลคชั่นของแองเจิลจิวเวลรี่จะมีเครื่องเพชรชุดพิเศษหนึ่งชุดเอามาประมูลเพื่อการกุศลทุกครั้งและเป็นไฮไลท์ของงานที่แขกทุกคนรู้และต้องการส่วนเงินรายได้เขาจะนำไปบริจาคทั้งหมด
“โอเคเพื่อนงั้นวันนี้ฉันสู้หมดหน้าตักเลย” ลูเซียโนพูดจบก็เดินไปถึงเก้าอี้แถวหน้าที่ดาวิเต้จัดให้เพื่อนและแม่กับป้าของลูเซียโนและที่ว่างของเฮนดริกที่ยังไม่มา
“เชิญนั่งครับคุณแม่คุณป้า” ดาวิเต้บอกแม่ของเพื่อนอย่างนอบน้อมเขาสนิทกับที่บ้านของลูเซียโนทุกคนและเข้านอกออกในเหมือนบ้านตัวเองมาตั้งแต่เด็กเพราะพ่อของเขาเป็นเพื่อนรักกับโรเรนโซ่จึงทำให้สนิทกัน
“ขอบใจมากลูก”
“ขอบใจมากหลานชาย ไปดูแลงานเถอะลูกจะได้ไม่มีอะไรผิดพลาด” ป้ามีอาบอกดาวิเต้ที่ท่านเห็นมาแต่เล็กแต่น้อยเหมือนเป็นหลานชายของท่านอีกคนหนึ่ง
“ผมขอตัวนะครับ คุณแม่กับคุณป้าถูกใจชุดไหนบอกผมได้นะครับผมจะล็อคไว้ให้ครับ” ดาวิเต้บอกท่านทั้งสองท่านแล้วก็พยักหน้าให้เพื่อนเป็นอันรู้กันแล้วเดินไปหลังเวทีที่พลุกพล่านไปด้วยบอดี้การ์ดเป็นร้อยและทีมงานนางแบบวุ่นวายกันไปหมด ตู้เซฟขนาดใหญ่วางอยู่กลางห้องที่มีบอร์ดี้การ์ดยืนล้อมสามชั้นไหนจะอยู่นอกห้องอีกเขาจึงไม่กลัวว่าจะมีเหตุการณ์ตื่นเต้นเกิดขึ้น
ลูเซียโนคุยกับแม่และป้าของเขาเรื่องเครื่องเพชรและให้แม่และป้าเลือกคนละชุดเขาจะเป็นคนจ่ายให้เองเหมือนทุกครั้งเวลาที่แด๊ดของเขาไม่มาด้วย
“หลานแน่ใจนะลูซว่าให้ป้าเลือกน่ะ” คุณมีอาถามหลานชายที่ยิ้มให้สาวสวยทีเดินผ่านไปแล้วหยิกเอวหนาของเขา
“โอ้ย..ป้าหยิกผมทำไมเจ็บนะครับ อู้ยย..” ชายหนุ่มลูบเอวตัวเองป้อยๆมีสายตาของมาดามบี๋มองลูกชายอย่างสมน้ำหน้า
“ก็หลานคุยกับป้าอยู่นะลูซ แต่ไปไปมองแม่สาวร้อนนั่นตาวาวเลยเชียว” ป้ามีอาว่าให้หลานรักอย่างหมั่นไส้เพราะผู้หญิงแต่ละคนที่เข้าหาหลานชายท่านก็มีแต่ข่าวฉาวกันทั้งนั้นทำให้ท่านไม่ชอบ
“โธ่ป้าครับ ถึงผมจะมองเธอแต่ผมก็ฟังป้าพูดนะครับ คืนนี้ป้ากับแม่อยากได้ชุดไหนผมจัดให้เลย โอเคมั้ยครับ” ลูเซียโนบอกท่านทั้งสองอีกครั้งเฮนดริกก็เดินมานั่งข้างเขาจับมือทักทายกัน
"หวัดดดีเพื่อน"
"หวัดดีเพื่อน วันนี้ฉายเดี่ยวเหรอวะลิลลี่ปล่อยเสือออกมาจากถ้ำได้ยังไงนะ" ลูเซียโนแซวเพื่อนรักที่แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว
"ลูก้าไม่สบายเลยไม่ได้มาด้วยน่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันเพื่อน"
"โอเค เพื่อน"
จากนั้นไฟในงานก็หรี่ลงเหลือแต่บนรันเวย์ที่สว่างจ้าเสียงเพลงดังขึ้นอย่างเร้าใจนางแบบก็เดินออกมาตามรันเวย์เพื่อโชว์เครื่องเพชรแต่ละชุดที่ออกแบบมาอย่างสวยงามสมราคาและแน่นอนทุกคนก็อยากเป็นเจ้าของจนเวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมงนางแบบคนสุดท้ายเดินอกมาเรียกเสียงฮือฮาจากทุกคนที่อยู่ในห้องแกรนด์บอลรูมที่เห็นเครื่องเพชรสีชมพูเช็ตใหญ่ตั้งแต่ปิ่นปักผมสีพิ้งโกลด์หัวประดับด้วยเพชรหยดน้ำสีชมพูเม็ดใหญ่ก้านปิ่นประดับด้วยเพชรน้ำงามสีขาวแวววาวระยิบระยับพู่ห้อยระย้าก็เป็นเพชรสีขาวและปลายพู่มีเพชรสีชมพูเม็ดใหญ่งดงามต้องตาต้องใจทุกคนตามด้วยสร้อยคอทรงหยดน้ำร้อยเรียงเพชรสีชมพูทั้งเส้นมีเพชรขาวเรียงซ้อนประกบและโดดเด่นด้วยเพชรสีชมพูทรงหยดน้ำเม็ดใหญ่สิบกว่ากระรัตห้อยเหนือเนินอกของนางแบบและกำไลข้อมือที่ทำเหมือนโช้กเกอร์ประด้วยเพชรสีชมพูทั้งวงผสมผสานกับทองสีพิ้งโกลด์และแหวนเพชรสีชมพูเม็ดใหญ่และกำไลข้อเท้าที่ออกแบบเหมือนกำไลข้อมือแต่เล็กกว่าและมีเสียงกระดิ่งดังกรุ๋งกริ๋งทุกย่างก้าวที่พิเศษก็คือทั้งกำไลข้อมือข้อเท้ามีผู้ที่เป็นเจ้าของเท่านั้นที่ปิดเปิดล็อคได้
เมื่อนางแบบสาวสวยหยุดเดินแล้วส่งสายตาให้ลูเซียโนแต่เขาไม่ได้สนใจเพราะเล็งอีกคนไว้แล้วเขาก็ส่งสัญญาณให้ฟรังโก้คนสนิทที่เป็นทั้งเลขาและบอดี้การ์ดไปจัดการให้ พิธีกรบนเวทีก็บรรยายถึงเครื่องเพชรชุดนี้ออกแบบผสมผสานลวดลายของยุคเก่าหลากหลายจนออกมาเป็นเครื่องเพชรชุด ดวงใจพิสุทธิ์
“ทุกท่านพร้อมจะเป็นเจ้าของเครื่องเพชรชุดดวงใจพิสุทธ์กันแล้วนะครับ เครื่องเพชรชุดนี้ที่ประดับเพชรสีชมพูทั้งหมดกว่าสามสิบเก้ากระรัตและเพชรสีขาวอีกหกสิบกระรัตรวมแล้ว ชุดนี้เก้าสิบเก้ากระรัตครับ” เสียงคุยกันดังขึ้นมหาเศรษฐีทั้งหลายก็เตรียมตัวประมูลเพื่อจะได้มาครอบครอง
“ถ้าพร้อมแล้วก็ถือป้ายไว้รอเลยนะครับ ราคาประมูล ดวงใจพิสุทธ์ เริ่มต้นที่สามสิบล้านครับ” พิธีกรพูดจบทุกคนก็เตรียมยกป้าย
“สามสิบห้าล้าน/ สี่สิบล้าน/ ห้าสิบล้าน/ ห้าสิบสามล้าน/ ห้าสิบห้าล้าน/ หกสิบล้าน”
“ตอนนี้ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วครับ มีใครให้มากกว่าหกสิบล้านครับ”
“เจ็ดสิบล้านครับ”
“คุณลูเซียโนให้ เจ็ดสิบล้านครั้งที่หนึ่ง...”
“เจ็ดสิบห้าล้านครับ” เฮนดริกก็ยกป้ายประมูลทันที
“โอ้ ตอนนี้ คุณเฮนดริก ให้เจ็ดสิบห้าล้านครับ เจ็ดสิบห้าล้านครั้งที่หนึ่ง..” พิธีกรประกาศชื่อของเฮนดริกก็หันไปมองแล้วยกป้ายขึ้นสู้
“แปดสิบล้าน” ลูเซียโนยกป้ายสู้ราคากับเพื่อนรักของเขา
“ตอนนี้เหลือสองท่านที่ยังขับเขี้ยวกันอยู่นะครับ และแปดสิบล้านครั้งที่หนึ่ง...”
“เก้าสิบล้าน” เฮนดริกพูดเสียงดังมองหน้าลูเซียโนแล้วหยักคิ้วให้เพื่อนรักอย่างท้าทายว่าสู้หรือปล่า
“โอ้ พระเจ้า นี่เป็นการประมูลที่ทำให้ผมหัวใจเต้นแทบทะลุออกมาแล้วครับ คุณลูซเซียโนว่ายังไงครับ เก้าสิบล้านครั้งที่หนึ่ง..”
“เก้าสิบเก้าล้าน” เสียงอื้ออึงดังขึ้นเมื่อเห็นยอดตัวเลขประมูลที่สูงขึ้นทุกสายตามองไปที่เฮนดริกที่ยกมือขึ้นขอยอมแพ้ให้เพื่อนรัก
“เก้าสิบเก้าล้าน จบลงที่เก้าสิบเก้าล้านครับ และผู้ชนะการประมูลครั้งนี้คือคุณลูเซียโน เดอวาโรเซ่ เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของอิตาลีครับ เชิญคุณลูเซียโนบนเวทีครับ” พิธีกรเชิญผู้ชนะการประมูลขึ้นมากล่าวบนเวที
“สวัสดีครับทุกท่าน ผมประมูลเครื่องเพชรชุดนี้หนึ่งเพราะเป็นเพชรหายากและผมอยากบริจาคเงินจำนวนนี้เพื่อให้การกุศลเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยครับ” ลูเซียโนรู้ดีว่าเงินจำนวนนี้ดาวิเต้จะน้ำไปบริจาคทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุถล่มทางตอนใต้ของอิตาลีเสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั้งห้องแกรนด์บอลรูม
“ขอบคุณคุณลูเซียโนมากครับ” พิธีกรก็กล่าวต่ออีกเล็กน้อยก็ปิดงานลง อย่างสวยงามในวันนี้
“ชุดนี้สวยมากเลย หลานตาถึงนะลูซ” ป้ามีอาบอกหลานชายที่ประมูลเครื่องเพชรชุดนี้มาได้