ตอนที่6 ส่งถึงที่
นาวิน
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” เทียนษาพูดขึ้นหลังจากผมมาส่งเธอถึงหน้าห้อง
“ไม่เป็นไร เข้าห้องไปเถอะ” ผมพูดขึ้น ซึ่งเธอก็พยักหน้าก่อนจะเดินเข้าห้องไปโดยไม่คิดจะชวนผมเข้าห้อง หรือถ้าให้พูดให้ถูกเธอบอกลาผมตั้งแต่ข้างล่างแล้ว แต่ผมไม่ยอมให้เธอขึ้นมาคนเดียว เลยเดินตามเธอมาอย่างมึน ๆ มาส่งเธอถึงหน้าห้อง
ไม่ใช่เป็นคนดีอะไรหรอก ก็แค่หวังว่าเธอจะชวนเข้าห้อง ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วเธอไม่ชวนแต่อย่างน้อยผมก็ได้รู้ห้องของเธอแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะดูระวังตัวมากเป็นพิเศษก็ตาม แต่สุดท้ายก็ยอมเข้าห้องไปอย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะผมไม่ยอมลงไปด้านล่าง
“หึ คนที่เธอควรระวังนอกจากฉันแล้วก็คือเจ้านายเธอนั่นแหละ” ผมพูดขึ้นกับตัวเองหลังจากเทียนษาเข้าห้องของเธอไปก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้น
ผมเป็นผู้ชายด้วยกันทำไมผมจะไม่รู้ว่าไอ้ปกป้องอะไรนั่นคิดยังไงกับเลขามัน มีอย่างที่ไหนชวนเลขาไปดื่มกินอย่างกับเพื่อน แต่เท่านั้นไม่พอ ยังมีลายนิ้วมือเข้าห้องของกันอีก ผมก็มีเลขาปะวะ ไม่เห็นต้องให้เลขาทำแบบนี้เลย แล้วไหนจะสิ่งที่มันพูดในลิฟท์นั่นอีก
“เธอคงไม่มีแฟน แต่อาจจะได้ผัวเลย” ผมพูดขึ้นกับตัวเองอีกครั้งหลังจากเข้ามาในลิฟท์
แต่จะให้ทำยังไงได้ ก็เหยื่อเล่นสวยมีเสน่ห์ขนาดนี้ ผู้ล่าที่ไหนมันจะไปอดใจไหว เสียดายก็แต่เธอดันเป็นเลขาของไอ้ปกป้องอะไรนั่น ถ้ามาเป็นเลขาของผมนะ...
หลายอาทิตย์ต่อมา
Rrrrrr เสียงโทรศัพท์ฉันดังขึ้น ซึ่งเป็นเบอร์ที่ฉันต้องเมมเก็บไว้แล้ว เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาโทรหาฉัน
“สวัสดีค่ะ” ฉันรับสายก่อนจะพูดออกไป
(คืนวันศุกร์นี้ว่างหรือเปล่า ฉันอยากชวนเธอกับเจ้านายเธอไปดื่มสักหน่อย) ปลายสายพูดขึ้น
“ดิฉันต้องถามคุณปกป้องก่อนค่ะ ว่าสะดวกหรือเปล่า” ฉันตอบกลับไปตามหน้าที่ เพราะเขาก็ไม่ใช่คนแรกหรอกกับการนัดกินข้าวหรือแฮงค์เอ้าเพื่อผูกพันธมิตรทางธุรกิจแบบนี้
(อืม ยังไงก็โทรบอกฉันหน่อยแล้วกัน)
“ได้ค่ะ”
(อืม) แล้วเขาก็วางสายไป
แกร็ก เสียงประตูเปิดออกพร้อมกับเจ้านายของฉันที่เดินออกมา
“จะกลับหรือยัง” เขาถามขึ้น
“ค่ะ” ฉันตอบก่อนจะเก็บของลงกระเป๋า เพราะได้เวลาเลิกงานแล้ว
“อ้อคุณป้องคะ วันศุกร์นี้คุณนาวินเขาอยากนัดคุณไปดื่ม คุณสะดวกไหมคะ” ฉันบอกคุณปกป้องออกไป
“นัดฉันหรือนัดเธอกันแน่” เขาพูดขึ้นเหมือนกับไม่ค่อยพอใจ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาไม่พอใจอะไร แล้วก็ไม่พอใจทุกครั้งที่พูดถึงคุณนาวินด้วย ตอนแรกที่เจอกันก็เห็นดี ๆ อยู่เลย แต่ช่วงที่ทำการส่งเฟอร์นิเจอร์ กลับดูเขาไม่ค่อยชอบคุณนาวินแปลก ๆ
“ก็คุณสิคะ ถ้านัดฉัน ฉันจะต้องถามคุณทำไม” ฉันตอบกลับไปอย่างที่คิด เพราะถ้าเขานัดฉันเขาก็คงเอาคำตอบกับฉันแล้ว ไม่จำเป็นต้องรอเอาคำตอบจากคุณปกป้องหรอก
“หึ ข้ออ้าง” แล้วคุณปกป้องก็พูดขึ้นอย่างเย้ยหยันก่อนจะเดินนำฉันไปโดยไม่รอ
“อะไรของคุณอีกเนี่ย เขามาทำอะไรให้เกลียดเมื่อไหร่คะ” ฉันเร่งฝีเท้าตามคุณปกป้องไปก่อนจะถามเขาขึ้นอย่างไม่เข้าใจ
“เก่งให้เหมือนทำงานหน่อยไม่ได้หรือไง!” แล้วเขาก็หันมาว่าให้ฉันอย่างไม่พอใจเท่าไหร่
“วันนั้นของเดือนไม่มาหรือไง” ฉันบ่นออกมาคนเดียวหลังจากถูกเขาแยกเขี้ยวใส่
“ได้ยิน!” เขาพูดขึ้นเสียงเข้มทันที ทำให้ฉันหันหน้าหนีก่อนจะเบะปากออกมา
“ว่าแต่คุณจะไปไหมคะ ฉันจะได้แจ้งเขาถูก” ฉันถามขึ้นอีกครั้งทันที คุยมาตั้งนานแล้วยังไม่ได้คำตอบสักที
“ไม่ไป ไม่ว่าง!” ไม่ว่างก็ไม่ว่างสิ ไม่เห็นต้องเสียงเข้มขนาดนั้นเลย
“ค่ะ ๆ ไม่ไปก็ไม่ไป” ฉันพูดขึ้นอย่างยอมจำนนกับอารมณ์ของเขาทันที
“แล้วเธอก็ไม่ต้องไปด้วย!” แล้วคุณปกป้องก็หันมาว่าให้ฉัน
“คุณไม่ไปแล้วฉันจะไปทำไมกันคะ” ฉันตอบกลับอย่างไม่เข้าใจ ก็นี่เขาชวนไปเพราะเรื่องธุรกิจ ในเมื่อคุณปกป้องไม่ไปฉันจะไปทำไม
“ขับรถดี ๆ ล่ะ” คุณปกป้องพูดขึ้นหลังจากลงมาถึงข้างล่าง
“คุณก็เหมือนกันนะคะ” ฉันพูดขึ้นก่อนจะเดินแยกออกมาที่รถตัวเอง
(ฉันโทรมาเอาคำตอบ) เสียงปลายสายพูดขึ้นหลังจากฉันรับสายเขา
“ต้องขอโทษด้วยค่ะ คุณปกป้องไม่ว่างค่ะ ไปไม่ได้” ฉันบอกออกไปตามตรง เรื่องการปฏิเสธก็เป็นอีกเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอไม่ว่ากับลูกค้าคนไหน
(หรอ แล้วเธอว่างไหมล่ะ) แล้วคุณนาวินก็ถามขึ้น
“ฉันหรอคะ” ฉันถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ
(อืม เธอนั่นแหละ)
“คุณถามทำไมคะ” ฉันถามกลับไป
(ก็เจ้านายเธอไม่ว่างมา เธอก็มาแทนเขาสิ) แล้วคุณนาวินก็พูดขึ้น
“อ๋อ ต้องขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่สะดวก” ฉันปฏิเสธออกไป เพราะฉันไม่มีเหตุผลอะไรต้องไปอยู่แล้ว อีกอย่างคุณปกป้องก็ไม่ได้สั่งฉันให้ไปแทน แต่เขากลับสั่งห้ามฉันด้วยซ้ำว่าไม่ให้ไป ฉันก็ไม่มีความจำเป็นต้องไป แล้วต่อให้ฉันไปเขาก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากฉันหรอก เพราะฉันไม่ใช่ผู้บริหาร
(หรอ ไม่เป็นไร งั้นแค่นี้แล้วกัน)
“สวัสดีค่ะ” แล้วสายก็หลุดไป ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร ก่อนจะหันมาทำหน้าที่ตัวเองต่อ
นาวิน
“หึ คิดว่าจะหนีพ้นหรือไง” ผมพูดขึ้นกับตัวเองหลังจากเทียนษาวางสายไป
ผมรู้นะว่าที่ไอ้ปกป้องมันไม่มาเพราะมันไม่อยากให้เทียนษามาเจอผม แล้วผมก็รู้ตั้งแต่ช่วงที่ผมติดต่อเรื่องเฟอร์นิเจอร์ด้วย เพราะผมมักจะโทรหาเทียนษาตลอด ไม่ว่าเรื่องจะเป็นหน้าที่หรือความรับผิดชอบของใคร แต่คนที่ผมติดต่อหาก็คือเทียนษาคนเดียว
แล้วมันก็แน่อยู่แล้วกับคนที่มันหวงก้างทั้งที่ไม่ใช่ก้างของตัวเอง มันก็เลยออกอาการมาตลอดว่ามันไม่พอใจผม และไม่ต้องการให้เทียนษาทำงานให้ผม เพียงแต่ด้วยหน้าที่มันเลยทำอะไรมากไม่ได้ นอกจากทน แต่หลังจากส่งมอบสินค้าให้ผมเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่แปลกที่มันจะพยายามเอาเทียนษาออกจากผม
“แล้วกูจะรอดูวันที่มึงรู้ ว่ากูได้คนของมึงแล้ว”
หลายวันต่อมา
“มึงต่อยกูหมัดหนึ่งดิ” ผมพูดกับไอ้โอบออกไปหลังจากถึงเวลาที่เหมาะสม
“อะไรของมึง อยู่ ๆ ก็ให้กูต่อย” ไอ้โอบถามออกมาอย่างแปลกใจ
“เออหน่า ต่อยกูหมัดหนึ่งดิ” ผมเซ้าซี้มันทันที เพราะผมรีบแล้วไง
“มึงบอกกูก่อน ว่าให้กูต่อยมึงทำไม” ไอ้โอบยังคงถามโดยไม่ยอมทำ ไอ้นี่แม่งขี้เสือกจังวะ
“กูจะไปหาหญิง” ผมตอบกลับเพื่อตัดปัญหา เพราะถ้าไม่ตอบมันคงไม่ยอมต่อยผมแน่
“มึงกลายเป็นคนลงทุนขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” ไอ้นนท์เพื่อนอีกคนถามออกมาด้วยความแปลกใจอีกคน
“นั่นดิ กูอยากเห็นผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ ” ไอ้โอบพูดขึ้นอีกคนด้วยความสงสัยทันที
“ไว้กูจะพามาแนะนำ แล้วมึงจะต่อยกูได้หรือยัง” ผมรับปากไปส่ง ๆ ก่อนจะทวงมัน
“เอาจริง?” ไอ้โอบถามขึ้นอีกครั้ง
“เออ ต่อยมาแรง ๆ เลย” ผมพูดพร้อมกับหันหน้ารอรับหมัดมัน
“อย่าต่อยกูกลับนะมึง” แล้วไอ้โอบก็พูดขึ้น
“เออ ไอ้นี่นิ...”
ผั๊วะ!!! ผมยังไม่ทันหงุดหงิดใส่มันเสร็จ มันก็ต่อยผมมาอย่างแรงจนหน้าผมหันไปตามแรงต่อย พร้อมกับกลิ่นคาวเลือดในปาก
“มึงเกลียดอะไรกูหรือเปล่าวะ” ผมถามมันออกไป ทำเหมือนไม่อยากต่อยไอ้ห่า อยู่ ๆ ก็ฟาดหมัดมาไม่ให้ตั้งตัวเลย
“กูทำเพื่อมึงเลยนะเว้ย!” แม่งตอบกลับเสียงสูงเหมือนร้อนตัวเลย
“เออ! กูขอบคุณมากกก!” ผมลากเสียงออกไปอย่างประชดประชัน “กูกลับละ”
ผมพูดขึ้นก่อนจะลุกออกจากที่นั่งในคลับของไอ้โอบ
“พอได้สมใจแล้วก็ไปนะมึง!” เสียงตามหลังดังมา แต่ผมไม่ได้สนใจหันไปตอบมัน
ผมขับรถออกจากคลับมาที่คอนโดแห่งหนึ่ง ก่อนจะขึ้นไปยังชั้นเป้าหมาย ก่อนจะมาหยุดหน้าห้อง ๆ หนึ่งแล้วยีหัวตัวเองปลดกระดุมเสื้อออกหนึ่งอีกหนึ่งเม็ด
ด้วยคอนโดที่เธออยู่ไม่ได้มีระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวดขนาดจะต้องสแกนคีย์การ์ดเข้าออก เลยทำให้ผมเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
ออด ออด ออด ผมรัวออดทันทีเมื่อทุกอย่างพร้อม
แกร็ก เสียงประตูเปิดออกพร้อมกับสีหน้าของเจ้าของห้องที่ดูแปลกใจมาก ไม่รู้หรอกว่าแปลกใจกับอะไร ระหว่างเห็นผม หรือสภาพของผม
“คุณ?”