บทย่อ
เมื่อคิดจะมีความสัมพันธ์แบบ FWB (เพื่อนนอนเพื่อเซ็กส์) ก็ให้ทุกอย่างมันจบลงที่เตียงเท่านั้น ห้ามรัก...ห้ามรู้สึก แต่ความผูกพันที่เกิดขึ้นมันก็ยากจะห้ามใจ และมันจะจบลงเช่นไร เมื่อคนหนึ่งเกิดรักขึ้นมา.. การัน วานิชกุลพงษ์ อายุ 32 ปี “การัน” หนุ่มลูกครึ่งอังกฤษ-ไทยที่มีหุ่นล่ำบึกขยี้ใจสาวๆ แต่กลับชอบใช้ชีวิตแบบเงียบๆ และเขาก็เลือกที่จะซื้อผู้หญิงกิน เพื่อปลดปล่อยความต้องการของตัวเองมากกว่ายุ่งเกี่ยวกับพวกดารานางแบบที่พยายามจะเข้าหาเขาเพื่อผลประโยชน์ แต่แล้ว “อนิสา” ก็ทำลายกฏของเขาจนไม่เหลือชิ้นดี ใครจะคิดล่ะว่าเด็กสาวหน้าใสๆซื่อๆอย่างเธอจะมีความต้องการที่รุนแรงมากๆ และมันก็ทำให้เขานั้นยอมคบกับเธอแบบ Friends with benefits (เพื่อนนอน) แบบที่เขาไม่คิดว่าจะคบกับใครแบบนี้มาก่อน เพียงเพื่อจะมีเซ็กส์กับเธอ และเธอก็ทำให้เขาได้เจอกับเซ็กส์ที่แปลกใหม่จนมันกลายเป็นการเสพติดเซ็กส์ของเธอไปโดยไม่รู้ตัว และนั่นก็ทำให้เขาข้ามเส้นของคำว่าเพื่อนนอนกับเธอ เมื่อเขาเกิดชอบเธอขึ้นมาจริงๆ แต่เธอกลับไม่ได้ชอบเขา เธอดันไปชอบผู้ชายอีกคน...แล้วเขาจะทำอย่างไรกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ เมื่อเขาต้องการที่จะครอบครองเป็นเจ้าของเธอทั้งตัวและหัวใจ อาย อนิสา อรุณตระการ อายุ 22 ปี “อาย อนิสา” สาวน้อยหน้าหวานที่ซ่อนความเร่าร้อนเอาไว้ข้างในจนยากที่ใครจะรู้ได้ เพราะโลกมายาที่เธออยู่นั้นไม่สามารถที่จะแสดงความต้องการของเธอได้ จนกระทั่งเธอก็ได้พบกับ “การัน” ผู้ชายที่มาปลุกความเร่าร้อนและความต้องการของเธอให้มันพลุ่งพล่าน และเธอก็ได้เรียนรู้การมีเซ็กส์สุดเร่าร้อนกับเขา จนเธอนั้นลุ่มหลงมัวเมาในเรื่องเซ็กส์ถึงขั้นยอมตกลงเป็น Friends with benefits (เพื่อนนอน) ของเขาเพื่อและกับการมีเซ็กส์แบบมันๆกับเขาได้ทุกที่..ทุกเวลา..ตามที่เธอต้องการ แต่แล้วความสนุกของเธอก็ต้องจบลงเมื่อเธอรักเขา...ซึ่งมันเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับความสัมพันธ์นี้ ดังนั้นเธอจำเป็นต้องหยุดความสัมพันธ์นี้ก่อนที่เธอจะถลำลึกไปมากกว่านี้ แต่เธอกลับท้องกับเขาขึ้นมา ทำให้เรื่องราวของเธอและเขาไม่สามารถที่จะจบลงได้..และเธอจะไม่ยอมเสียพ่อของลูกไปให้ผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น... เรื่องย่อ “คุณจูบเก่งจัง...อือ...ฉันหายใจแทบไม่ทันเลย...” “ผมไม่ได้เก่งแค่จูบนะ..อย่างอื่นผมก็เก่งเหมือนกัน...” “อย่างอื่นที่คุณบอกนี่อะไรเหรอคะ..บอกฉันหน่อยได้ไหมคะ” “นอกจากผมจะจูบเก่งแล้ว ผมก็ยังเอาเก่งอีกด้วยนะ คุณอยากจะลองไหมล่ะ...” .........โปรดติดตามอ่านในเรื่อง......
1. ตุ้ม..รถชน
ถนนในกรุงเทพกำลังรถติดในช่วงเช้า ทำให้ “อาย อนิสา” ดาราสาวที่กำลังเป็นราวรุ่งดวงใหม่นั้นร้อนใจมากเพราะเธอมีนัดแคสติ้งละครเรื่องใหม่ แต่ตอนนี้เธอยังไปไม่ถึงไหนเลยเพราะรถดันมาติดแงกอยู่แบบนี้
“ตุ้ม!...ให้ตายเถอะ จะเบรกทำไมเนี่ย...คนยิ่งรีบๆอยู่ด้วย...” อนิสาสบถออกมาอย่างหัวเสียเมื่อรถคันหน้าเบรกกระทันหัน ทำให้เธอชนเข้าที่ท้ายรถคันหน้าอย่างจัง เธอก็รีบกดไฟฉุกเฉินแล้วลงจากรถทันที
“แย่แล้ว....ชนรถแพงซะด้วย จะมีอะไรซวยกว่านี้อีกไหมเนี่ย” อนิสาเดินมามองหน้ารถของเธอก็แทบจะร้องไห้เลยเพราะเธอเป็นฝ่ายชนท้ายดังนั้นเธอผิดเต็มๆ และเธอต้องรับผิดชอบ แล้วประกันที่เธอมีมันจะจ่ายไหวไหมเนี่ย
ด้านรถคันหน้าพอถูกรถด้านหลังชนก็ถูกกระแทกอย่างแรง ทำให้คนที่นั่งอยู่ในรถนั้นเกือบจะหัวทิ่มไปด้านหน้าเบาะเลยทีเดียว
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณการัน...” พสินที่ขับรถให้เจ้านายของตัวเองก็รีบหันไปหาด้วยความเป็นห่วงทันที
“ฉันไม่เป็นไร ลงไปจัดการคนที่มาชนให้เรียบร้อย ฉันต้องรีบไปเข้าประชุม ไม่อยากจะมาเสียเวลาอยู่ตรงนี้...” การันพูดด้วยเสียงเรียบออกไปแล้วอย่างข่มความไม่พอใจของเขา
“ครับคุณการัน....รอสักครู่นะครับ ผมจะลงไปคุยกับคู่กรณีก่อนครับ...” พสินพูดไปก็รีบลงจากรถไปทันที
“นี่คุณขับรถภาษาอะไรกัน ทำไมอยู่ๆก็เบรกกะทันหันแบบนี้...” อนิสาพูดต่อว่าชายตรงหน้าทันทีเพราะเขาเบรกกระทันหันจนเธอชนเข้าให้
“ผมก็ขับของผมมาดีๆนะ คุณมาชนท้ายรถเอง จะมาว่าผมได้ยังไง เอะ คุณคือดาราใช่ไหม เหมือนว่าผมเคยเห็นคุณแสดงละครตอนเย็นนะ...” พสินตอบไปก็มองหน้าหญิงสาวตรงหน้าแบบจดจ้อง เพราะออร่าความสวยของเธอมันโดดเด่นมาก จนเขาจำได้ว่าเขาเคยเห็นเธอแสดงละคร
“ใช่ค่ะ ฉันเอง แต่ว่าตอนนี้ฉันรีบมากๆเลย คุณช่วยเรียกประกันของคุณมาหน่อยได้ไหมคะ เราจะได้รีบเคลียร์ค่าเสียหายแล้วแยกย้ายกัน” อนิสาพูดไปเพราะเธอต้องรีบไปจริงๆ
“เจ้านายของผมเขาก็กำลังรีบไปประชุมเหมือนกัน...ถ้ารอจนประกันมาคงไม่ทัน..เดี๋ยวคุณเอาเบอร์ติดต่อมาให้ผม ผมจะให้ช่างประเมินค่าเสียหายแล้วจะส่งให้คุณ...” พสินตอบไป
“อะไรกันคุณ ทำแบบนั้นได้ยังไง แบบนั้นฉันก็ต้องจ่ายค่าเสียหายเองน่ะสิ แล้วฉันจะทำประกันไปเพื่ออะไรล่ะ...ฉันจะเรียกประกันค่ะ...” อนิสาพูดไปแบบไม่ยอมที่จะเสียค่าเสียหายให้เขาแบบนั้น
“เฮ้อ...” พสินก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจเลย เพราะเจ้านายของเขาก็กำลังรีบ ผู้หญิงคนนี้ก็ยังมาเรื่องมากไม่ยอมอีก
การันเห็นว่าเวลาเริ่มจะไม่ทันแล้วเขาก็ร้อนใจเปิดประตูรถลงไป แล้วหันไปมองทางด้านหลังรถที่เลขากำลังคุยกับคู่กรณีอยู่ เขาก็มองหญิงสาวในชุดเดรสสีขาวด้วยสายตาจดจ้อง เพราะเธอสวยมาก ใบหน้าหวาน ตาโต จมูกเป็นสัน ปากก็จิ้มลิ้ม ดูแล้วชวนให้หลงใหล แต่วาจาของเธอกลับจัดจ้านเอาเรื่อง
“ไม่ต้องเรียกแล้ว พสิน...เอาเงินค่าเสียหายให้เขาไป...แล้วรีบไปกันได้แล้ว” การันพูดด้วยเสียงเข้ม เพราะเขาไม่มีเวลาแล้วมารอประกันของเธอ ก่อนจะมองสบตากับเธออย่างอดไม่ได้
อนิสามองชายหน้าตาหล่อเหลาอย่างกับนายแบบฝรั่งลงมาจากรถด้วยสีหน้าจดจ้อง เพราะเขาหล่อและดูดีมากๆ แถมร่างกายก็สูงใหญ่บึกบึน ดูตรงไหนก็แน่นไปหมด แต่น่าแปลกที่หน้าตาเขาออกฝรั่งแต่ดันพูดไทยชัดเจนเชียว ดูท่าจะเป็นลูกครึ่งแน่ๆ
“แต่ฉันเป็นคนชนรถของคุณนะคะ คุณจะมาให้ค่าเสียหายฉันทำไมกันคะ...ฉันสิคะที่ต้องให้คุณ..แต่ว่าฉันไม่ได้รวยถึงขนาดนั้น คุณรอประกันฉันแปปนึงได้ไหมคะ” อนิสาพูดไปอย่างไม่ต้องการเอาเปรียบเขา
“ไม่เป็นไร ผมจะซ้อมรถของผมเอง...ส่วนของคุณเดี๋ยวผมจะซ้อมให้เพราะผมไม่ต้องการเรียกประกันตอนนี้ ผมกำลังรีบ...พสิน..เอาเงินให้ผู้หญิงคนนี้ไปแล้วรีบขึ้นรถ..ฉันจะไปสายแล้ว..” การันบอกหญิงสาวไปเพราะเขาไม่สามารถรอประกันในตอนนี้ได้
“แต่ฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้นะคะ...ฉันไม่ได้จะชนเพื่อเอาเงินของคุณนะคะ..” อนิสาพูดไปแล้วมองเขาขึ้นรถไปเธอก็ถอนหายใจออกมาทันที
“นี่เจ้านายของคุณเขาไม่คิดจะฟังฉันอธิบายเลยหรือไงเนี่ย...” อนิสาหันไปบ่นกับชายหนุ่มที่ยืนอยู่
“เจ้านายผมไม่เอาเรื่องคุณก็ดีแค่ไหนแล้วคุณ อ่ะ...ตอนนี้ผมมีเงินสดแค่สองหมื่น คุณรับเงินนี่ไปซ้อมรถของคุณก่อน...ถ้าไม่พอก็โทรติดต่อมาหาผมได้เลย...อ่ะ..นี่นามบัตรของผม...ผมขอตัวก่อนนะครับ เจ้านายของผมเขากำลังรีบ...” พสินพูดไปก็ยืนนามบัตรของเขาและเงินจำนวนสองหมื่นให้หญิงสาวไป แล้วเขาก็รีบไปขึ้นรถแล้วก็ขับออกไปทันที
“อะไรของพวกเขากันเนี่ย...รวยแล้วจะใช้เงินยังไงก็ได้หรือไง...เฮ้อ...แต่ก็ช่างเถอะ เราเองก็ต้องรีบไปเหมือนกัน ไม่ต้องเรียกประกันแบบนี้ก็ดีไป...” อนิสาพูดบ่นไปก็รีบกลับไปขึ้นรถของเธอแล้วเธอก็รีบขับออกไปทันที
ด้านการันพอพสินกลับมาขึ้นรถแล้วเขาก็มองพสินที่ไม่ได้พูดรายงานอะไรเขา เขาก็อดที่จะเอ่ยถามออกไปไม่ได้
“ผู้หญิงคนนั้นว่ายังไงบ้าง...” การันเอ่ยถามไปด้วยสีหน้านิ่งๆ
“อ่อ...ผมเห็นนายรีบก็เลยเอาเงินให้เธอไปสองหมื่นครับ แล้วก็ให้นามบัตรของผมไว้ถ้าค่าซ้อมรถของเธอไม่พอ..แล้วผมก็รีบขึ้นรถมาเลย..” พสินรายงานไป
“อืม...ฉันเข้าใจแล้ว...นายรีบขับหน่อยก็แล้วกัน เหลือเวลาอีกสิบห้านาทีแล้ว....” การันตอบไป แล้วมองนาฬิกาข้อมือที่เหลือเวลาเข้าประชุมแค่อีกสิบห้านาทีแค่นั้น
“ครับ...แต่มันก็บังเอญจังเลยนะครับคุณการัน...เพราะว่าผู้หญิงที่มาชนท้ายรถเราเมื่อกี้น่ะ เป็นดาราที่แสดงละครลงที่สถานีของเราด้วยนะครับ ผมจำได้...ผมเคยดูละครที่เธอเล่นด้วยนะครับ สนุกมากเลย...เป็นดาราหน้าใหม่พึ่งเข้าวงการมาได้ไม่นานนี้เอง....” พสินพูดไปขณะที่ขับรถไป
“นายคิดว่าฉันชอบดูละครไร้สาระพวกนี้หรือไง...แล้วฉันจำเป็นต้องรู้เรื่องของผู้หญิงคนนี้งั้นเหรอ...” การันถามไปก็มองเลขาของเขาผ่านกระจกด้านหน้า
“อ่อ ผมแค่เล่าให้ฟังน่ะครับ เพราะถ้ามีปัญหาอะไรเราจะได้ตามตัวเธอได้ง่ายๆไงครับ...เพราะเธอน่าจะเป็นนักแสดงในสถานีของเรา...” พสินพูดไป
“สถานีของเรางั้นเหรอ...หึ....ฉันยกที่นั่นให้น้องชายกับน้องสาวของฉันบริหารไปแล้ว ดังนั้นที่นั่นไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน..” การันพูดไป เพราะเขาชอบใช้ชีวิตแบบเงียบๆไม่หวือหวา และเขาก็สนใจแค่เรื่องหุ้นและเรื่องธุรกิจเท่านั้น เรื่องวงการบันเทิงน่ะไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบเลย
“ไม่เกี่ยวได้ยังไงล่ะครับ ถึงคุณการันจะปฏิเสธไม่บริหารงานที่สถานี แต่ยังไงคุณการรันก็ยังคงถือหุ้นสูงสุดในบริษัทดับเบิ้ลจีเอนเตอร์เม้นท์กรุ๊ปนะครับ...ดังนั้นคุณการันน่ะเกี่ยวเต็มๆเลยล่ะครับ” พสินพูดไป
“แล้วไง...ในเมื่อฉันไม่ชอบก็คือไม่ชอบ....จะมีหุ้นเยอะแล้วยังไงล่ะ...ฉันก็ไม่คิดจะไปบริหารบริษัทนี้อยู่ดี...” การันพูดไป เพราะเขาไม่เหมือนกับน้องชายของเขาที่ชอบเรื่องพวกนี้ ดังนั้นเขาจึงยกให้น้องชายจัดการ ซึ่งน้องชายของเขาก็ทำได้ดี
“แต่ผมได้ข่าวมานะครับว่าคุณกายใช้เส้นให้ผู้หญิงของตัวเองได้รับบทนางเอกละครมาหลายเรื่องแล้ว จนทะเลาะกับคุณกรีนบ่อยๆ ผมว่าถ้าปล่อยแบบนี้ต่อไปบริษัทจะเสียชื่อเสียงนะครับ...” พสินพูดไป
“อืม...ฉันก็ได้ยินน้องสาวฉันพูดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน...แต่ฉันก็ไม่คิดที่จะเข้าไปยุ่งอยู่ดี..เพราะฉะนั้นนายหยุดพูดเรื่องนี้ได้แล้ว แล้วรีบขับรถไปซะ..ฉันไม่อยากจะรับรู้เรื่องไร้สาระพวกนี้...” การันพูดไป
เพราะเขาเคยบริการงานที่นี่ตอนเรียนจบใหม่ๆ และเขาก็มีความรักกับดาราสาวคนหนึ่ง แต่เธอไม่ได้รักเขาจริง เธอแค่หลอกใช้เขาเพื่อให้ดันเธอไปสู่จุดสูงสุด และมันก็ทำให้เขาได้รู้ว่าวงการบันเทิงไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบเลยสักนิด และเขาจะไม่ยอมโง่ให้ผู้หญิงคนไหนมาหลอกใช้เขาได้อีก
“ครับคุณการัน....” พสินได้แต่ตอบไปด้วยสีหน้ายิ้มแห้งๆ เพราะเจ้านายของเขาใจแข็งๆจริงๆ แต่ก็อย่างว่าแหละ เจ้านายเขาไม่ชอบบริหารงานที่เจอพวกสาวๆ เพราะไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้แบบน้องชายเท่าไหร่ รายนั้นใครอ่อยเป็นไม่ได้เลย
ณ บริษัทดับเบิ้ลจีเอนเตอร์เทนเม้นกรุ๊ป
เหล่าดารานักแสดงต่างก็มาแคสติ้งกับงานละครโปรเจกต์ใหญ่ที่กำลังจะถูกสร้างขึ้น เพราะถ้าใครได้แสดงเรื่องนี้ก็มีโอกาสที่จะโด่งดังมีชื่อเสียงมากๆ ทำให้มีโมเดลลิ่งและผู้จัดการดาราส่งนักแสดงของสังกัดตัวเองมาแคสติ้งละครเรื่องนี้กันเยอะมาก
อนิสาที่รีบมาก็มองไปรอบๆแบบอึ้งๆเลย เพราะเห็นดารานักแสดงหน้าใหม่แบบเธอเยอะไปหมด แล้วแต่ล่ะคนก็มีชื่อเสียงกันพอสมควรแล้วด้วย
“โอ้โห พี่ใจดีคะ...คนเยอะขนาดนี้ อายจะได้บทนางเอกไหมคะเนี่ย...” อนิสาเอ่ยพูดกับผู้จัดการส่วนตัวของเธอที่มาส่งเธอแคสติ้งงานในวันนี้
“มั่นใจในตัวเองหน่อยสิอาย เธอกำลังดังจากละครเรื่องที่ผ่านมา ดังนั้นเธออาจเข้าตาพวกผู้บริหารกับผู้จัดละครก็ได้” ใจดีพูดไปแบบให้กำลังใจ
“แต่คนอื่นก็ดังกว่าอายอีกนะคะพี่ใจดี...อายกลัวไม่ได้รับบทนางเอกจังเลยค่ะ” อนิสาพูดด้วยสีหน้ากังวล
“ยังไม่ลองเลยแล้วจะรู้ได้ยังไงหึ...เรื่องนี้เขาต้องการนักแสดงหน้าใหม่เพื่อปั้นให้กับช่อง ถ้าเธอได้รับเล่นละครเรื่องนี้ไม่ว่าจะบทนางเอกหรือนางรอง เธอก็จะได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงของช่อง เพราะฉะนั้นมันเป็นโอกาสที่เธอจะดังแล้วนะอาย เธอต้องคว้ามันไว้ให้ได้ เธออย่าลืมสิว่าตอนนี้เธอต้องการเงินน่ะ..” ใจดีพูดบอกไปเพื่อไม่ให้หญิงสาวคิดมาก
“อายไม่ลืมหรอกค่ะ...อายจะหาเงินไปช่วยแม่ใช้หนี้ให้ได้ อายจะไม่ปล่อยให้บ้านของอายถูกธนาคารยึดหรอกค่ะ อายมาถึงขั้นนี้แล้ว อายจะสู้ให้สุดใจค่ะพี่ใจดี” อนิสาพูดบอกไปแบบมาดมั่น เพราะเธอเข้าสู่วงการก็เพราะต้องการหาเงินไปใช้หนี้ให้ครอบครัวของเธอ
“ดีมาก..เพราะพี่ส่งเธอได้แค่นี้..ที่เหลือเธอต้องพึ่งความสามารถของตัวเองแล้ว...เธอต้องทำให้ตัวเองได้ละครเรื่องนี้ให้ได้...เพื่องานเพื่อเงินที่เธอจะได้รับในอนาคต เข้าใจใช่ไหมอาย...” ใจดีพูดไปเพราะเธอพยายามปั้นอนิสาและเด็กในสังกัดของเธออยู่ ซึ่งวันนี้เธอก็ตั้งใจจะส่งอนิสาให้ชิงบทนางเอกกับคนอื่นๆ
“เข้าใจค่ะพี่ใจดี...อายจะพยายามเอาบทนางเอกมาให้ได้ค่ะ...” อนิสาตอบรับไปเพราะเธอก็อยากจะได้รับบทนางเอกเรื่องนี้เช่นกัน เธอจะได้เงินไปปลดหนี้ให้ครอบครัวของเธอสักที
ด้านฮายดี้ดาราสาวหน้าใหม่ที่กำลังโด่งดังนั้นเดินเข้ามาเห็นคู่แข่งอย่างอนิสาก็มองแล้วเดินเข้ามาหา แล้วได้ยินว่าอนิสาอยากจะได้รับบทนางเอกก็ยิ้มออกมาอย่างร้ายๆ เพราะบทนี้มันเป็นของเธอไม่ใช่อนิสา
“นี่เธอหวังจะได้บทนางเอกเชียวเหรออาย....เรื่องก่อนถ้าฉันไม่สบายล่ะก็ เธอก็คงไม่ได้เล่นหรอก...เธอคิดว่าคราวนี้เธอจะเอาชนะฉันได้เหรอ...” ฮายดี้เดินเข้ามาพูดแล้วเอามือกอดหน้าอกมองอนิสาแบบจดจ้อง
“ฉันก็มีความสามารถไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลย...ทำไมฉันจะเอาชนะเธอไม่ได้...” อนิสาหันไปมองก็เห็นคู่แข่งตัวฉกาจของเธอที่มักจะแคสติ้งแย่งงานกันมาโดยตลอด เธอก็พูดตอกกลับไปแบบไม่เกรงกลัวอะไร
“หึ...แต่ที่ผ่านมาเธอก็แพ้ฉันตลอดเลยนะอาย...ถ้าเธอมีความสามารถจริงๆก็ต้องได้รับบทนางเอกสิ ไม่ใช่รับบทนางรองแบบที่ผ่านมา..อ่อ ฉันลืมไปเลยว่าเธอพึ่งได้รับบทนางเอกแทนฉันเรื่องล่าสุดนิ...แต่ก็นะ มันก็เป็นเพราะฉันป่วยเธอถึงได้รับบทนางเอก แต่บอกเลยว่าเรื่องนี้ฉันจะไม่ยอมปล่อยไปถึงมือของเธอแน่...” ฮายดี้พูดออกไปแบบมาดมั่น
ใจดีที่ยืนฟังอยู่ก็มองแบบมั่นไส้เลยเพราะใช้เต้าไต่แล้วยังมามั่นหน้าว่าตัวเองเก่งอีก เธอก็หันไปมองอนิสาเด็กของเธอทันที เพราะคิดจะอยู่วงการนี้ใจต้องแกร่ง จะให้ใครมาข่มไม่ได้ สู้เขาลูกแม่ ใจดีคิดในใจไป
“ฉันยอมรับว่าฉันไม่มีความสามารถเรื่องใช้เต้าไต่แบบเธอเท่าไหร่ ฉันก็เลยแพ้เธอมาตลอด..แต่ครั้งนี้ฉันจะไม่มีวันแพ้เธอ...” อนิสาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะมันหมายถึงอนาคตของเธอ
“....ฝันไปเถอะว่าเธอจะชนะคนอย่างฉันได้...ก็อย่างที่เธอรู้แหละว่าฉันใช้เต้าไต่ แล้วเธอจะเอาปัญญาอะไรมาชนะฉันได้ล่ะ ในเมื่อบทนี้มันมีไว้เพื่อฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว..เธอมาแคสบทนนี้ไปก็ไม่มีทางได้หรอก อย่างมากเธอก็อาจได้รับบทนางรองแบบเคยๆเท่านั้น...” ฮายดี้พูดออกไปแบบสะใจ เพราะเธอมั่นใจว่าเธอต้องได้รับบทนี้แน่นอน
“หลิน...เธอควรจะบอกเด็กของเธอให้สงบปากสงบคำไว้บ้างนะ..เรื่องแบบนี้มันไม่น่าเอามาป่าวประกาศบอกใครหรอก...พาเด็กของเธอไปไกลๆเด็กของฉันซะ..” ใจดีพูดด้วยเสียงเข้มอย่างไม่พอใจ เพราะทำผิดแล้วยังมาข่มคนอื่นแบบนี้ไม่น่ารักเลย
“เด็กของหลินแค่พูดเล่นๆหยอกๆเองค่ะพี่ใจดีอย่าทำเสียงดุแบบนั้นสิคะ...อย่าทำเหมือนว่าตัวเองไม่เคยสิคะ หึๆ...ฮายดี้ อย่าเสียเวลาเลย ไปหาคุณกายก่อนเถอะ...เขากำลังรอเจอเราอยู่นะ...ป่ะ...อย่ามาเสียเวลาตรงนี้เลย..” หลินยิ้มมุมปากออกมาแล้วก็ชวนฮายดี้ไป เพราะแค่นี้ก็พอหอมปากหอมคอแล้วล่ะ
“ค่ะพี่หลิน...งั้นไปกันเถอะค่ะ ฮายดี้ไม่อยากให้คุณกายเขารอนาน...เพราะเขาอุตส่าห์ให้บทนางเอกกับฮายดี้แบบนี้ ต้องไปเอาใจสักหน่อยแล้วล่ะค่ะ...” ฮายดี้พูดไปด็ยิ้มเยาะเย้ยใส่อนิสาไป แล้วเธอก็เดินออกไปแบบเชิดๆทันที
“เฮ้อ..ยังไม่ทันเริ่มแคสติ้งเลย แต่ยัยฮายดี้ก็คาบบทนางเอกไปแล้ว...อายว่าอายคงได้บทนางรองแบบที่ยัยนี่พูดแน่ๆเลยค่ะ...” อนิสาพูดด้วยเสียงเศร้า
เพราะเมื่อกี้ฮายดี้พูดถึงคุณกาย ซึ่งเขาเป็นผู้บริหารของบริษัทสามารถเลือกชี้ตัวได้เลยว่าเขาอยากจะให้ใครเล่นละครอะไร และรับบทไหน ดังนั้นถ้าฮายดี้เข้าหาเขาแล้วก็แสดงว่าบทนางเอกเรื่องนี้ก็คงไม่พ้นฮายดี้ได้ไป
“หรือว่าเธอจะไปอ่อยคุณกายแบบที่ยัยฮายดี้ทำไหมล่ะ...เธอกล้าหรือเปล่า เพราะคุณกายเขาก็แอบสนใจเธออยู่นะ...” ใจดีพูดไปเพราะถ้าอนิสาทำได้ก็จะสามารถทีเส้นสายช่วยให้งานไปได้ไกลกว่านี้
“อือ...ไม่เอาค่ะ...อายไม่อยากกินของเหลือต่อจากยัยฮายดี้...อีกอย่างถ้าอายเลือกที่จะใช้วิธีนี้ งั้นต่อไปถ้าอายอยากจะได้งาน อายก็ต้องทำแบบนี้น่ะสิคะ ไม่เอาหรอกค่ะ...” อนิสาส่ายหน้าไปมาทันที
“งั้นเธอก็ต้องรับให้ได้กับงานและเงินที่เธอจะได้รับ...ป่ะ ไปเตรียมตัวเถอะ แคสงานเสร็จแล้วจะได้กลับ..วันนี้พี่ต้องไปดูพัดชากับว่านที่กองละครต่อ...” ใจดีพูดไปก็ตบไหล่เด็กสาวไป เพราะเธอไม่เคยบังคับให้เด็กในสังกัดทำอะไรที่ไม่อยากทำ
“ค่ะ..พี่ใจดี...” อนิสาพยักหน้าไปแล้วเธอก็เดินไปรอเข้าแคสติ้งบทละครทันที