ใช่ว่าที่ลูกสะใภ้แม่หรือเปล่า
ใช่ว่าที่ลูกสะใภ้แม่หรือเปล่า
เซรินตื่นขึ้นมาจากอาการไข้พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องที่ตกแต่งด้วยโทนสีดำด้วยสภาพไม่ใส่อะไรเลยมีเพียงผ้าห่มสีดำปิดเรือนร่างอันเปลือยเปล่า เธอมองขึ้นไปบนเพดานมีหลอดไฟหรูหราแต่เรียบง่ายติดอยู่ ‘ไม่ใช่ในเรือ ไม่ใช่โรงพยาบาล…ที่นี่ที่ไหนกันนะ?’ เธอคิดในใจ แต่ยังไม่ทันได้คิดไปไหนไกล เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น
แกร็ก!! เสียงลูกบิดประตูถูกบิดและเปิดออก ด้วยฝีมือของชายแปลกหน้าที่เธอคุ้นเคยดี…ชายที่ได้ความบริสุทธิ์ของเธอไปนั่นเอง
“คะคุณช่วยฉันไว้หรอคะ?”
“ฉันแค่เอาที่ช้อนปลาตักเธอขึ้นมาจากทะเล…”
“ห๊ะ!! พูดเล่นใช่ไหมเนี่ย?” เซรินตกใจคำตอบของเขา
“คุณช่วยฉันขึ้นมาทำไมคะ? จะส่งฉันไปให้ไอ้เสี่ยอ้วนนั่นหรอคะ?”
“เสียของ”
“อะไรนะ อะไรคือเสียของ?”
“จะส่งเธอให้เสี่ยอำนาจน่ะเสียของ” วินเนอร์ปลายหางตามองหญิงสาวที่ตอนนี้อยู่ในท่านั่งบนเตียงคิงไซส์ด้วยท่อนบนเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มผืนดำคลุมปิดท่อนล่างไว้ ดูเหมือนเซรินเองจะยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าอกกลมสวยทั้งสองข้างของเธอได้ออกมาอวดโฉมแก่สายตาชายหนุ่ม
“หมายความว่าคุณจะไม่ส่งฉันไปให้เสี่ยอำนาจจริงๆ ใช่ไหมคะ?”
“มีแต่คำถามเต็มไปหมด” วินเนอร์พูดขึ้น เพราะตั้งแต่เธอฟื้นขึ้นมาเห็นหน้าเขาก็เอาแต่ตั้งคำถาม
“ฉันไม่ได้ช่วยเธอฟรีๆ หรอกนะ”
“แล้วคุณจะให้ฉันตอบแทนยังไงล่ะคะ ให้ฉันทำงานบ้านก็ได้นะคะ ฉันเป็นแม่บ้านได้นะ” เซรินเสนอ เขาได้ยินคำว่าแม่บ้านที่เซรินหมายถึง คือแม่บ้านที่ทำงานบ้านทุกอย่างแล้วแลกเงิน แต่เขาคิดไปอีกแบบว่า แม่บ้านที่เขาคิดคือการเป็นภรรยาของเขา แต่ก่อนที่เขาจะได้ตอบ เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้น
“ครับ” วินเนอร์รับสายด้วยคำสั้นๆ
‘รับสายหม่ามี๊ทั้งที รับเสียงยาวกว่านี้ไม่ได้รึไงเจ้าลูกชาย’ เสียงเล็กใสดังจากปลายสายพูดใส่หูมาเฟียหนุ่ม จริงๆ แล้ว ยูริ ชินกับนิสัยของลูกชายคนเดียวของเธออยู่แล้วที่เป็นคนพูดน้อย เย็นชา ไม่สนใจใคร ทำให้ยังไม่มีแฟนหรือเมียเป็นตัวเป็นตนมาจนอายุย่างเข้า 30 ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
“มีธุระอะไรไหมครับ”
‘ดูถามเข้า ไม่มีธุระโทรหาไม่ได้เลยหรอ?’
“เปล่าครับ…แล้วตกลงมีอะไร ถ้าไม่มีผมจะวางสายแล้วนะ จะไปเช็คของกับพวกไอ้คาร์โก้”
‘แหมมมม เห็นงานสำคัญกว่าคนเป็นแม่ตลอดเลยนะ’
“…” วินเนอร์ไม่ได้ตอบอะไร เพราะเขานั้นรู้ดีว่าคนอย่างแม่ของเขา ถ้าไม่มีอะไรที่ต้องการจะไม่โทรมาแน่นอน และรู้ดีว่าแม่ของเขาที่เป็นเมียของมาเฟียรุ่นใหญ่อย่างพ่อเขา ภายนอกอาจจะดูใสใส ใจดี แต่ถ้าไม่แน่พอก็เป็นเมียมาเฟียไม่ได้
‘ก็ได้ๆ พูดก็ได้ รู้ทันตลอด’ ยูริยอมจำนน
‘เมื่อไรจะมีลูกสะใภ้ให้มี๊สักที มี๊อยากอุ้มหลานก่อนแก่ ได้ยินไหมวินนน~~~’ ยูริโอดครวญให้ลูกชายฟัง
“แม่…” วินเนอร์พูดได้แค่นั้น เขาถอนหายใจเบาๆ จริงๆ แล้วแม่ของเขาพูดเรื่องนี้มาหลายพันรอบแล้ว แต่ที่เขาไม่ได้ทำให้ความต้องการของแม่เขาเป็นจริงสักทีเพราะเขาไม่ได้ตัดสินใจหรือคิดจะเอาผู้หญิงคนไหนเข้ามาเป็รภาระในชีวิตเขา เขาเป็นมาเฟีย รอบตัวเขามีแต่อันตรายและหากวันนึงเขารักใครจริงๆ คนๆ นั้นจะปลอดภัยหรือไม่ถ้าเข้ามาอยู่ในชีวิตเขา
‘ยังไม่ต้องมีหลานก็ได้ เอาแฟนให้มีก่อนตอนนี้ เดี๋ยวค่อยพัฒนาต่อจากนี้’
“คนคุยยังไม่คิดจะมี” เขาเอ่ยเสียงเบา
‘นะวิน มี๊จะไม่ทนแล้วนะ จะไม่รอแล้ว มี๊จะให้เวลาอีก 3 วัน มี๊จะไปหา ถ้าถึงวันนั้นแล้ววินยังไม่มีแฟนให้มี๊ มี๊จะไปทาบทามหนูซาร่าลูกของเพื่อนแม่ให้วินเอง จะได้จบๆ’ ยูริมัดมือชก แกมบังคับลูกชาย
“คุณ!!นี่คุณทำไมไม่บอกฉันว่าฉันไม่ได้ใส่เสื้อผ้า!! คุณเป็นคนถอดเสื้อผ้าของฉันออกหรอ?” เซรินโวยวายเมื่อเพิ่งรู้ว่าตัวเองเปลือยเปล่า มิหนำซ้ำยังโชว์ท่อนบนต่อหน้าคุยกับเขาเป็นเวลานาน
‘เอ๊ะ!!เสียงผู้หญิง มีเสียงผู้หญิง ลูกอยู่กับผู้หญิงหรอวิน? เธอเป็นใคร ทำไมอยู่กับลูก?’ ยูริยิงคำถามใส่ลูกชาย เธอรู้ดีว่าลูกชายของเธอไม่มีทางให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้ตัวเองหรือแม้กระทั่งนอนกับผู้หญิงเหมือนมาเฟียคนอื่นๆ ก็ไม่เคย นั่นแสดงว่าคนนี้ต้องพิเศษอะไรสักอย่างแน่ๆ
‘วิน บอกมี๊มาเดี๋ยวนี้นะ เธอเป็นว่าที่ลูกสะใภ้มี๊ใช่ไหม? ใช่ไหมวิ๊นนนน?’ น้ำเสียงดีใจของยูริคาดคั้นลูกชาย แต่เป็นการคาดคั้นที่ไม่ต้องการคำตอบ
“แค่นี้นะครับ ผมจะไปเช็คของ” วินเนอร์ตัดบท
‘เดี๋ยวสิวิน’ เขาตัดสาย เขาไม่ต้องการอธิบายอะไรที่มันยืดยาวและเขาก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง ตอนนี้เขาก็ไม่รู้ว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาพามาอยู่ในฐานะอะไร
เซรินจัดการกับตัวเอง เธอเอาเสื้อเชิ้ตเขามาสวมอีกครั้ง
“ฉันยืมเสื้อคุณหน่อยนะ ในนี้ไม่มีชุดผู้หญิงเลย ฉันค้นจนทั่วห้องแล้วก็ไม่มี” ก็ใช่สิ ที่นี่ไม่เคยมีผู้หญิงย่างกรายเข้ามาเลย แม้กระทั่งแม่บ้านของเขาก็ยังเป็นผู้ชาย
“จะให้พายุเอาชุดผู้หญิงมาให้” เขาพูดแค่นั้นแล้วหมุนตัวเดินออกไป เขาต้องไปเช็คของและรับสินค้า
“เดี๋ยวค่ะ…” เซรินเรียกเขาไว้ เขาหันหน้ากลับมามองเธออีกครั้งตามเสียงเรียก
“ฉันหิวค่ะ” เซรินบอกเสียงอ่อย เธอหิวจริงๆ ไม่มีอะไรตกถึงตั้งแต่ตอนที่อยู่บนเรือสำราญจนถึงตอนนี้
“พายุจะเอาข้าวกับยามาให้ ฉันทำงานเสร็จจะมาคุยข้อตกลงในการตอบแทนที่เธอต้องตอบแทนคนที่ช่วยชีวิตเธอจากนรกและความตาย” ชายหนุ่มพูดจบก็เดินออกจากห้องไป นี่คงจะเป็นครั้งแรกที่เขาพูดอะไรที่มันยาวๆ ได้
เซรินมองเขาออกไปจากห้องจนกระทั่งประตูห้องปิดลง ‘ทำไมเขาถึงได้ดูไร้อารมณ์นักนะ ดูเหมือนเขาน่าจะยังไม่มีครอบครัวมั้ง’ เธอคิด เธอได้ยินบทสนทนากับคนปลายสายที่เขาเรียกว่า ‘แม่’
เธอหวังว่าเธอหนีจากนรกของเสี่ยอำนาจมาได้แล้ว เธอจะไม่ได้หนีเสือปะจรเข้จนมาพบกับนรกอีกขุมนะ