บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ไม่ขอเจอ=ได้เจอ

บทที่ 1 ไม่ขอเจออีก=ได้เจอ

พริกแกงทำหน้าเลิ่กลั่กกับคำพูดหยาบคายที่เพิ่งเคยได้ยินเพื่อนพูดออกมาครั้งแรก ก่อนจะรั้งแขนแป้งปั้นเดินออกมาจากตรงนั้น

"เจ็บมากไหมเนี่ย ดูสิตรงนี้เขียวหมดแล้ว" พริกแกงปัดเสื้อผ้าแป้งปั้นเบาๆ ก่อนจะดูรอยแผลถลอกจากการล้มให้ "ถ้าพ่อแกรู้จะเป็นยังไงเนี่ย เราสองคนจะไม่ถูกกระทืบใช่ไหม" คนถูกถามถอนหายใจยาวๆอย่างเบื่อหน่าย แค่คิดว่าพ่อจะส่งคนมาคอยติดตามหลังจากนี้ก็รู้สึกหมดสนุกแล้ว

"เดี๋ยวแป้งคุยกับพ่อเอง พ่อคงไม่ใจร้ายหรอก"

"แต่พ่อแกเป็นมาเฟียนะ ไหนจะลุงๆ ทุกคนอีกน่ากลัวกันทั้งนั้นเลย" เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มทำท่าสยดสยองเมื่อนึกถึงบรรดาคุณลุงหน้าหล่อแต่โหดเพื่อนพ่อแป้งปั้น ต่างจากแป้งปั้นที่เอาแต่ก้มหน้าแล้วพ่นลมหายใจออกเบาๆ

"แป้งจะไม่ขอเจอคนปากไม่ดีอีก สาธุนะคะอย่าให้ได้เจอเขาอีกเลย" 'ใจร้ายมาก แถมยังปากไม่ดีอีกด้วย!' แป้งปั้นขมวดคิ้วยุ่งเมื่อภาพใบหน้าของบดินทร์ฉายเข้ามาในหัว เธอรีบส่ายหน้าไปมาเบาๆ เพื่อไล่ความคิดบ้าบอนี้ออกจากหัวแล้วรีบพากันกลับไปที่โรงเรียนเหมือนเดิม ไม่นานรถยนต์คันหรูก็เคลื่อนตัวมาจอดเทียบริมฟุตปาธหน้าโรงเรียน

"ไปไหนมา" เบิร์ดคือเจ้าของคำถามนั้น เขาถอดแว่นกันแดดสีดำออกมองลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนจะสะดุดตากับบาดแผลที่หัวเข่าทำเอาหัวใจผู้เป็นพ่อหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เขาเฝ้าทะนุถนอมลูกราวกับไข่ในหิน แม้จะให้หกล้มยังไม่เคยเลยสักครั้ง แต่วันนี้กลับเห็นร่างกายลูกสาวมีบาดแผล หัวใจพ่อรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันที

"พ่อ..แป้งแค่ประสบอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ ไม่เป็นไรเลย"

"ลูก พ่อยังดูแลหนูไม่ดีพอใช่ไหม" น้ำเสียงของพ่อเจือด้วยความเป็นห่วงลูกสาวมากๆ เบิร์ดย่อเข่านั่งลงตรงหน้าลูกแล้วยื่นมือไปจับขาลูกสาว ดูบาดแผลอย่างพิจารณา "ไปล้างแผลที่คลินิกลุงเทพกันนะลูก" แป้งปั้นพยักหน้าให้พ่อเป็นอันตกลง หากเธอปฏิเสธยังไงก็ต้องได้ไปอยู่ดีแล้วจึงหันมาโบกมือลาเพื่อนรัก

"สวัสดีค่ะคุณพ่อ" พริกแกงยกมือไหว้เบิร์ดแล้วโบกมือให้เพื่อนรัก ทั้งสองแยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนแป้งปั้นถูกพ่อพยุงมาที่รถพร้อมกับถูกอุ้มขึ้นมานั่งบนเบาะข้างคนขับ

"พ่อไม่น่าปล่อยหนูคลาดสายตาเลย"

"คุณพ่ออย่ารู้สึกผิดเลยนะคะ"

"แต่พ่อมีอะไรจะถามหนู"

"คะ?" เด็กสาวกัดปากแน่นกับสีหน้าที่เย็นชาลงภายในเสี้ยววินาทีของพ่อ ก่อนที่คำถามนั้นจะหลุดออกจากปากผู้เป็นพ่อ

"ได้ข่าวมาว่าหนูชอบแอบไปกินนมปั่นข้างมหาวิทยาลัยบ่อยๆและไม่ยอมรับสายลูกน้องพ่อเวลามารับ ลูก…ดื้อใช่ไหม"

"เปล่านะคะ ไม่ได้ดื้อเยย~" แป้งปั้นทำตาแป๋วแล้วตะกายมานั่งบนหน้าตักพ่อ ออดอ้อนพ่อด้วยการเอนตัวไปพิงอกแกร่ง ริมฝีปากจิ้มลิ้มยื่นออกมาน้อยๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมากะพริบตาปริบๆ ขอความเห็นใจจากพ่อ "ไม่ได้ดื้อเลยนะคะ"

"ลูก..หนูจะมาอ้อนพ่อตอนทำความผิดไม่ได้นะครับ ทำแบบนี้จะให้พ่อทำไงเนี่ย" ผู้เป็นพ่อตั้งท่าจะยอมแพ้ตั้งแต่เห็นลูกอ้อนลูกสาวตัวน้อย แต่ก็ต้องอดทนไว้แล้วมองลูกด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ครั้งนี้น้องแป้งผิดนะลูก หนูหนีเที่ยวแถมยังบาดเจ็บอีก พ่อไม่พูดไม่ใช่พ่อไม่รู้ว่าลูกทำอะไรอยู่ที่ไหน พ่อแค่รอให้ลูกบอกพ่อเองต่างหาก" เมื่อถูกพ่อจับได้ใบหน้าจิ้มลิ้มก็เรียบเฉย รู้สึกผิดไม่น้อยจนต้องกลับมานั่งที่เดิม

"ขอโทษค่ะ แป้งแค่ไม่อยากเป็นภาระใคร และ..ไม่อยากใช้อำนาจคุณพ่อเป็นตัวเบิกทาง แป้งช่วยเหลือตัวเองได้นะคะ จริงๆนะ"

"พ่อรู้ พ่อเข้าใจลูกดีว่าลูกคงอึดอัด แต่พ่ออดเป็นห่วงลูกไม่ได้ เข้าใจพ่อด้วยนะครับ" ฝ่ามือหนาแสนอบอุ่นวางลงบนศีรษะลูกสาว แป้งปั้นยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเอนศีรษะมาพิงไหล่พ่อ

"ขอโทษนะคะที่ทำให้เป็นห่วง" ริมฝีปากจิ้มลิ้มเบะคว่ำเมื่อกล่าวคำขอโทษพ่อเสร็จ ไม่นานก็มาถึงคลินิกหมอทัดเทพ

"อ้าว เป็นไรมาน่ะลูก" ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาทัดเทพก็เอ่ยทักทันที เขาเดินเข้ามาหาหลานสาวแล้วก้มดูแผลถลอกที่หัวเข่าและรอยฟกช้ำตามแขนและขาแป้งปั้น "ไปซนที่ไหนมาลูก"

"เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะลุงเทพ"

"อ่า เดี๋ยวเข้าห้องพยาบาลเลย เดี๋ยวลุงล้างแผลให้"

"ขอบคุณครับเฮีย" เบิร์ดยิ้มให้รุ่นพี่แล้วพาลูกสาวเข้าไปรอหมอหนุ่มที่ห้องพยาบาล ทัดเทพเดินเข้ามาในห้องและเตรียมอุปกรณ์ไม่นานก็เดินเข้ามาหาหลานสาวพร้อมเอ่ยถามอย่างติดตลก

"ถ้ากลัวเจ็บก็กัดแขนปะป๊าไว้นะลูก หึหึ.."

"ไม่กลัวค่ะ ไม่เคยกลัวอยู่แล้ว อ๊ะ!" เธอหลุดเสียงร้องเมื่อถูกลุงกดบาดแผลที่หัวเข่า ผู้เป็นพ่ออมยิ้มจนตาหยีแล้วรั้งใบหน้าลูกมาซบที่อกแกร่งจนทัดเทพทำแผลเสร็จเรียบร้อย

"เสร็จแล้วครับคนเก่ง ไม่เป็นไรมากแล้ว อย่าให้แผลถูกน้ำนะลูก แวะมาล้างแผลกับลุงได้ทุกวันเลย และเดี๋ยวลุงจัดยาให้ไปกินด้วยนะครับ เก่งมากๆ" หมอหนุ่มยกมือขึ้นมาลูบผมหลานสาวก่อนจะเดินออกมาบอกผู้ช่วยให้จัดยาให้แป้งปั้น

"ขอบคุณมากๆนะคะคุณลุง" แป้งปั้นยกมือไหว้ขอบคุณทัดเทพอย่างนอบน้อม เบิร์ดเองก็สวมกอดรุ่นพี่ไว้แนบแน่น มิตรภาพที่เธอเห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต เป็นแบบไหนก็ยังเป็นแบบนั้นจริงๆ

"โอเค เดินทางกลับบ้านปลอดภัยๆ เดี๋ยวก็ปิดคลินิกแล้ว จะพาเมียไปซื้อต้นไม้"

"ครับผม ช่วงนี้เทรนรักโลกกำลังมาใช่ไหมเฮีย"

"อืม คงงั้นมั้ง เอาไว้เจอกันในหน่วยเดือนหน้าแล้วกัน" ทั้งสองโบกมือลาแล้วต่างฝ่ายต่างเดินออกไป แป้งปั้นถูกพ่อจูงมือมาขึ้นรถแล้วขับกลับบ้านอย่างปลอดภัย

สองวันต่อมา

เด็กสาวเจ้าของรอยยิ้มหวานเดินถือถุงขนมเบื้องของโปรดอยู่ในตลาดใกล้บ้านตัวเองโดยมีบอดี้การ์ดหนุ่มเดินตามหลังมาห่างๆ ด้วยเพราะเป็นคำสั่งพ่อที่ให้คนคอยติดตามไม่ห่าง แป้งปั้นยิ้มแป้นเพลิดเพลินกับของกินหลายอย่างและเธอก็ได้ของกลับไปฝากพ่อแม่ด้วย จนมาถึงตรงกลางตลาดที่เป็นทางสี่แยก เด็กสาวยืนลังเลใจอยู่นานว่าจะไปทางไหนดีและแล้วก็มีเสียงเพลงแว่วมาแต่ไกลช่วยให้เธอตัดสินใจง่ายขึ้น

"ไปทางนี้แล้วกัน" แป้งปั้นเดินตามเสียงกีต้าร์มาจนถึงที่ที่คนมุงกันเยอะมาก เธอตัดสินใจเดินเบียดคนกลุ่มนั้นมาจนถึงด้านหน้า "โอ๊ะ! คนปากหมา!" เสียงกีตาร์ดีดเพี้ยนไปทันทีที่เสียงแป้งปั้นดังขึ้น ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองเด็กสาวและขมวดคิ้วยุ่ง

"เธอ!"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel