รับผลของการกระทำ
ตอนที่ 7 รับผลของการกระทำ
ผ่านมาสองวันแล้วเรื่องที่รุ่นพี่ทะเลาะกับรุ่นน้องปีหนึ่งสาเหตุเพราะโดนรุ่นน้องแย่งแฟนยังคงเป็นที่พูดถึงกันในรั้วมหาลัย จนเรื่องและคลิปส่งไปถึงผู้อำนวยการทั้งสองจึงโดนเรียกคุย
“นางสาว เทวิกา เดชาพันธ์พบผู้อำนวยการที่ห้องปกครองเวลานี้ด้วยค่ะ”
เสียงประกาศตาสายดังไปทั่วมหาลัยหญิงสาวที่กำลังจะเดินเข้าห้องเรียนถึงกับชะงักฝีเท้าที่จะก้าวเดินเพื่อฟังให้แน่ใจอีกครั้ง
“ชื่อแกนี่ ให้ฉันไปเป็นเพื่อนนะ” ลูกน้ำเป็นห่วงเพื่อนจึงอาสาไปด้วยเทียนหอมเองก็ไม่ได้ปฏิเสธทั้งสองจึงไปห้องปกครองพร้อมกัน
“เธอใช่ไหมที่ชื่อเทวิกา? คำถามจากผู้อำนวยการเมื่อเทียนหอมกับลูกน้ำเปิดประตูเข้ามาในห้องก็เจอกับคู่กรณีที่นั่งเหยียดยิ้มอยู่ที่โซฟาภายในห้อง เทียนหอมกับเพื่อนจึงได้แต่ก้มหน้ายอมรับกับอาจารย์
“หนูเทวิกาค่ะอาจารย์” เทียนหอมตอบกลับอย่างประหม่า
“เธอรู้ใช่ไหมว่าการทะเลาะวิวาทมันผิดกฎของมอ.เรา? “ อาจารย์ถามเสียงแข็งใบหน้าเรียบนิ่ง
“อยู่ปีหนึ่งด้วยนิ กล้ามีเรื่องกับรุ่นพี่เธอนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ” เสียงอาจารย์ที่ปรึกษาพูดเสริมจากผู้อำนวยการ
“แต่เทียนหอมไม่ได้เป็นคนเริ่มนะคะอาจารย์” ลูกน้ำแย้งขึ้นเมื่อเพื่อนโดนต่อว่าทั้งที่ไม่ได้เป็นคนหาเรื่องรุ่นพี่ก่อน
“ไม่จริงนะคะอาจารย์ยัยอ้ายแค่จะไปเข้าห้องน้ำก็โดนน้องเขาทำร้าย” มายด์แย้งขึ้นด้วยท่าทีร้อนรน
“เธอชื่อเทวิกาไหม? ถ้าไม่ใช่ก็เงียบ” อาจารย์หันมาว่าให้ลูกน้ำจนเธอเองไม่มีอะไรจะเถียงกลับได้แต่ยืนก้มหน้ารับฟัง
“ใช่ค่ะอาจารย์น้องเขาคงไม่พอใจที่อ้ายเคยคบกับแฟนเขาน่ะค่ะ” ภัทวดีตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จให้ดูหน้าสงสาร
“อาจารย์ไม่สนใจเรื่องส่วนตัวของพวกเธอหรอกนะ แต่นี่มันอยู่ในรั้วมหาลัยไม่ใช่รั้วนักเลง เธอทำผิดกฎก็ต้องโดนลงโทษ” ผู้อำนวยการพูดจายาวเหยียดแต่เหมือนน้ำหนักจะอยู่ทางคู่กรณีของเทียนหอมมากกว่า
“อ้ายก็ไม่รู้จะทำยังไงค่ะ อยู่ๆน้องเขาก็เดินชนอ้ายและก็เข้ามาตบอ้าย หน้าอ้ายยังเป็นรอยอยู่เลยค่ะ” ภัทวดียังขอคะแนนสงสารกับอาจารย์ไม่หยุดปาก ดวงตาเธอเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้ามีเพื่อนสนิทคอยจับมือปลอบใจ
“ตอแหล” ลูกน้ำโพร่งขึ้นเสียงดังโดยที่ไม่เกรงใจอาจารย์ฝ่ายปกครองเลยแม้แต่น้อย
“ต่อหน้าผู้อำนวยการพวกเธอยังจะทะเลาะกันอีก หักคะแนนความประพฤติให้หมดเลยดีไหม” เสียงอาจารย์ค่อนแคะอย่างไม่พอใจ
“เทวิกาขอโทษรุ่นพี่สะเรื่องจะได้จบๆไป” อาจารย์ฝ่ายปกครองบอกกับเทียนหอมให้ขอโทษรุ่นพี่
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะอาจารย์อ้ายไม่ถือสาน้องหรอกค่ะ” น้ำเสียงที่แสนนุ่มนวลหันไปพูดกับอาจารย์อย่างแผ่วเบา
“แต่หนูไม่ได้เป็นคนผิดนะคะอาจารย์ เขามาหาเรื่องหนูก่อน” เทียนหอมที่ไม่ยอมขอโทษเพราะเธอไม่ผิดจึงปฏิเสธไปตามตรง
“อย่าเรื่องมากได้ไหมเทวิกา เธอไม่รู้เหรอว่าแต่ล่ะปีครอบครัวของภัทวดีบริจาคให้มหาลัยเป็นหลายสิบล้านเธออย่ามาทำให้มหาลัยเราเสีย” ผู้อำนวยการพูดขึ้นมาแบบที่ลูกน้ำต้องอ้าปากค้างไม่อยากจะเชื่อประโยคที่ได้ยิน “คนไม่มีเงินบริจาคก็แสดงว่าเป็นคนผิดสินะครับ? คำถามจากคนที่เปิดประตูเข้ามาประชันหน้ากับผู้อำนวยการอาจารย์ที่ปรึกษาปีสามและอาจารย์ฝ่ายปกครอง ต่างหันไปจ้องหน้าคนที่เดินเข้ามาใหม่
“ซัน/รุ่นพี่” เทียนหอมกับลูกน้ำพูดขึ้นพร้อมกันเมื่อเห็นหน้าคนที่เดินเข้ามา ต่างกับภัทวดีที่หน้าซีดเป็นไก่ต้ม
“ชิณณวรรธ์ นี่นายเข้ามาทำไม? ผู้อำนวยการเอ่ยถามเพราะไม่ได้เรียกให้นักศึกษาคนนี้มา
“สวัสดีครับอาจารย์ ผมแค่จะมาเช็คยอดบริจาคที่ป๊ากับม๊าผมเคยบริจาคให้มหาลัย อ่อ! ขอรายละเอียดด้วยนะครับว่ากี่ล้านทางมหาลัยเอาไปใช้ประโยชน์อะไรบ้าง” ซันพูดจายาวเหยียดโดยไม่สนหัวหงอกหัวดำที่นั่งจ้องหน้าเขาอยู่
“ซ..ซันมาได้ไง? ภัทวดีแทบหาเสียงตัวเองไม่เจอรีบเอ่ยถามชายหนุ่มเป็นการตัดบทไม่ให้ซันได้พูดอะไรต่อ
“เธอหมายความว่ายังไงนายชิณณวรรธ์? อาจารย์ฝ่ายปกครองเป็นคนถาม
“หมายความตามที่พูดครับ ถ้าป้ากับม๊ารู้ว่าเงินที่บริจาคปีละหลายร้อยล้านถูกใช้อย่างไม่เกิดประโยชน์และอีกอย่างลูกสะไภ้คนเดียวของตระกูลถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม ผมคงให้ป๊าพิจารณาหาที่สนับสนุนใหม่” ซันเดินไปนั่งไขว้ขาที่โซฟาสองแขนโอบเอวแม่ของลูกให้ลงไปนั่งข้างๆ
“นี่อย่าบอกนะว่าเทวิกา....? อาจารย์ที่ปรึกษาเบิกตากว้างอย่างตกใจ
“ใช่ครับเธอคือแม่ของลูกผม อีกอย่างผมมีหลักฐาน” ว่าจบซันก็ยื่นมือถือเครื่องหรูให้อาจารย์ได้ดูภาพเคลื่อนไหวหน้าจอ
“นี่คือภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าห้องน้ำวันเกิดเรื่อง” ซันอธิบายพร้อมกับโอบไหล่แฟนสาวไว้
“นายทำบ้าอะไรเนี่ย?” เทียนหอมกระซิบเบาๆข้างหูแฟนหนุ่มเพราะเธอไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่
“เรียกร้องความยุติธรรมให้เมีย” ซันหันมาตอบคนที่นั่งข้างๆศอกเล็กกระทุ้งเข้าที่หน้าท้องของซันเบาๆอย่างนึกหมั่นไส้ ส่วนคนที่ยืนดูอย่างลูกน้ำก้ยิ้มแก้มปริไปแล้ว “ภัทวดี!นี่เธอไปทำร้ายเขาก่อนนิ” ผู้อำนวยการหันไปหานักศึกษาสาวกับเพื่อนที่นั่งตัวสั่นอยู่ เธอหน้าซีดเผือดบีบมือเข้าหากันแน่นเม้มปากเป็นเส้นตรงไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากเธอ
“เอ่อ..ค..คือหนู...? ภัทวดีอ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออกเมื่อความจริงปรากฏ
“เธอต้องขอโทษเทวิกาเดี๋ยวนี้” เสียงเข้มของอาจารย์ปกครองเอ่ยขึ้น
“ขะ..ขอโทษ! เธอกระแทกเสียงออกไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
“ผมหวังว่าบทลงโทษมันจะยุติธรรมพอนะครับอาจารย์ ผมขอตัวสวัสดีครับ” / “สวัสดีค่ะอาจารย์” ซันว่าจบก็หยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วโอบเอวแฟนสาวออกไปมีลูกน้ำเดินตามหลังไปติด ก่อนออกไปหญิงสาวก็หันไปลาอาจารย์ทั้งสามอย่างนอบน้อม
“ภัทวดีอาจารย์จำเป็นต้องตัดคะแนนความประพฤติเธอแล้วพักการเรียนเธอ 3 เดือนโทษฐานที่เธอทำผิดกฎระเบียบใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้อื่นในสถานศึกษา ส่วนเธออารยาตัดคะแนนความประพฤติ 60 คะแนน” ผู้อำนวยการกล่าวพร้อมกับเซ็นเอกสารพักการเรียนแล้วยื่นให้หญิงสาวก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกจากห้องปกครองมา
“เพราะแกคนเดียวเลยยัยอ้ายทำฉันต้องโดนตัดคะแนน” มายหันมาโวยเพื่อนสาวเสียงดังด้วยความไม่พอใจ
“แกอย่ามาโทษฉันคนเดียวนะยัยมายด์ แกก็เป็นคนเริ่มเหมือนกัน” ว่าจบภัทวดีก็เดินแยกตัวออกไปที่รถยนต์ตัวเองอย่างหัวเสีย
“รอให้แกตกต่ำวันไหนฉันจะเหยียบแกให้จมตีนเลยนังอ้าย” มายด์ได้แต่พึมพรำตามหลังเพื่อนอย่างเคียดแค้น ตลอดเวลาสามปีเธอโดนเพื่อนคนนี้เหยียดเพราะเธอเกิดในครอบครัวยากจนที่มาเรียนที่มอ.ดังได้เพราะเจ้านายของแม่ส่งเรียน
#แฟนเพจมหาลัยUN : สาวๆอกหักกันทั้งมอ.
*กรี๊ดดด! ทุกโคนนนขาเจ๊อกหักรักคุดหนุ่มเฮดว้ากวิศวะสุดฮอตเปิดปากว่ามีภรรยาพร้อมโชว์รูปทะเบียนสมรส ฮือๆๆๆ เจ๊รับไม่ได้ พ่อไมโครเวฟของเจ๊ หนุ่มซ.ที่ไม่เคยมองหญิงใดตั้งแต่ปีหนึ่งไม่ใช่สายวายอย่างที่ทุกคนคิดแต่ๆๆ แต่นางแอบซุกลูกเมียพร้อมเปิดเผยไม่เคยปิดบัง
-ผู้หญิงสวยให้อภัยค่ะเจ๊
-สวยจริงจร้า เจอตัวจริงขาวมากกกก
-ต้องรด.ขนาดไหนท้องตั้งแต่ก่อนเข้ามหาลัย
-พ่อหล่อแม่สวยขนาดนี้ ลูกจะน่ารักขนาดไหน
-เอฟซีพี่ซัน พร้อมสนับสนุนค่า
-ก็แค่เด็กใจแตก จะอวยอะไรนักหนา
-อย่างน้อยเขาก็มีความรับผิดชอบไม่คิดเอาเด็กออก
-เอาตัวเองให้รอดก่อนไหมค่อยวิจารณ์ชีวิตคนอื่น
-โลกสวยเชิญป้ายหน้าค่ะ
-วาสนาเค้า ไม่ใช่วาสนาเรา
พาดหัวข่าวในเพจมหาลัยเป็นที่ตื่นตาตื่นใจ นักศึกษาต่างเข้ามาคอมเม้นกันสนั่น ตามความคิดของตัวเองมีทั้งพวกเห็นชอบและพวกนักเลงคีย์บอร์ด ทำเอาคนอ่านข่าวนั่งไม่ติด
“ไอ้เหี้ยซัน มีคนว่าน้องคนสวยด้วยว่ะ” บอสที่นั่งอ่านคอมเม้นให้เพื่อนฟังพูดขึ้นเมื่ออ่านเจอคอมเม้นที่กล่าวหาแฟนสาวของเพื่อน
“ไร้สาระ” ซันว่าอย่างหน้าตาเรียบเฉยดูไม่สะทกสะท้านกับข่าวไร้สาระ
“แต่มึงแม่งโคตรได้ว่ะ ปิดพวกกูซะมิดเลย” เจไดว่าอย่างน้อยใจเพื่อน
“กูไม่เคยปิด” ซันตอบเพื่อนไปตามความจริง
“ไม่เคยปิด แต่ก็ไม่เคยบอกพวกกูไอ้สัส” เสียงบอสตำหนิเพื่อนสนิท
“กูไม่เคยปิด แต่พวกมึงไม่เคยถาม” ซันตอบอย่างไม่จริงจังมากนัก
“ไอ้สัสสามปีนะเว้ยไม่ใช่สามวัน ไม่มีหลุดบ้างเลย” บอสยังพยายามบ่นด่าเพื่อนที่ไม่ยอมบอกเรื่องลูกเมีย
“แบบนี้วันหยุดกูไปเล่นกับหลานได้ไหมวะ? เจไดที่นั่งฟังอยู่ถามขึ้น
“ใช่ๆกูก็อยากเห็นหน้าหลานเหมือนกันหน้าตาเหมือนใคร” บอสพูดเสริม
“ลูกกูก็ต้องเหมือนกูสิจะให้เหมือนข้างบ้านหรือไง ” ซันว่า
“ไม่แน่นะเผื่อเป็นลูกข้างบ้าน” บอสพูดหยอกล้อเพื่อน
“ไอ้สัสบอส!” ซันโพร่งขึ้นพร้อมยกเท้าหันไปทางเพื่อน บอสกระโจนหลบเท้าได้อย่างหวุดหวิด
“ไอ้ห่า เอะอะก็ใช้กำลัง” บอสว่าพร้อมเดินไปนั่งโซฟาที่ห่างออกไปพอสมควรเพื่อที่จะไม่ให้ซันตามถีบถึงตัว
“มึงก็ไปกวนส้นตีนมัน” เจไดว่าให้บอสที่เอาแต่พูดกวนเพื่อนไม่หยุดปาก
“เออ! แล้ววันเกิดหลินมะลืนนี้มึงไปได้เหรอ? เจไดที่เพิ่งนึกขึ้นได้ก็ถามออกมา
“ถ้ามึงไม่ไปมันต้องโกรธแน่ๆ” บอสพูดขึ้นเพราะวันเกิดเพื่อนผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มใกล้จะมาถึง
“กูเคยไป? ซันถามกลับเสียงเรียบ
“มึงปฏิเสธมันมาทุกปีแล้ว ปีนี้ไปให้มันดีใจหน่อยเถอะ” เจไดว่า
“อืม ดูก่อน” ซันตอบเพื่อนแต่สายตากับจ้องที่หน้าจอมือถือในมือ
“ดูเหี้ยอะไรของมึงวะ? บอสถาม
“ถ้าเทียนไปกูก็ไป”