EP 9
แต่ทุกคนต่างกลัว ว่าจะต้องถูกใช้ยาวไปถึงเย็นเลยไม่มีใครมา บวกกับไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำ ว่าจะถูกสั่งให้มาบ้านเจ้านายผู้หล่อเหลาคนนี้ เลยคิดว่าจะต้องไปโรงพยาบาลมากกว่า คนที่มักจะถูกโยนงานหินหรืองานน่าเบื่อมาให้ประจำ ก็คือมัทรีผู้ไม่เคยแย้ง หรือขัดคำสั่งใครเลยก็ว่าได้
แฟ้มประวัติพนักงานระดับหัวกะทิหอบอยู่กับอกนั้นหนักไม่น้อย แต่ความตื่นตาตื่นใจในความสวย ความอลังการของคฤหาสน์ ที่เคยเห็นแต่ในละครหลังข่าว กลับทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยแต่อย่างใด
แม้ระยะทางจากประตูไปหาตัวคฤหาสน์หลังงามนั้น จะไกลเป็นร้อยเมตร แต่เจ้าของสองเท้าที่มีคัตชูส้นเตี้ยหุ้มอยู่ ก็ยังก้าวเดินไปได้แบบไม่ยากลำบากอะไรเลยด้วยซ้ำ
ประตูบ้านซึ่งเป็นไม้เนื้อดี แกะสลักรูปดอกไม้เปิดอ้าเอาไว้ มัทรีไม่แม้แต่จะกล้าก้าวเท้าขึ้นบันไดที่มีเพียงห้าขั้น จึงได้แต่ชะเง้อคอมองเข้าไปด้านใน เห็นหญิงร่างผอมเดินผ่านมาบ้านพอดี
“สวัสดีค่ะ มัทเอาเอกสารมาให้พี่ชาติค่ะ”
เลยรีบบอกธุระของตัว และด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แม้จะเสียงดังนิด เพราะกลัวคนในบ้านไม่ได้ยิน
“อ้อ! ทางนี้เลยค่ะ”
ความเหนื่อยยิ่งหายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อถูกเชื้อเชิญให้เดินเข้าคฤหาสน์หลังงามจากหญิงวัยกลางคนที่ส่งน้ำเสียงนุ่มหูมาหาไม่แพ้กัน แล้วพาเดินอ้อมไปทางปีกขวา ผ่านเคาน์เตอร์บาร์ราวกับโรงแรมหรูหรา
พอทะลุประตูกระจกด้านข้างออกไป หัวใจก็เต้นตุบตับขึ้นอีก เมื่อเห็นทายาทอันดับหนึ่งของตระกูลใหญ่ และอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงหันมาพอดี ชูชาติเองก็หันมาหาด้วย
“อ้าว! มัท! มาแล้วเหรอ”
‘โฮ่งๆ ๆ’
มัทรียังทันจะไม่ได้เอ่ยอะไรด้วยซ้ำ เจ้าสามตัวต่างก็เห่า แล้ววิ่งตรงมาหาแทบจะพร้อมกัน
“ฮ็อทด็อก ไส้กรอก ปังปัง ไม่เอานะลูก ไม่เห่าๆ เดี๋ยวพ่อให้กลับไปอยู่ในบ้านนะ”
ราวกับพวกมันรู้ภาษา ต่างพากันหยุดเห่า เหลือแต่เอาจมูกมาดมตามขากับช่วงเอว มัทรีรู้ดีว่าพวกมันคงได้กลิ่น เพราะที่บ้านมีเจ้าหลงกับเจ้าลอยอยู่
“ไม่ต้องกลัวนะครับ เจ้าสามตัวไม่เคยกัดใครครับ”
เจ้าของบ้านเกรงว่าพนักงานสาวจะกลัว ตั้งใจจะลุกมาห้ามเจ้าสามตัวแล้ว ถ้าไม่เป็นเพราะเห็นมือบาง ข้างที่ไม่ได้หอบแฟ้มเลื่อนไปลูบหัวตัวนั้นทีตัวนี้ที เพื่อเป็นการทักทาย นั่นทำให้รู้ว่า ที่บ้านก็คงมีน้องหมาเหมือนกัน
“ทักทายเสร็จก็พอได้แล้วเด็กๆ มาหาพ่อเร็ว”
เจ้าสี่ขาต่างพากันเดินกลับไปหาราวกับฟังภาษาคนรู้เรื่องในความคิดมัทรี เมื่อไม่มีอะไรมากวนแล้ว ถึงได้รีบยกมือไหว้เจ้าของบ้าน แล้วไหว้ชูชาติด้วยท่าทีนอบน้อม
ก่อนเดินค้อมกายผ่านเจ้านายใหญ่ผู้หล่อเหลา เพื่อเอาแฟ้มไปให้หัวหน้างาน ด้วยแดดในยามเที่ยงที่แรงจัด บวกกับต้องเดินเข้ามา เลยทำให้มีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตามไรผม
“นี่เดินจากหน้าประตูมาเหรอครับ”
จักรภัทรสังเกตเห็น เลยเอ่ยด้วยน้ำเสียงห้วนนิดๆ เพราะไม่คิดว่า รปภ. หน้าประตูจะฉลาดน้อย จนปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ กับแฟ้มเต็มอกเดินเข้ามาจริงๆ
“ค่ะ” คำตอบนี้ทำให้เขารู้สึกเคือง รปภ. ขึ้นมาไม่น้อย
“เอ! ทำไม รปภ. ไม่บอกให้รถกอล์ฟออกไปรับนะ แย่จริง ดื่มอะไรก่อนครับ หรือจะไปกินข้าวกับเราก่อนก็ได้ ป้ามณช่วยจัดเพิ่มให้อีกที่นะครับ ว่าแต่เที่ยงนี้จัดให้ผมไปกินที่ไหนครับ”
ผู้บริหารหนุ่มมองพนักงานสาวสวยสะดุดตาตรงหน้า แล้วหันไปหาแม่บ้านที่ยืนอยู่ไม่ห่าง ราวกับจะรอรับคำสั่งก็ไม่ปาน
“ศาลาในสวนค่ะ ป้าเห็นคุณเกียร์ไม่สบาย เลยไม่อยากให้อยู่ในห้องแอร์นานๆ ค่ะ”
“ดีเลยครับ งั้นเราไปกันครับ”
มัทรีไม่กล้าแม้แต่จะขยับกายไปไหน เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีความสำคัญมากพอ จนจะได้ร่วมโต๊ะกับเจ้านายทั้งสองด้วยซ้ำ เลยเอาแต่ยืนอยู่กับที่
“ไปมัท! มื้อนี้คุณเกียร์เลี้ยงเชียวนะ ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงไม่ใช่เหรอเราน่ะ”
ชูชาติรู้ดีว่าลูกน้องมีความไม่แน่ใจในคำเชิญนั้น และยังคงรอให้เขาเป็นคนเอ่ยปากอีกคำรบ เลยกวักมือเรียกให้เดินตามไป กระนั้นคนถูกเรียกก็ยังไม่กล้าขยับอยู่ดี
“มีอะไรหรือเปล่าครับ หรือกลัวฝีมือแม่ครัวบ้านผมจะไม่ถูกปากครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ รับรองว่าสู้โรงแรมห้าดาวได้แน่นอน เวลาที่บ้านจัดงานเลี้ยง เราไม่ค่อยได้สั่งอาหารจากร้านหรือโรงแรมหรอกนะครับ ครัวบ้านเราเอาอยู่ เชิญครับ”
จักรภัทรเห็นหญิงสาวยังไม่กล้าขยับ เลยหันกลับมาชวนอีกคำรบ นั่นถึงทำให้เจ้าของเรือนร่างผอมบาง ในเดรสทรงสอบเข้ารูปผ้าโพลิเอสเตอร์ยาวเสมอเข่า พื้นสีน้ำเงินลายเส้นสีขาวก้าวเดินตามไปด้วยท่าทีนอบน้อม
และพยายามระงับความตื่นเต้น ที่ได้เห็นคฤหาสน์อันหรูหรา ตั้งแต่ด้านหน้ายันสวนสวย ต้นไม้โดยรอบช่วยสร้างความร่มรื่นให้ไม่น้อย
เจ้าสองตัวก็เดินตามเขามาด้วยท่าทีเริงรื่น ส่วนตัวเล็กเดินคลอเคลียมัทรีมาไม่ห่าง ราวกับรู้จักกันมานานนม พอไปถึงศาลาไม้สักหลังใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางสวน พวกมันก็ราวกับรู้ว่าเจ้านายจะกินข้าว ไม่อยากเข้ามากวนยังไงยังงั้น มัทรีเห็นแล้วอดทึ่งไม่ได้
“เด็กๆ ไม่กวนนะลูก ไปเล่นข้างนอกนะครับ พ่อกำลังมีแขกนะ”
อีกครั้งที่มัทรีเห็นเจ้าสามตัวทำราวกับรู้ภาษา ด้วยการออกจากศาลาไปวิ่งเล่นตรงสนามหญ้าแทน จนต้องมองตามแล้วยิ้มด้วยความเอ็นดู ถ้าไม่ติดว่ามีเจ้าสองตัวแล้ว กับไม่ติดว่าบ้านหลังเล็กนิดเดียวแล้ว คงได้พาน้องหมาน่ารักๆ ไปอยู่ด้วยอีกสักตัวสองตัวเป็นแน่