ตอนที่ 1 เมา
ตอนที่ 1 เมา
@ผับหรูชื่อดังกลางใจเมือง
นาธาน ชายหนุ่มรูปร่างสูงสมส่วนใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เดินเข้ามาด้านในสถานบันเทิงด้วยท่าทางเคยชินเหมือนทุกครั้งที่เขามักจะแวะเวียนมาเที่ยวที่นี่อยู่บ่อยครั้ง เพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน
สถานบันเทิงแห่งนี้ เจ้าของชื่อโซเฟีย สถานะของทั้งสองคือเพื่อนกัน ในยามที่นาธานรู้สึกเบื่อหน่ายหรือเหนื่อยล้าจากการทำงาน ที่นี่ก็คือที่ผ่อนคลายความเครียดชั้นดี เขามักจะมานั่งเล่นที่สถานบันเทิงแห่งนี้เป็นประจำ
“ไอ้หมอทางนี้โว้ย” โซเฟียโบกไม้โบกมืออยู่ไกลๆ นาธานจึงเดินเข้าไปหาเพื่อนที่โต๊ะนั้น พอไปถึงเขาก็ทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาอีกตัวทันที
“สบายดีนะ” นาธานยกคิ้วทักทายเพื่อนนิดหน่อย จากนั้นเขาก็กระดิกนิ้วเรียกเด็กเสิร์ฟ
“ไงมึง ลมอะไรหอบมึงมาที่นี่ได้วะ หายหน้าไปนานเลยนะ” โซเฟียเอ่ยขึ้น พร้อมกับนิ้วที่คีบบุหรี่ควันฉุย
“ก็แค่เบื่อๆ” นาธานตอบอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก
“น้อง...เหมือนเดิม” นาธาน ดีกรีคุณหมอหนุ่มสุดหล่อลูกชายคนเล็กของเจ้าของโรงพยาบาลพ่วงด้วยตำแหน่งผู้บริหารและอาจารย์หมอสุดเท่ แถมยังโสดสนิท อายุตอนนี้อยู่ที่ยี่สิบเก้าปี ถึงเขาจะทำงานแล้ว แต่เขาก็ยังรักสนุก ชีวิตยังต้องการสีสันเสมอ
“ค่ะ” เด็กเสิร์ฟเมื่อได้รับออเดอร์จากแขกเจ้าประจำ เพื่อนสนิทของผู้เป็นเจ้านาย เธอก็เดินออกไป แล้วกลับเข้ามาอีกครั้ง ในมือถือถาดที่มีเหล้าน้ำแข็งและกับแก้มมาวางลงบนโต๊ะ แล้วจัดการบริการชงให้ด้วย ก่อนที่จะเดินออกไปอีกครั้ง
“ไม่พาไอ้ลูคัสมาด้วยวะ” ลูคัสก็คือพี่ชายของนาธาน อายุห่างกันไม่มากแค่สองปีเท่านั้น
“ขี้เกียจชวน เห็นมันยุ่งๆ” นาธานตอบตัดบท เขากับพี่ชายไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่เล็กจนโต ทั้งนาธานและลูคัสต่างชอบแข่งขันกันมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนหรือเรื่องงาน
จนบางครั้งนาธานแอบรู้สึกเหม็นขี้หน้าพี่ชายอยู่บ้างเหมือนกัน เพราะส่วนมากคนที่ชนะก็คือลูคัส ส่วนนาธานเองน้อยครั้งมากที่เขาจะเอาชนะพี่ชายได้ ถึงคนอื่นจะมองว่านาธานทั้งเก่งและยังหน้าตาดี แต่ลูคัสกลับดีกว่านาธานทุกเรื่องไม่ยกเว้นแม้แต่หน้าตา
เรื่องพวกนี้จึงทำให้นาธานไม่ค่อยอยากจะญาติดีกับพี่ชายสักเท่าไหร่นัก แต่ทั้งสองพี่น้องต่างก็รู้กันดีว่ารักกันมากขนาดไหน แต่เรื่องศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย มันยอมแพ้กันไม่ได้ ถึงนาธานจะเป็นผู้แพ้มาตลอด แต่เขาก็แพ้อย่างมีศักดิ์ศรี เพราะทุกครั้งที่แข่งขันกันนาธานมักจะทำเต็มที่เสมอ
@ อีกมุมหนึ่งของผับแห่งนี้
มีหญิงสาวใบหน้าจิ้มลิ้ม ปากนิดจมูกหน่อยมองรวมๆแล้วเธอสวยน่ารักเลยทีเดียว กำลังเมามายเพราะว่าเธอเพิ่งจะอกหักมาหมาดๆ ตอนนี้เธอกำลังเสียใจมาก คนรักของเธอที่คบกันมานาน ไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น ต่อหน้าต่อตา เพียงเพราะเธอปฏิเสธไม่ให้เขามีอะไรกับเธอ เพราะอยากจะเก็บพรหมจรรย์อันแสนมีค่าของผู้หญิงไว้ให้เขาในคืนวันแต่งงาน
“ไอ้ผู้ชายเฮงซวย สักวันพี่จะต้องโดนทิ้งบ้าง ฮึก…” คนอกหักที่เริ่มจะเมามาก เริ่มพูดจาเลอะเทอะ ทั้งบ่น ทั้งด่า แล้วเธอก็กำลังร้องไห้ไปด้วย
เธอชื่อน้ำผึ้ง อายุยี่สิบสามปี ชีวิตของเธอมีพี่ชายคนเดียว ที่เป็นญาติของเธอคนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่บนโลกใบนี้ แต่พี่ชายของเธอมีภรรยาแล้ว และตอนนี้พี่สะใภ้ของเธอก็กำลังท้องแก่ใกล้คลอด โดยตัวของเธอเองก็พักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังเล็กๆหลังนั้นด้วยกัน
“น้ำผึ้ง แกจริงๆด้วย แกมากับใครเนี่ย แล้วทำไมถึงได้เมามากขนาดนี้” ริตาเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของน้ำผึ้ง เดินเข้ามาในสถานบันเทิงแห่งนี้ เห็นน้ำผึ้งพอดีจึงรีบแวะเข้าไปทักทายทันที สภาพของน้ำผึ้งตอนนี้ที่ริตาเห็น ดวงตาแดงกล่ำเหมือนคนกำลังร้องไห้อยู่ด้วย ท่าทางเมามากพอสมควร
“ริตา...เหรอ ฉันมาคนเดียว...” น้ำเสียงของน้ำผึ้ง บ่งบอกว่าตอนนี้เธอกำลังเมา เธอดื่มไปได้แค่สองสามแก้วเธอก็เมามากแล้ว เพราะเธอไม่เคยดื่มของพวกนี้มาก่อนเลย
เพราะความเสียใจที่เธอรู้สึกแย่อยู่ตอนนี้ ทำให้เธอตัดสินใจดื่มมัน เพราะคิดว่ามันจะสามารถช่วยให้เธอลืมเรื่องที่เธอกำลังทุกข์ใจออกไปได้ ถึงมันจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆหรือได้แค่ชั่วพักชั่วครู่แต่เธอก็อยากจะลืม
ผู้ชายที่เธอรักและไว้ใจเขาที่สุด กลับพาผู้หญิงคนอื่นไปนอนด้วย ซึ่งเธอเห็นเองมากับตา มันทำให้เธอรับไม่ได้ แล้วเธอก็บอกเลิกกับเขาทันที พอบอกเลิกแล้วก็คิดว่าตัวเองน่าจะดีขึ้นแต่เปล่าเลย เธอจึงต้องพาตัวเองมานั่งอยู่ที่ผับแห่งนี้ เพราะว่ามันกลุ้ม แต่ถึงความรู้สึกของเธอจะทุกข์มากขนาดไหน เธอก็ไม่มีวันกลับไปหาผู้ชายมักมากคนนั้นอีกแน่
“แล้วเป็นอะไร ทำไมถึงได้ดื่มหนักขนาดนี้ แล้วนี่ร้องไห้ด้วยเหรอ” ริตารีบนั่งลงข้างๆเพื่อนทันที แล้วส่งสายตาบอกให้แฟนของเธอที่มาด้วยกัน เดินไปนั่งตรงอื่นก่อน เธอขอคุยกับเพื่อนของเธอสักพักแล้วจะตามไป
“ฮึก…พี่ชาญเขาไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น ฉันเห็นมากับตาเลย ฮึก...ฮึก” น้ำเสียงของคนเมาปนกับเสียงสะอื้น ทำให้ริตาสงสารเพื่อนเข้าไปอีก
“เฮ้ยจริงดิ ใจเย็นๆก่อนนะแก ดื่มไปมันก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมาหรอก ก็ฉันเคยบอกแกแล้วใช่ไหมว่าผู้ชายน่ะ ร้อยทั้งร้อย มันก็อยากได้เรื่องนั้นกันทั้งนั้นนั่นแหละ” ริตาพอจะรู้สาเหตุของเรื่องแล้ว เพราะริตากับน้ำผึ้งสนิทกันมาก เธอสองคนคุยกันได้ทุกเรื่อง แต่ริตาจะไม่โทษว่าเป็นความผิดของน้ำผึ้ง ถ้าจะโทษก็คงต้องโทษผู้ชายที่เห็นแกตัวคนนั้นมากกว่า
“แต่ฉันจะเก็บไว้ให้พี่เขานะ ทำไมเขาถึงไม่เข้าใจฉันบ้าง ฮึก…” คนเมาพูดออกมาอย่างต้องการระบายความในใจ
“แกน่ะมันโลกสวยเกินไป เรื่องคืนวันแต่งงานอย่างที่แกคิดน่ะ สมัยนี้มันไม่มีอยู่จริงแล้ว” ริตาเอ่ยบอกเพื่อนเป็นครั้งที่ร้อย แต่น้ำผึ้งก็ยังคงยืนยันคำเดิมมาตลอด ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่ผู้หญิงจะคิดแบบนั้น แต่นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าทั้งสองคนศีลไม่เสมอกัน หรือผู้ชายคนนั้นอาจจะไม่ได้รักน้ำผึ้งจริง แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น เลิกกันก็อาจจะดีกว่าไปกันต่อก็ได้
“ฉันผิดด้วยเหรอวะ” เสียงสะอื้นกับคำพูดตัดพ้อบ่นอู้อี้อยู่ในลำคอ แต่ริตาก็พอฟังออกว่าเพื่อนพูดอะไร
“แกไม่ได้ผิดหรอกเพื่อน” ไหนๆเรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว อาการอกหักแบบนี้ ถ้าจะให้ดีขึ้นคงต้องใช้เวลาอย่างเดียวเท่านั้น ถึงจะรักษาแผลใจได้
“แล้วยังไง ได้เคลียร์กันหรือยัง เขาจะเลือกแกต่อหรือเปล่า” ริตาเป็นห่วงความรู้สึกของเพื่อนมาก ดูจากอาการตอนนี้แล้วน่าจะหนักพอสมควร
“ผู้ชายเฮงซวยแบบนั้น ต่อให้พี่เขาเลือกฉัน ฉันก็คงไม่เอาแล้วแหละ เลวขนาดนั้นใครอยากได้ก็เอาไปเถอะ!” เมื่อริตาได้ยินในสิ่งที่เพื่อนพูด ริตาเชื่อว่าอีกไม่นานเพื่อนของเธอก็คงจะเข้มแข็งขึ้นและหายเศร้าได้ไม่ยาก
“เออ…คิดได้แบบนี้ก็ดี แล้วแกจะมานั่งร้องไห้ทำไมวะ” ดูเหมือนน้ำผึ้งจะเข้มแข็งกว่าที่ริตาคิดเอาไว้มาก ไม่ว่าใครที่อกหักมาใหม่ๆก็คงเป็นแบบนี้กันทุกคนนั่นแหละ
“ไม่รู้ว่ะ รู้แต่ว่ามันเจ็บ มันเจ็บตรงนี้เลยแก...” น้ำผึ้งใช้นิ้วชี้ ชี้ไปที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเองให้เพื่อนดู อยากระบายความในใจให้เพื่อนรู้ ว่าเธอรู้สึกเจ็บตรงนี้มากขนาดไหน
“เอาเถอะ เดี๋ยวแกก็หายแต่มันอาจจะต้องใช้เวลา” ในขณะที่ริตานั่งคุยกับน้ำผึ้งอยู่นั้น สายตาของริตาก็มองไปทางที่แฟนหนุ่มของเธอนั่งอยู่ที่โต๊ะถัดไปไกลพอสมควรอยู่บ่อยครั้ง
“แล้วแกมากับใคร” น้ำผึ้งเอ่ยถามเพื่อน เพราะเมื่อสักครู่น้ำผึ้งไม่ทันได้มองว่าริตามากับใคร น้ำผึ้งรู้สึกว่าริตากำลังมองไปที่ใครสักคน
“ฉันมากับแฟน เขานั่งอยู่โต๊ะโน้นไปนั่งด้วยกันไหม” ริตาเอ่ยชวนเพราะเห็นว่าเพื่อนนั่งอยู่คนเดียว แล้วก็ยังเมามากอีกด้วย
“ไม่ล่ะ แกไปเถอะ ฉันไม่อยากจะไปเป็น กขค.”
“แล้วแกจะนั่งอยู่คนเดียวนี่นะ” ริตายังคงรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนอยู่มาก แต่คนที่มากับเธอก็สำคัญเช่นกัน
“เถอะน่า อีกแป๊บเดียวฉันก็จะกลับแล้ว แกไปเถอะ” ตอนนี้น้ำผึ้งรู้สึกมึนหัวมาก เธอกะว่านั่งอีกแป๊บเดียว เธอก็จะกลับแล้ว ส่วนเพื่อนของเธอนั้นเพิ่งมา เธอไม่อยากไปนั่งร้องไห้ ให้มันเสียบรรยากาศของคู่รักเขา
“อยู่คนเดียวได้แน่นะ” ริตาเองก็รู้สึกเกรงใจแฟนของเธอที่มาด้วยกันอยู่มาก เพราะเธอทิ้งให้เขานั่งอยู่คนเดียวนานแล้ว เธอจึงตัดสินใจให้เพื่อนนั่งคนเดียว เพราะน้ำผึ้งบอกว่ากำลังจะกลับแล้ว
“ไปเถอะฉันอยากนั่งคนเดียว ไปๆ” น้ำผึ้งรีบไล่เพื่อนให้ลุกขึ้น เธอเองก็เคยมีแฟนจึงเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ดี
“เออๆ ถ้าอย่างนั้นฉันไปนะ”
“อือ ก็บอกว่าให้ไปก็ไปสิ” หลังจากที่ริตาเดินออกไปแล้ว น้ำผึ้งก็ดื่มเหล้าเข้าไปอีก เมามากจนแทบจะไม่มีสติ เธอจึงเดินโซเซออกมา หวังว่าจะออกมาเรียกแท็กซี่เพื่อที่จะกลับบ้าน แต่เธอยังเดินไปได้ไม่ทันถึงไหน เธอก็สะดุดเข้ากับขาเก้าอี้ซะก่อน จนเธอเซไปนั่งอยู่บนตักของผู้ชายคนหนึ่งเข้าพอดี