บท
ตั้งค่า

๕ งานแต่ง (๔)

หล่อนจะแยกห้องนอนกับเขาอย่างนั้นหรือ ไม่มีสัญญาณมาก่อนเลยเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า เพียงแค่คิดหัวใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะ เร่งฝีเท้าเดินมายังห้องที่เธอกำลังจัด ค่อยลดฝีเท้าลงยามได้ยินเสียงหวานเอ่ยกับคนงาน

“จัดห้อง...ห้องอะไร” เข้าใกล้ก็ชะโงกหน้าเข้าไปดู ห้องนี้เคยเป็นห้องรับแขกที่ไม่มีแขกเข้าพักสักคน เพราะเพื่อนสนิทที่มาบ้านเขาก็มีไม่กี่คน ส่วนใหญ่มาพูดคุยก็กลับบ้านไม่ได้นอนที่นี่ ห้องรับแขกจึงร้างคนอาศัยจนฝุ่นเกาะ เธอเอ่ยขอห้องนี้เพียงแต่ไม่ได้บอกว่าจะเอาไปทำอะไร

มองดูภรรยาที่เป็นคนจัดแจงทุกอย่างให้เข้าที่ เขาเห็นโต๊ะเครื่องจักรที่ตั้งอยู่มุมห้อง ตรงกลางมีโต๊ะขนาดกว้างตั้งไว้ แล้วยังราวแขนผ้าพร้อมทั้งม้วนผ้าอีกหลายม้วนเรียงเป็นระเบียบ ไม่ต้องถามก็รู้ว่าหล่อนกำลังจะทำอะไร

ดรุณีเคยบอกว่าจะทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง หล่อนคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นแล้วล่ะ แค่เห็นก็นึกลุ้นเอาใจช่วยไปด้วย

“ใช่ค่ะๆ เอาไว้ตรงนี้ดีกว่า เวลาเน่ร่างภาพจะได้มองวิวข้างนอก เห็นสระน้ำแล้วก็สวนด้วย ถ้าเปลี่ยนประตูเป็นแบบบานกว้างกว่านี้น่าจะดี...พี่ปีกลับมาแล้ว!” คนที่สั่งงานแล้วนึกจินตนาการว่ายามทำงานจะมีความสุขแค่ไหนเมื่อมองเห็นท้องฟ้าสีคราม น้ำสีใสกับหญ้าเขียวขจี

ก่อนหางตาจะเหลือบเห็นคนตัวสูงยืนอยู่ด้านหน้า ไม่รอช้ารีบวิ่งเข้ามากอดไม่อายสายตาคนที่มองจนเขาเริ่มหน้าแดงแทนแล้ว ดูเหมือนเธอจะไม่เคอะเขินเมื่อต้องแสดงความรักต่อกัน

“คิดถึงจังเลยค่ะ” บอกอย่างตรงไปตรงมา เขาได้ยินเช่นนั้นก็กลั้วหัวเราะ

“พี่ไปตอนเช้า ห่างไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยนะ”

“ห่างแค่สองนาทีก็คิดถึงแล้ว...กินอะไรมาหรือยังคะ เน่ให้คนเตรียมอาหารไว้แล้วจัดขึ้นโต๊ะเลยดีไหม” กอดแขนหนาแล้วพาเดินไปที่ห้องโถง แต่เขาส่ายหน้าแล้วปลดมือหล่อนออกอย่างสุภาพ ประชุมทั้งวันรู้สึกล้าจึงอยากอาบน้ำให้สดชื่นขึ้นสักหน่อย

“ขอไปอาบน้ำก่อนดีกว่า พี่เหนียวตัว”

“ค่ะ”

เธอไม่ได้รั้งเขาเอาไว้ ร่างสูงจึงเดินขึ้นมาบนห้องแล้วเปลื้องเสื้อผ้าเข้าไปยืนใต้ฝักบัว เปิดก๊อกจนสายน้ำรินไหลรดกาย สดชื่นขึ้นทันทีพร้อมกับผ่อนคลายเมื่อมีเสียงเพลงโมสาร์ทดังขึ้นจากการที่เขาเปิดฟังระหว่างอาบน้ำ ไม่ทันรับรู้ว่าประตูห้องน้ำถูกเปิดออกเพราะเขาไม่ได้ล็อคไว้

พร้อมกับลำแขนที่โอบกอดจากทางด้านหลัง เมื่อหันมองก็พบภรรยาที่เปลือยกายไม่ต่างกัน เขาถึงกับสะดุ้งถามเสียงหลง

“เน่! เข้ามาทำไมพี่กำลังอาบน้ำ” เธอเลือกจะปล่อยเขาแล้วมายืนด้านหน้าอีกฝ่าย หมดสิ้นความอายอยากสัมผัสร่างกายของชายหนุ่มมากกว่า เอื้อมไปบีบสบู่เหลวกลิ่นหอมแล้วชโลมตามกายแกร่ง เจ้าตัวขาแข็งก้าวไม่ออก มองดวงหน้าหวานไล่มายังทรวงอกเต่งตึงและเอวคอดรับสะโพกผาย ค่อยหยุดสายตาไว้ที่ของสงวนสีอ่อนที่มีเส้นขนปกคลุมเล็กน้อย

“มาช่วยพี่อาบไงคะ...” พูดจบก็สะกิดยอดอกพร้อมยื่นใบหน้าเข้าไปเลียตามอกกว้างไร้ขน น้ำยังรินรดพวกเขาทั้งสองจนเปียกชุ่ม ก่อนเธอจะปิดน้ำแล้วนั่งย่อกาย ใช้มือสองข้ามกอบกุมความเป็นชายที่เริ่มตั้งตรงเอาไว้

“อย่า อย่าทำ...เน่ อึก” พยายามห้ามปรามแต่ไม่ทันเมื่อหล่อนครอบครองมันด้วยปาก เขาถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก มองดูปากอวบอิ่มที่กลืนกินความเป็นชายเข้าไปจนเกือบมิด

“พี่เข้าไม่ได้ไม่เป็นไร เดี๋ยวเน่จะทำให้พี่สบายตัวเอง” ผละออกแล้วพูดเสียงพร่า เขาเห็นอยากนั้นก็สมองขาวโพลน อยากห้ามแต่ความต้องการก็มีล้นเปี่ยม สุดท้ายยอมให้เธอช่วยได้ปลดปล่อยสบายตัว ขณะที่เธอก็ยิ้มกริ่มมีความสุข

เมื่อตนท้องก็ต้องหาวิธีอื่นมัดใจเขาด้วย แล้วอย่างนี้สามีจะไปไหนรอด!

ใช้ชีวิตด้วยกันมาสามเดือนแล้ว เจ้าตัวเล็กก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดที่ไปอัลตราซาวน์เห็นภาพชัดเจนว่าหล่อนเหมือนพ่อ...

เธอได้ลูกชาย!

ดีใจเป็นอย่างมากเพราะอยากให้เหมือนเขา คนที่หล่อ ใจเย็น อบอุ่นอ่อนโยนและทนต่อความโง่เขลาในวิชาคณิตศาสตร์ของเธอได้อย่างดีเยี่ยม

ลูกคนต่อไปขอให้เป็นผู้หญิงแล้วกัน จะได้ไปช็อปปิ้งเป็นเพื่อนแม่ หล่อนคิดฝันถึงครอบครัวแสนอบอุ่น ไม่รู้เลยว่าสามีเคยคิดจะขอหย่าเมื่อเธอคลอดลูก

“แวะร้านขายผ้าก่อนได้ไหมคะ เน่จะดูผ้าเอาไปตัดชุดให้พี่ปี” ออกจากโรงพยาบาลหลังตรวจครรภ์ประจำเดือนเสร็จก็บอกให้เขาช่วยพาไปร้านขายผ้าเพื่อจะนำไปทำงานของตัวเอง แต่ประโยคนั้นสร้างความประหลาดใจแก่คนฟังพอสมควร

“หือ ตัดชุดให้พี่เหรอ” เชื่อในฝีมือของหล่อน เพราะดรุณีเคยตัดเสื้อให้ใส่สองถึงสามครั้ง ฝีเข็มประณีตแล้วยังมีความคิดสร้างสรรค์อีก เชื่อว่าหล่อนต้องไปได้ไกลในอาชีพนี้แน่

“ค่ะ แต่ว่าเป็นชุดคู่กับเน่แล้วก็ลูกนะ ใส่ด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูกคงน่ารักดี พี่ปีพาเน่ไปหน่อยนะคะ น้า...สามีสุดหล่อของเน่” ขยับมากอดแขนเขาแล้ววางศีรษะลงบนไหล่กว้าง สารถีรูปหล่อไม่ได้บ้าคำยอสักนิด

“ครับ”

แต่ก็ตกปากรับคำอย่างรวดเร็ว

จอดรถที่ตลาดผ้าซึ่งมีร้านขายผ้ายาวเป็นหางว่าว คนเดินก็เยอะจนเขาคิ้วขมวดยามต้องเบียดเสียดกับผู้คน แล้วยังได้ยืนรอภรรยาเลือกผ้าอีก มองหล่อนหยิบจับผ้าหลายชนิดแล้วคุยกับคนขายโดยความรู้ของตนเป็นศูนย์

มีบางครั้งที่ดรุณีจะหันมาขอความเห็นจากตนบ้าง “ผ้าสีนี้สวยดีนะคะแต่เน่ว่าเรียบไปหน่อย...” แต่เพราะเขาไม่รู้เรื่องจึงรีบขอออกไปรอข้างนอก เห็นด้านหน้าพอจะมีร้านกาแฟให้นั่งคอยอยู่บ้าง

“พี่ไปรอข้างนอกได้หรือเปล่า” สีหน้าของเขาไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ เธอจึงไม่อยากกวนแค่พามาก็ดีเท่าไหร่แล้ว

“ค่ะ น่าจะอีกสักพักเลย ถ้าเน่เลือกเสร็จจะโทรหานะ” เธอตกลงอย่างเข้าใจถึงจะเสียดายที่ไม่ได้ถามความเห็นว่าชายหนุ่มจะชอบผ้าที่เธอนำไปตัดหรือเปล่า อยู่กับปีแสงหลายเดือนพอจะเดาความชอบของอีกฝ่ายออก คิดว่าเขาน่าจะชอบแหละ

“ครับ”

ร่างสูงเดินออกจากร้านแล้วลัดเลาะไปทางด้านหน้าตลาด สั่งกาแฟมานั่งดื่มระหว่างรอภรรยา หยิบโทรศัพท์ขึ้นกดไปเรื่อย กระทั่งได้ยินเสียงคนสั่งกาแฟที่คุ้นหู รีบเงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์ก่อนพบคนในอดีตที่ไม่ได้ติดต่อกันเป็นปี

“ลัน...” พึมพำชื่อของหล่อนเสียงเบา เจ้าของชื่อหันมาสบตากับเขาพอดีแล้วยิ้มกว้าง เดินเข้ามาหาชายหนุ่มเหมือนไม่มีเรื่องบาดหมางระหว่างกันเกิดขึ้น เธอทำตัวสบายมีเพียงเขาที่ไม่รู้ว่าจะเอามือวางไว้ตรงไหน

ทำตัวไม่ถูกเลย...

“พี่ปี ไม่คิดว่าจะเจอพี่ที่นี่...ยินดีกับงานแต่งด้วยนะคะ น่าเสียดายที่ลันกลับมาไม่ทันเลยไม่ได้ไปงาน” ทราบเรื่องงานแต่งของเขาเป็นอย่างดี นึกแค้นแทบกระอักที่ปล่อยผู้ชายแสนดีคนนี้หลุดมือ เพียงเพราะความเร้าใจชั่วประเดี๋ยวประด๋าว

พอจะกลับมาอีกทีเขาก็ไม่อยู่คอยแล้ว...

“พี่นึกว่าลันจะอยู่ที่นิวยอร์กซะอีก” เธอจากไปพร้อมกับหนุ่มหล่อชาวต่างชาติที่ฐานะร่ำรวย แล้วเหตุใดจึงกลับมาที่นี่คนเดียว

“กลับมาแล้วค่ะ คงไม่กลับไปแล้วล่ะ อยู่บ้านเราดีกว่า...อีกอย่างลันก็เลิกกับเขาแล้ว เพราะลันรู้ว่า ว่าลันยังรักพี่ปี ลันไม่อยากทำร้ายเขา” พูดจบก็ยกมือขึ้นซับน้ำตา จนแขนเสื้อร่นเห็นรอยช้ำตามแขน แล้วเธอก็รีบก้มหน้าปิดรอยพวกนั้น

บอกรักเขาแล้วยิ้มให้ทั้งน้ำตาจนใจชายหนุ่มสั่นไหว

หรือหล่อนโดนทำร้ายร่างกายจากแฟนจนต้องเลิกรา นึกสงสารคนตรงหน้าพร้อมหวนนึกถึงอดีตที่เรามีร่วมกัน เจ็ดปีถือว่านานพอสมควร จะให้ลืมในทันทีก็คงไม่ได้

“แต่น่าเสียดายเพราะที่ว่างข้างพี่ปีไม่ใช่ลันอีกต่อไปแล้ว” ท้ายประโยคเสียงสั่นจนร่างสูงทำอะไรไม่ถูก เขายังตัดสินใจไม่ได้ด้วยซ้ำว่าควรปฏิบัติอย่างไร กระทั่งเห็นเธอหันหลังจะเดินไปหยิบเครื่องดื่มที่สั่ง ก็ถูกร่างสูงรั้งเอาไว้

“เดี๋ยวก่อนลัน!” หญิงสาวหันกลับมามอง แต่โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน หยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาดูแล้วเห็นชื่อภรรยาชัดเจน

ตืด ตืด ตืด

“รับสายเถอะค่ะ เธอน่าจะกำลังรอพี่ปี” เธอค่อยปลดมือเขาออกแล้วบอกเสียงสุภาพ แต่เป็นชายหนุ่มที่ไม่ยอมรับสายแล้วถามเหมือนต้องการยืดเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันออกไปอีกสักหน่อย ทั้งที่เธอเป็นฝ่ายใจร้ายนอกใจ

ไม่รู้ทำไม...ใจถึงยังไม่ลืมลันตาสักที

“มายังไง ให้พี่ไปส่งไหม”

“จะรบกวนพี่ปีหรือเปล่าคะ” นั่นคือคำอนุญาตของหล่อนหรือเปล่า แล้วเขาก็บอกเสียงหนักแน่นจนคนฟังยิ้มกว้าง

“ไม่” โทรศัพท์หยุดสั่นเนื่องจากปลายสายวางไปแล้ว เป็นชายหนุ่มที่รีบพิมพ์ข้อความบอกภรรยารวดเร็ว แล้วโทรให้คนรถที่บ้านมารับหล่อนกลับ เพราะเขาต้องไปส่งอดีตแฟนสาว

‘พี่มีธุระ เดี๋ยวจะให้คนที่บ้านมารับนะ’

นั่นคือข้อความที่แจ้งเตือนมายังโทรศัพท์ของเธอ “หือ มีธุระอะไร...ช่างเถอะ เลือกต่อดีกว่า สีนี้พี่ปีน่าจะชอบ” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันแล้วกลับมาเลือกผ้าต่อ คิดจะให้เขาซื้อน้ำมาให้สักหน่อยเพราะเริ่มกระหาย แต่ไม่เป็นไรหรอกค่อยไปซื้อข้างหน้าก็ได้

ปล่อยชายหนุ่มไปทำธุระดีกว่า...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel