ซ่อนลับจดหมายรัก

86.0K · จบแล้ว
Zuey
37
บท
9.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เสิ่นเยว่เเละหลี่เซวียนต่างไม่รู้ว่าตนเองกำลัง เขียนจดหมายถึงกันเเละกัน เมื่อทั้งสองต้องเเต่งงานจึงต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับ แล้วความลับนี้จะถูกเก็บไว้ได้นานเเค่ไหน ***************************** หลี่เซวียนหัวเราะกับตนเองราวกับคนบ้า สตรีที่เขาคนึงหาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนอนอยู่ห้องเดียวกับเขาแต่เขากลับไม่เคยรู้เลย เอาแต่เพ้อหานางราวคนกับเสียสติ นี่คงเป็นเหตุผลที่นางขอทำสัญญากับเขาหนึ่งปี เพราะนางต้องการหย่าขาดกับเขาเพื่อไปอยู่กับสหายลึกลับของนางสินะ นางแอบคุยกับบุรุษอื่นทั้งที่แต่งงานเข้าตระกูลหลี่ของเขาแล้ว ถึงแม้จะเป็นการแต่งงานปลอมๆ แต่นางก็ได้ชื่อว่าเป็นฮูหยินน้อยของจวนแม่ทัพ "เหตุใดถึงได้เหลวไหลเช่นนี้" หลี่เซวียนโมโหจนลืมไปแล้วว่าบุรุษที่เสิ่นเยว่คุยด้วยทางจดหมายคือตนเอง "ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปอยู่กับเจ้าคนที่ไม่รู้ชั่วดีกล้าตีท้ายครัวผู้อื่นหรอก" *****************************************

นิยายจีนโบราณนิยายกำลังภายในแต่งงานสายฟ้าแลบจีนโบราณดราม่ารักหวานๆเย่อหยิ่งความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนนางเอกเก่ง

บทที่1 คนในความลับ1

ตอนที่1 คนในความลับ

เสิ่นเยว่ บุตรสาวคนเล็กของมหาเสนาบดีเสิ่นนั่งมองหิมะที่กำลังโปรยปรายลงมาด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย นางไม่ชอบหิมะเลยสักนิดเพราะมันทำให้เจ้านกน้อยที่ทำหน้าที่ส่งจดหมายของนางต้องลำบาก

ก่อนหน้านี้หนึ่งเดือนเสิ่นเยว่มีอาการป่วยเพราะต้องลมหนาวนางถูกฮูหยินใหญ่เสิ่นผู้เป็นมารดาสั่งห้ามออกจากเรือนเด็ดขาดจนกว่าอาการหวัดจะหายดี ใครบ้างในเรือนตระกูลเสิ่นจะกล้าขัดคำสั่งของมารดาผู้เข้มงวดของนาง แม้แต่บิดาที่เป็นถึงมหาเสนาบดียังต้องฟังฮูหยินใหญ่ท่านนี้ แล้วนางเป็นแค่บุตรสาวตัวเล็กๆ ไหนเลยจะกล้าขัดคำสั่ง

ในตอนที่เสิ่นเยว่กำลังนอนมองหิมะอย่างเบื่อหน่าย ได้มีเจ้านกน้อยบินมาเกาะที่ขอบหน้าต่างห้องของนาง ตอนแรกเสิ่นเยว่ ไม่ได้สนใจเจ้านกตัวนี้เพียงแต่คิดว่ามันแปลกก็เท่านั้นเอง นางให้ชิงจู๋สาวใช้ส่วนตัวของนางไล่เจ้านกตัวนั้นไป แต่เจ้านกน้อยกลับบินมาเกาะขอบเตียงที่นางนอนอยู่

เสิ่นเยว่เห็นว่ามันดูเชื่องดีเลยลองเรียกมันให้เข้ามาใกล้ๆ ปรากฏว่ามันทำตามที่นางสั่งแต่โดยดี เสิ่นเยว่จึงให้ชิงจู๋ไปเอาขนมมาให้มันกิน เจ้านกน้อยก็กินขนมที่นางให้อย่างเอร็ดอร่อย ตั้งแต่นั้นมาเจ้านกน้อยจะบินมาที่ห้องของนางทุกวันเวลาเดิมเพื่อกินขนมของเสิ่นเยว่ เมื่อกินเสร็จมันก็จากไป

ในตอนนี้วันเวลาที่ถูกขังอยู่แต่ในเรือนของเสิ่นเยว่ก็ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป เพราะนางมีเจ้านกน้อยคอยอยู่เป็นเพื่อนในทุกวัน แต่หลายวันมานี้หิมะตกหนักเสิ่นเยว่รู้สึกเป็นห่วงเจ้านกน้อยเหลือเกินที่มันจะต้องบินฝ่าหิมะมาหานาง เสิ่นเยว่มองหิมะที่ทับถมสูงขึ้นเรื่อยๆ นางเดินไปหยิบกระดาษมาเขียนข้อความบางอย่างลงไป

นกน้อยของท่านบินมาที่บ้านข้าทุกวัน หิมะตกหนักเกรงว่ามันจะไม่สบาย ท่านผู้เป็นเจ้าของโปรดขังมันเอาไว้จนกว่าหิมะจะหยุดลง

ข้าขอขอบคุณ

เสิ่นเยว่ม้วนกระดาษแผ่นเล็กที่นางเขียนเสร็จเก็บเอาไว้ จากนั้นก็รอเวลาที่เจ้านกน้อยจะบินมาที่ห้องของนางในเวลาเดิมของทุกวัน นางยังเตรียมขนมเอาไว้ให้มันเหมือนเช่นทุกที

เสียงกระพือปีกมาแต่ไกลเรียกความสนใจของเสิ่นเยว่

“เจ้านกน้อยเจ้ามาแล้ว หิมะตกหนักเพียงนี้เจ้ายังจะบินมาที่นี่อีก ชิงจู๋เอาผ้ามาห่อเจ้านกน้อยนี่เร็ว ตัวมันจะแข็งหมดแล้ว”

เสิ่นเยว่ รีบเลื่อนเตาไฟที่จุดในห้องนางมาวางใกล้ตะกร้าที่นางเตรียมเอาไว้เพื่อให้เจ้านกน้อยนอนพักในตอนที่มันมาหานางที่ห้อง เสิ่นเยว่กอดมันเอาไว้ในอ้อมแขนเพื่อให้ความอบอุ่นแก่เจ้านกน้อย ปากก็พร่ำบ่นเรื่องที่มันเอาแต่บินไปบินมาในอากาศที่หนาวเย็นเช่นนี้

“ ถ้าหากว่าแกแข็งตายท่ามกลางหิมะ เจ้านายของแกจะต้องมาเอาเรื่องข้าเป็นแน่ที่ทำให้เจ้านกอวดดีอย่างแก บินไปบินมาท่ามกลางหิมะเช่นนี้”

เสิ่นเยว่ ลูบขนของมันไปมาด้วยความเอ็นดู ถึงแม้ว่าปากของนางจะบ่นเจ้านกน้อยแต่สายตาของนางกลับอ่อนโยนยิ่งนัก เจ้านกน้อยเหมือนจะรู้ว่าเสิ่นเยว่กำลังโมโหเรื่องที่มันบินฝ่าหิมะมาเช่นนี้ มันจึงออดอ้อนโดยใช้หัวเล็กๆ ถูไถไปที่ฝ่ามือของนางอย่างประจบเอาใจ

“ ไม่ต้องมาประจบข้าที่ข้าพูดก็เพราะว่าเป็นห่วง ถ้าหากว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นข้าก็คงจะต้องเสียใจที่เป็นสาเหตุที่ทำให้แกต้องบาดเจ็บ”

เจ้านกน้อยส่งเสียงร้องขึ้นมาหนึ่งที เหมือนกับว่ามันกำลังตอบรับคำพูดของนาง

“ เข้าใจก็ดีแล้วถ้าหากว่าพรุ่งนี้หิมะตกหนักแกก็ไม่ต้องมาที่นี่รอให้วันที่อากาศแจ่มใสกว่านี้ค่อยมาหาข้า บ้านของข้าอยู่ที่นี่แกต้องการจะมาเมื่อใดก็ย่อมได้ แต่ไม่ใช่ในวันที่อากาศเลวร้ายเช่นนี้เข้าใจหรือไม่”

ชิงจู๋ ยกขนมที่เจ้านกน้อยกินทุกวันมาวางเอาไว้ข้างตะกร้าให้มันเจ้านกน้อยก็ไม่ปฏิเสธมันจิกกินขนมที่ชิงจู๋เอามาให้อย่างเอร็ดอร่อย เมื่อถึงเวลาต้องกลับเจ้านกน้อยก็ขยับปีกส่งสัญญาณว่ามันจะต้องไปแล้วเสิ่นเยว่ลุกขึ้นไปหยิบกระดาษที่นางเขียนเอาไว้ก่อนหน้านี้ นางใช้เชือกเส้นเล็กมัดกระดาษเข้าที่ขาของมัน

“ กลับบ้านดีๆ อย่าแวะเถลไถลที่ใดระวังแกจะโดนเจ้านายของแกทำโทษ ข้าอยู่ที่นี่ข้าคงจะไม่สามารถช่วยอันใดแกได้ เข้าใจหรือไม่เจ้านกน้อย”

เสิ่นเยว่บอกลามันและปล่อยให้มันบินกลับบ้านของมันไป เจ้านกน้อยบินออกจากห้องของนางไปทั้งที่ด้านนอกยังมีหิมะตกอยู่แต่ถึงเวลาที่มันจะต้องกลับแล้ว บินมาไม่นานเจ้านกน้อยก็ถลาลงที่จวนหลังหนึ่งมันบิน ตรงไปที่หน้าต่างที่เปิดแง้มเอาไว้

“ กลับมาแล้วหรือหิมะตกหนักขนาดนี้ยังจะไปเที่ยวเล่นข้างนอก ลู่ลูข้าเคยบอกเจ้าแล้วใช่หรือไม่ว่าห้ามออกไปเถลไถลข้างนอกในวันที่หิมะตกหนักเช่นนี้”

หลี่เซวียน นายน้อยตระกูลหลี่และยังมีตำแหน่งเป็นแม่ทัพที่มีทหารใต้บังคับบัญชาถึงสองแสนนาย เป็นขุนนางบู๊ที่มีอายุน้อยที่สุดของราชสำนัก เขามีอายุเพียงยี่สิบเอ็ดปีบิดาของหลี่เซวียนเป็นถึงแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินปกป้องชายแดนอยู่ทางภาคเหนือตระกูลหลี่ จงรักภักดีและ ปกป้องราชวงศ์แคว้นโจวมาหลายชั่วอายุคน

หลี่เซวียนเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของหลี่เหอที่ตอนนี้ประจำการอยู่ที่ชายแดนทางภาคเหนือเขาจะกลับมาเมืองหลวงในทุกสองปี

และปีนี้ก็ครบสองปีที่เขาจะต้องกลับมา ละหลี่เหอต้องกลับมาจัดการงานแต่งงานของบุตรชายเพียงคนเดียวของเขา สกุลหลี่ได้หมั้นหมายหลี่เซวียนเอาไว้กับบุตรสาวของมหาเสนาบดีเสิ่น ตั้งแต่ที่ทั้งสองยังเป็นเด็กเรื่องนี้หลี่เซวียนยังไม่รู้

หลี่เซวียนจับเจ้านกน้อยมาวางข้างเตาไฟแล้วใช้ผ้าเช็ดขนของมันที่เต็มไปด้วยหิมะ และเขาสังเกตุเห็นที่ขาของมันมีม้วนกระดาษเล็กๆ ผูกเอาไว้ หลี่เซวียนแกะออกมาดูด้วยความสงสัย

“ แกไปรับหน้าที่ส่งจดหมายให้ใครมา”

หลี่เซวียนมองเจ้านกน้อยด้วยสายตาคาดโทษ ลู่ลู่ไม่มีท่าทางสำนึกผิดสักนิดมันยังคงไชขนที่เปียกเล็กน้อยของมันอย่างสบายอารมณ์ หลี่เซวียนคลี่กระดาษออกและอ่านข้อความด้านในมันเขียนเอาไว้ว่า

นกน้อยของท่านบินมาที่บ้านข้าทุกวัน หิมะตกหนักเกรงว่ามันจะไม่สบาย ท่านผู้เป็นเจ้าของโปรดขังมันเอาไว้จนกว่าหิมะจะหยุดลง ขอบคุณ

หลี่เซวียนมองข้อความที่เขียนด้วยลายมืองดงามอ่อนช้อยในกระดาษใบเล็ก ดูเหมือนว่าจะเป็นลายมือของสตรีเขาก็มลงมองเจ้านกตัวปัญหาเล็กน้อย เจ้าหนูนี่ไปเที่ยวที่ไหนมากันแน่ถึงได้มีคนใส่ใจมันถึงกับต้องเขียนข้อความฝากส่งมาหาเขาให้ดูแลมันเช่นนี้

“ ดูเหมือนว่าแกจะมีเจ้านายคนใหม่แล้วใช่ไหม”

ลู่ลู่ ส่งเสียงร้องออกมาหนึ่งทีเหมือนเป็นการตอบรับ หลี่เซวียนไม่สนใจมันอีกแต่ยังคงเพ่งมองข้อความในกระดาษซ้ำไปซ้ำมาเหมือนมันกำลังสลักลึกลงในใจของเขา