2
คีตาพูดไม่ออกเมื่อเรื่องที่เขาพูดคือเรื่องจริง
“เพลงจะรักพ่อแม่ของเพลงก็ไม่ผิดอะไร พี่ไม่ได้ว่าแต่เพลงไม่เห็นใจพี่บ้างเลยเหรอ” เขาขยับเข้ามากระชากมือของเธอขึ้น จนคีตาร้องประท้วง แล้วมองสบตาเธอเพื่อค้นหาความจริงใจ
ใบหน้าหล่อเหลาที่ขยับเข้ามาแนบชิดทำให้เธอใจสั่นหวั่นไหว ก่อนที่ริมฝีปากบอบบางจะถูกจุมพิตอย่างดุดันดูดดื่ม
เธอรัวกำปั้นใส่เขา พยายามพาใบหน้าหนี แต่เขารวบท้ายทอยเอาไว้พร้อมทั้งบดจูบอย่างเร่าร้อน
“อื้อ...” เธอครางประท้วงเมื่อเขาปลดปล่อยริมฝีปากเป็นอิสระ ยังไม่ทันตั้งตัวเขาก็รวบเอวคอดของเธอเอาไว้ ก่อนจะวางให้เธอนั่งลงบนโต๊ะไม้ที่มุมหนึ่งของห้องครัว
กระท่อมของเขาแข็งแรงมั่นคง ทำจากไม้อย่างดี ข้าวของทุกอย่างในบ้านทั้งโต๊ะ ตู้ เตียง เก้าอี้ล้วนแล้วแต่เป็นไม้เนื้อแข็งที่เขาทำขึ้นมาเองทั้งหมด
เธอรู้ดีว่าเขาเป็นช่างไม้ที่เก่งหาตัวจับยาก เศรษฐีในเมืองที่อยากได้เฟอร์นิเจอร์สวยงามแปลกตามักจะมาจ้างคมฉกรรจ์ทำเฟอร์นิเจอร์สวยๆ
ดูเหมือนคมฉกรรจ์จะมีเงินเพราะเศรษฐีพวกนี้ให้เงินเป็นจำนวนมาก แต่เขามักนำเงินที่ได้ไปช่วยเหลือคนอื่นเสมอ ใครเดือดร้อนเขาก็ช่วย นี่คือข้อดีที่เธอรักเขา แต่กลับกลายเป็นข้อเสียที่บิดามารดาไม่ชอบ พวกท่านคิดว่าเขาไม่รู้จักเก็บหอมรอมริบ เก็บเงินเอาไว้เยอะๆ เพื่อแต่งงาน แต่เอาเงินไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
“พี่คม อื้อ...” เธอทำท่าจะประท้วงเขาก็บดจูบลงมาอีก
“พี่ถนอมเพลงอย่างดีไม่เคยล่วงเกิน แต่ตอนนี้เพลงเป็นเมียของพี่แล้ว” เขาพูดเสียงแหบพร่า ท่าทางของเขาเหมือนอยากจะกลืนกินเธอ ทำให้คีตาใจสั่น ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด
“พี่คมคะ เพลงหิวแล้ว” เธอหาทางเอาตัวรอด แต่เขาไม่คิดปล่อย มือหนาเท้าไปกับโต๊ะตัวใหญ่ข้างตัวเธอ ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปหา
“พี่ก็หิวครับ หิวมากๆ เลย” เขามองสบตาเธอ สายตาหิวโหยของเขาทำให้เธอเข้าใจในทันทีว่าเขาต้องการอะไร
ริมฝีปากน้อยถูกจุมพิตอีกครั้ง มือหนาจับมือของเธอมาคล้องที่คอหนาเอาไว้ ให้เธอโอบกอดเขาเอาไว้อย่างเอาแต่ใจ เธอปลดมือเขาออก เขาก็ไม่ยินยอม
“กอดพี่เอาไว้” เขากระซิบบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“พี่คม” เธอครางชื่อเขาเสียงสั่นระริก ปากหนาก็จุมพิตเธออีกครั้งอย่างดูดดื่ม
คีตาหลับตาพริ้มปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขา มือหนาเลื่อนลูบไปตามเรียวขาและสะโพกกลมกลึงของเธอ เร้าอารมณ์สาวให้สั่นไหวรุนแรง
ปากของเขายังร้อนรุ่ม ลิ้นหนาสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากนุ่มด้วยชั้นเชิงที่เหนือกว่า คมฉกรรจ์เลื่อนใบหน้าออกห่าง ก่อนจะกระซิบเสียงพร่า
“ตรงนี้หรือเตียงดี” เธอได้แต่นั่งอึ้ง ทำอะไรไม่ถูก เขาจึงเป็นคนตัดสินใจ มือหนาจัดการรั้งกางเกงผ้าเนื้อนุ่มที่เธอสวมใส่อยู่ลงไป ก่อนจะกระซิบเสียงพร่า
“ยกสะโพกหน่อย” เธอจับบ่าของเขาก่อนจะยกสะโพกให้เขาถอดรั้งกางเกงตัวนั้นลงไปจากปลายขาพร้อมด้วยกางเกงในตัวน้อย
คีตาเหมือนต้องมนตร์สะกด เธอยอมให้เขาถอดกางเกงไปโดยง่าย มือหนาเกลี่ยมาตรงหว่างขาซึ่งเป็นจุดอ่อนไหวที่ไวต่อความรู้สึก
“อื้อ...” เธอครางเสียงสั่นระริกเมื่อนิ้วแกร่ง สอดแทรกเข้าในกลีบสวาทอันอ่อนนุ่ม
“เจ็บค่ะ” เพราะเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาเพิ่งผ่านพ้นบทรักมาอย่างหนักหน่วง นั่นทำให้เธอร้องประท้วง นิ่วหน้าและถอยสะโพกหนี
คมฉกรรจ์ชะงัก เขาบดจูบริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอก่อนที่จะกระซิบตรงริมหู
“ถ้าเจ็บร่องก็ช่วยพี่ก่อน พี่ไม่ไหวแล้ว” เขากดเธอลง ก่อนจะประคองใบหน้าให้แหงนขึ้น
“อ้าปากสิ” เขาไล้ปลายคางของเธอเบาๆ คีตาเผยอปากออก เขาก็สอดแทรกความแข็งแกร่งเข้ามาในโพรงปากนุ่ม
“ดูดให้พี่หน่อยสิ” เขาก้มมองเธอด้วยสายตาวาบหวาม ในขณะที่คีตาดูดให้เขาอย่างว่าง่าย
คมฉกรรจ์ครางออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เขารู้สึกเสียวซ่านจากปากและลิ้นนุ่มของเธอ ความอุ่นร้อนที่โอบอุ้มรอบแก่นกายให้ความรู้สึกลึกล้ำเกินบรรยาย
“อ๊า...” คมฉกรรจ์ครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน เขาแหงนใบหน้าขึ้นด้านบน ดันสะโพกสอบเข้าออกในโพรงปากนุ่มอย่างเร็วรี่จนแตกพร่า
หยาดหยดสีขาวขุ่นไหลล้นทะลักออกมาจากริมฝีปากน้อย
เขาจับปลายคางของเธอเอาไว้ให้เธอกลืนกินน้ำรักของเขาทุกหยาดหยด
“ยังไม่หายเจ็บก็ต้องทำแบบนี้ ต้องช่วยพี่ให้หายทรมาน”
“เมื่อก่อนไม่เห็นพี่คมเป็นแบบนี้เลย” เธอเช็ดริมฝีปากของตัวเอง มองเขาตาอย่างเขินอาย
“เป็นแบบไหน” เขาขยับใบหน้าเข้ามาเอ่ยถาม
“ก็หื่นแบบนี้ไงคะ” พูดออกมาเสียงสั่น ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด
“ปกติพี่ก็หื่น แต่ไม่ล่วงเกินเพราะเพลงคือผู้หญิงที่พี่รักและต้องให้เกียรติก่อนแต่งงาน เพลงบอกพี่เองว่าอยากรักษาพรหมจรรย์เอาไว้ให้พี่ในคืนวันแต่งงาน”
“แต่พี่ก็ทำลายมันไปแล้ว” เธอกลายเป็นเมียเถื่อนของคมฉกรรจ์ไปเสียแล้ว ไม่มีการสู่ขอ ไม่มีงานแต่ง ไม่มีทะเบียนสมรส ไม่มีการรับรู้ของผู้ใหญ่
“เราก็วิวาห์เหาะกันไปแล้วไง แทนที่เพลงจะแต่งงานกับหมอนั่น ก็แต่งงานกับพี่แทน” เขาตอบแบบกำปั้นทุบดิน ก่อนจะประคองเธอไปนั่ง
เธอมองเขาจัดโต๊ะอาหารเงียบ ๆ ก่อนที่เขาจะตบหน้าตักของตัวเองเบา ๆ
“มานั่งนี่สิ” เธอไม่ขยับเขยื้อนเขาจึงเอ่ยเรียก
เธอกัดปากเล็กน้อย ปฏิเสธหรือต่อต้านไปก็ใช่ที เธอค่อนข้างเหนื่อยล้ามากมายในตอนนี้ จึงเดินไปนั่งตักเขาเงียบๆ
“เธอเป็นเมียพี่ อายไหมมีผัวยากจนไม่ได้มีผัวรวยเหมือนเจ้าบ่าวที่แต่งงานด้วย”
“เมื่อไหร่พี่คมจะเลิกประชดสักทีคะ”
“เมื่อเธอบอกว่าไม่อยากกลับไปหาหมอนั่นอีก และเลิกเรียกร้องจะไปจากพี่”
“เพลงรักพี่คม รักมานานแล้ว รักมาตลอด เพลงเป็นของพี่คมแล้วก็ต้องอยู่กับพี่คมสิคะ”
“เพลงพูดจริงเหรอ”
“จริงค่ะ แต่เพลงเป็นลูก เพลงก็ต้องนึกถึงหน้าพ่อแม่ หายมาแบบนี้ พ่อกับแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน พี่คมนึกถึงข้อนี้ไหมคะ”
“พี่จะทำทุกอย่างให้เรียบร้อย”
“พี่คมจะทำยังไงคะ”
“แค่เพลงบอกว่ายังรักพี่อยู่เหมือนเดิม อยากอยู่กับพี่ จะทิ้งพี่ไปหาคนอื่น แล้วทุกอย่างพี่จะจัดการเอง เพลงเชื่อมั่นในตัวพี่ไหม”
“เพลงเชื่อมั่นในตัวพี่คมได้ใช่ไหมคะ” เธอถามเพื่อให้แน่ใจ
“ได้สิ พี่ขอโทษเพลงด้วยที่ทำอะไรแบบนี้ลงไป” ในที่สุดเขาก็ยอมเอ่ยปากขอโทษเธอ เธอขอแค่นี้จริงๆ สำหรับเวลานี้
เธอแค่อยากให้เขาสำนึกผิดและเห็นใจเธอบ้าง เธอเป็นผู้หญิง เธอเสียหาย และเขาก็ควรคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป
“ร้องไห้ทำไม” เขาเช็ดน้ำตาให้เธอเบา ๆ
“ขอบคุณนะคะที่พี่คมยอมเอ่ยปากขอโทษ” เธอสะอื้นเบาๆ
