9.อะไรกัน
แมเดอลีนหยุดฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินตามเขา เธอคิดว่านี่มัน..ไม่เหมาะสมเอามากๆ อีกทั้งตามเนื้อเรื่องแล้ว ตัวร้ายแบบเขาไม่น่าจะมายุ่งเกี่ยวอะไรกับเธอไม่ใช่รึไง แล้วทำไมเขาถึงได้ลากเธอมาที่นี่ต่อหน้านางเอกอย่างเดมเกโลทีสกันนะ
นี่มันไม่ปกติแล้ว..
“ท่านดยุคคะ..”
เธอร้องเรียกเขาอีกครั้งเพื่อหวังให้เขาหยุดยั้งการกระทำที่มันผิดปกติทั้งหมดทั้งปวงพวกนี้
ทว่าเสียงเรียกที่เต็มไปด้วยความประหม่าพร้อมกับสายตาที่สั่นไหวของเธอไม่สามารถทำให้ความตั้งใจของเอสเตบันหยุดลงได้เลย
เขาอุ้มเธอขึ้นมาในทันทีก่อนจะพาเธอเดินเข้าไปยังสวนที่แสนสวยงามของวิหารศักดิ์สิทธิ์
“อ๊ะ..”
เธอร้องออกมาด้วยความตกใจที่อยู่ๆ เขาก็ตรงเข้ามาแล้วช้อนตัวเธอขึ้นมาอุ้มในท่าเจ้าหญิง
“ท่านดยุคคะ นี่มัน..”
“หากไม่เงียบข้าจะจูบเจ้าซะ!”
แมเดอลีนอ้าปากค้างกับคำขู่พวกนั้น เธอยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้ในทันทีด้วยท่าทางไม่ไว้วางใจ
อะไรของเขากัน คำขู่เช่นนั้นมันสมควรที่จะพูดออกมางั้นเรอะ!
เขาวางเธอลงบนม้านั่งในสวนด้านหลังที่ไม่มีใครเดินเข้ามา เพราะถัดจากสวนนี้ไปมันคือที่พักของเขา นี่คือเหตุผลที่ไม่มีใครเดินผ่านไปมาในสวนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของท่านดยุควีไซร์
“ข้าแค่คิดว่าเสียงของเจ้ามันคุ้นหูมากทีเดียว เหมือนกับว่าข้าเคยพบเจอเจ้ามาก่อนอย่างแน่นอน”
นี่เขา..ฉุดกระชากลากจูงเธอมาที่นี่เพราะว่าเสียงของเธอมันคุ้นหูแค่นั้นเองเรอะ!
แก้มของเธอเปลี่ยนเป็นสีเข้มจัด ไม่แปลกหรอกที่เขาจะคุ้นเสียงของเธอเพราะว่าที่ร้านขายเครื่องประดับ..เธอด่าเขาว่าไร้มารยาทขนาดนั้นนี่
“ท่านดยุคน่าจะจำผิด..”
“ความผิดพลาดคือเรื่องเดียวในชีวิตของข้าที่มันจะไม่เคยเกิดขึ้น”
หมายความว่าเขาเช่นเขาไม่เคยทำอะไรผิดพลาดเลยอย่างนั้นสิ
แมเดอลีนมองหน้าเขาด้วยแววตาที่ไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก
“เช่นนั้น..เราคงจะเคยพบเจอกัน สักที่ในเมืองหลวงแห่งนี้ละมั้งคะ”
เธออยากออกไปจากที่นี่ อยากจะไปจากเขาจนอยากวิ่งหนีออกไปด้วยซ้ำ จริงอยู่ที่ใบหน้านี้หล่อเหลาจนอยากที่จะละสายตาแต่ทว่าในความสมบูรณ์แบบที่เกินบรรยายของเขามันมีออร่าความชั่วร้ายอยู่นะสิ เธอไม่ต้องการรู้จักหรือว่าสนิทสนมกับตัวร้ายที่แสนอันตรายแบบเขาเลยแม้แต่น้อย ไม่อยากจะ..มองหน้าเลยด้วยซ้ำ
สิ่งที่เคลือบแคลงอยู่ในใจของเอสเตบัน นอกจากน้ำเสียงที่แสนคุ้นหูแล้วยังคงมีกลิ่นหอมที่เขามั่นใจว่ากลิ่นนี้มันคือกลิ่นที่เหมือนกันกับสตรีที่เขากำลังพยายามตามหานางด้วยความหลงใหล
ทว่ายังไม่มีอะไรที่สามารถฟันธงได้ว่า เลดี้เรเซเดนคือสตรีคนเดียวกันกับที่ส่งมอบครั้งแรกที่ลืมไม่ลงให้เขา แต่ตามที่เขาได้ยินมานั้นบิดาของนางค่อนข้างหวงแหนนางมากเป็นพิเศษ เพราะแบบนั้นมันยากยิ่งนักที่สตรีในคืนนั้นจะเป็นไข่ที่อยู่ในหินอย่างเลดี้เรเซเดน
“เจ้าใช้..น้ำหอมจากร้านไหน”
เขาถามเรื่องส่วนตัวของเธอทำไมกัน หรือว่าเขาต้องการหาซื้อน้ำหอมไปให้เดมเกโลทีส?
เธอหรี่ตามองหน้าเขา
“ร้านของมาดามเดอปาลัวค่ะ”
เช่นนั้นสตรีในคืนนั้นอาจจะซื้อน้ำหอมมาจากร้านเดียวกัน ดูเหมือนว่าเขาจะได้เบาะแสเพิ่มขึ้นแล้วอย่างนั้นสินะ
ดวงตาของเอสเตบันมองไปที่ใบหน้าที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ของเลดี้เรเซเดน สตรีผู้นี้ทำท่าทางรังเกียจเขาอย่างออกนอกหน้ามากไปหน่อยไหม ถึงแม้ว่าเขาจะมีคำสัญญาเรื่องที่ตัวเองกำลังจะแต่งงานกับเลล่า แต่ทว่าเขาก็เป็นถึงดยุคของจักรวรรดิ
เขาไม่ชอบใจท่าทีเช่นนี้ของนางเอาซะเลย ให้ตายสิ
“หากว่าท่านดยุคไม่มีเรื่องอะไรแล้ว..ข้าขอตัวก่อนนะคะ”
เธอลุกขึ้นพร้อมกับจับชายกระโปรงยกขึ้นเล็กน้อย แล้วย่อตัวลงเพื่อทำความเคารพและกล่าวอำลาเขา ทว่ามือของท่านดยุคกลับยื่นมือจับข้อมือของเธอเอาไว้ เขาดึงรั้งร่างกายของเธอเพื่อให้เธอนั่งลงบนตักของเขา ก่อนที่ฝ่ามือของเอสเตบันจะจับเข้าที่เอวของแมเดอลีน
แก้มทั้งสองข้างของเธอแดงก่ำราวกับลูกมะเขือเทศเมื่อเขากระชับอ้อมแขนแล้วโอบกอดเธอเอาไว้ในท่วงท่าที่ใกล้ชิดเกินพอดี
หัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
จู่ๆใบหูของเอสเตบันก็แดงขึ้นมา เขารู้สึกกระหายน้ำราวกับกำลังเดินอยู่ในทะเลทรายที่แห้งแล้ง บางอย่างกำลังทำให้จิตใจของเขามันรู้สึกปั่นป่วนขึ้นมา เธอโอบรอบตัวเขาเอาไว้อย่างไม่รู้ตัว
เราทั้งคู่กำลังมองสบตากันโดยที่ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดรอดออกมาจากริมฝีปากเลยแม้แต่น้อย
เขาดึงเธอเข้ามาใกล้ แผ่นอกแข็งแรงแนบชิดกับเธอจนเธอรู้สึกถึงลมหายใจของเขาที่สม่ำเสมอ ฝ่ามือหนาค่อยๆ ลูบไล้ไปตามเอวและแผ่นหลังของเธออย่างนุ่มนวล
นี่เธอเป็นอะไรไป? เธอควรจะผลักไสเขาออกเดี๋ยวนี้แต่ทว่าเธอกลับไม่มีเรี่ยวแรงหลงเหลืออยู่เลย ภายใต้ดวงตาคมกริบประดุจราชสีห์ของเขานั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ภายใต้อุ้งเท้าของเขา
และความรู้สึกเช่นนี้มัน..คุ้นชินแบบแปลกๆ มันเหมือนกับว่าเธอและเขาเคยใกล้ชิดกันเช่นนี้..
เธอน่าจะบ้าไปแล้วแน่ๆ นี่ตัวร้ายนะโว้ย!! ไหนตั้งใจว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับตัวละครหลักแล้วทำไมยังไม่รีบผลักเขาออกอีก ล่ะแมดดี้!!
“น่าแปลก..มีแต่เรื่องแปลกประหลาดเต็มไปหมด”
เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่อุ่นร้อนกำลังทิ่มแทงบั้นท้ายของเธออยู่ แมเดอลีนยกมือขึ้นมาแล้วพยายามผลักท่านดยุคออกอย่างรวดเร็วเมื่อเธอรับรู้ได้ถึงอันตรายที่กำลังก้าวเดินเข้ามา..
“อย่าขยับสิ อย่าปฏิเสธหรือคิดจะหลบหนีด้วย เพราะว่าข้าชื่นชอบการออกล่ามากกว่าการกินเหยื่อที่ยินยอมด้วยดี”
เธอขมวดคิ้วมองหน้าเขาด้วยใบหน้าที่แดงซ่าน
“ข้าไม่ใช่เหยื่อของท่านนะคะ”
“เช่นนั้นตอนนี้ก็มาเป็นซะสิ”
เธอพยายามใช้มือดันหน้าเขาออกเมื่อเขาพยายามจะกดริมฝีปากลงมาเพื่อจูบเธอ
นี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เรื่องแบบนี้มันควรเกิดขึ้นที่ไหนกันล่ะโว้ย!!
“ยะ..หยุด อื้อ!!”
ริมฝีปากของเขาแตะลงบนริมฝีปากของเธออย่างนุ่มนวล เหมือนน้ำค้างที่หล่นบนกลีบดอกไม้ยามเช้า ความอ่อนโยนจากจุมพิตนั้นแตกต่างจากภาพลักษณ์ที่แสนโหดร้ายของเขามากเหลือเกิน
เขารวบข้อมือเล็กๆ ที่กำลังผลักไสเขาเข้าหากันเพื่อไม่ให้เธอได้มีโอกาสต่อต้านเขาอีก
จูบที่เขามอบให้เธอมันเหมือนกับการเต้นรำภายใต้แสงจันทร์ ความอ่อนโยนในทุกจังหวะสะท้อนถึงความรู้สึกส่วนลึกที่ซ่อนอยู่
จากมือที่ผลักไสแปรเปลี่ยนเป็นการโอบล้อมรอบคอของเขาเอาไว้ราวกับเธอกำลังหวาดกลัวว่าเขาจะผละริมฝีปากนี้ออกไป
ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันนะ มันเหมือนกับว่าจุมพิตนี้คือสิ่งที่หัวใจของเธอโหยหามาโดยตลอด