บทย่อ
วิวาห์ที่เริ่มต้นด้วยการบังคับ ไร้ซึ่ง ‘หัวใจ’ หากไม่เผลอใจ ‘รัก’ ก็ไม่มีใครเจ็บ เขาทำตามคำขอของแม่ ส่วนเธอทำตามคำขอของเขา ยินยอมทำตามสัญญา…เพราะสุดท้ายมันก็แค่…วิวาห์ลวง!!
บทนำ
“ผมไม่แต่ง!!”
“แม่ไม่ได้ถามความเห็น แม่แค่มาบอก อาทิตย์หน้าแกต้องเข้าพิธีวิวาห์กับหนูณิน แล้วไม่ต้องอ้างนู่นอ้างนี่นะเพราะแม่เตรียมงานไว้เรียบร้อยหมดแล้ว”
“ทำไมแม่ทำกับผมแบบนี้ ทำไมไม่ถามความเห็นผมก่อน ทำไมแม่เอาแต่ใจตัวเองไม่คิดถึงใจผมบ้าง แล้วกับน้องณินผมก็เห็นมาตั้งแต่เล็ก ๆ จะให้มาแต่งงานอยู่กินกันโดยที่ไม่ได้รักผมทำไม่ได้”
“เหรอ อย่างกับที่ผ่านมาแค่มีรักกับคู่นอนอย่างนั้นแหละ” คุณนิราแค่นหัวเราะใส่ลูกชายคนโตที่ครองตัวเป็นหนุ่มโสดเกือบสิบปี
น่านนทีผู้บริหารบริษัทโลจิสติกส์ เด่นทั้งเรื่องการทำงานและรูปร่างหน้าตา การันตีจากรางวัลมากมายหลากหลายสาขา อย่างเช่น ผู้บริหารดีเด่นหรือจะเป็นหนุ่มฮอตน่ากอดแห่งปี
สาว ๆ ทั้งในและนอกวงการต่างเข้าแถวต่อคิวหวังจะเป็นคู่ควงหรือตัวจริงของน่านนทีกันทั้งนั้น หากทว่าไม่มีคนไหนสามารถล้ำเส้นนั้นได้เลย อย่างมากสุดก็แค่สนุกเป็นครั้งคราวแถมยังไม่ซ้ำรอยเดิมอีกด้วย ส่วนมุมนี้ก็ไม่มีใครมากนักที่รู้ แต่ของอย่างนี้ไม่มีทางเล็ดลอดสายตาผู้เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวได้แล้วคุณนิราก็ไม่เชื่อหรอกว่าลูกชายจะอดใจไหวหากได้เข้าหอกับ ‘ณินทิรา’ ลูกสาวเพื่อนสนิทคนเดียวของเธอ
ถึงณินทิราจะไม่ใช่สเปกลูกชายเพราะไม่ใช่สาวสวยจัด แต่จัดอยู่ในประเภทสาวหมวยตาโต จมูกนิด ปากหน่อย เหมาะสมกับลูกชายของเธอเป็นที่สุด
ณินทิราอายุ 25 ปี ส่วนน่านนทีอายุ 30 ปี ระยะห่างกำลังพอดีที่จะสร้างครอบครัวด้วยกัน แล้วไม่ใช่คนอื่นคนไกล เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ
“มันเหมือนกันที่ไหนละครับ” สำหรับคู่นอนน่านนทีคิดแค่ ‘แฮฟเซ็กซ์’ มันก็แค่ความสนุก ขำ ๆ กันไป พึ่งพอใจแล้วแยกย้าย แต่สำหรับเจ้าสาวของเขาเรื่องบนเตียงมันคือการ ‘เมคเลิฟ’ ที่เกิดจากการตอบสนองด้วยความรักไม่ใช่ความใคร่!!
“ที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อยเพราะกลัวความผูกพันไม่ใช่เหรอ กับน้องยิ่งง่ายเลยอยู่กันบ่อย ๆ ก็รักกันเอง หนูณินน่ารักจะตายไปแถมยังเป็นเด็กดีอีกด้วย”
“หึ ผมไม่อยากได้เด็กดี” มีเมียไม่ใช่มีลูก จะมาเด็กดงเด็กดีอะไรล่ะ “แล้วผมก็เห็นน้องณินเป็นแค่น้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น”
“แต่แม่อยากได้” คุณนิรายักคิ้วกวนประสาทลูกชายคนโตไปหนึ่งที เล่นสงครามประสาทกับมันซะเลยถ้าคิดจะขัดใจแม่
“งั้นผมถามหน่อยว่าทำไมถึงอยากให้ผมแต่งงานนัก” ปกติแล้วแม่ไม่เคยจะมายุ่งเรื่องส่วนตัวเลยสักครั้ง แล้วนิสัยเถียงแม่ ย้อนถามแม่ เขาก็ไม่เคยเอามาใช้ แต่เรื่องนี้มันเหนือการควบคุมของอารมณ์จริง ๆ “เพราะอยากให้แต่งหรือเพราะน้องณินของแม่”
“ทั้งสองอย่าง อ้อ! เพิ่มอีกอย่างคือแม่อยากมีหลานแล้ว”
“ถ้าเรื่องหลานก็ไปบอกไอ้นนท์นู่น มันมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว อยากมีกี่คนก็ให้มันจัดให้” เมื่อได้จังหวะน่านนทีก็โยนหน้าที่ให้น้องชายอย่างศักดานนท์ทันที
“ไม่อะ แม่ถือธรรมเนียม คนพี่ต้องแต่งก่อน” ความจริง คุณนิราหัวสมัยใหม่จะตาย คนพี่แต่งก่อนคนน้องอะไรนั้นแทบไม่อยู่ในหัว แต่เธอไปกระซิบถามว่าที่ลูกสะใภ้กับลูกชายคนน้องมาแล้วว่าคิดจะแต่งงานกันยัง ถ้ายังช่วยแม่กดดันพี่ชายเรื่องนี้หน่อย
แล้วก็ได้ผลเมื่อศักดานนท์กับพราวฟ้ายังอยากใช้ชีวิตแบบคู่รักกันไปก่อน ยังไม่แพลนเรื่องแต่งในเร็วนี้
พอได้ยินคำตอบจากแม่ น่านนทีถึงกับยกมือกุมขมับด้วยความรู้สึกท้อแท้ หนทางหลีกหนีริบหรี่เหลือเกิน พยายามสงบสติเพื่อแก้ปัญหาด้วยสติไม่ใช่อารมณ์ ทว่าประโยคต่อจากนี้ก็ทำให้สติขาดหายทันที!!!
“หรือที่ไม่ยอมแต่งเพราะยังลืมไม่ได้?” คุณนิราจี้จุดอ่อนน่านนที ก็ไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องนี้ของลูกชายนักหรอก แต่มันเป็นวิธีเดียวที่จะเอาชนะลูกชายตัวดีให้ยอมเข้าพิธีวิวาห์ที่เธอออกหน้าเตรียมการไว้ล่วงหน้าเป็นเดือน ๆ ทั้งทาบทามฝ่ายหญิง จองโรงแรม จ้างออแกไนซ์และชุดแต่งงาน
“ไม่เกี่ยวกันซะหน่อย” น่านนทีตอบห้วน ๆ
“ถ้าไม่เกี่ยว…” คนเป็นแม่พูดไม่ทันจบก็ต้องกระตุกยิ้มออกมา
“ครับ แต่งก็แต่ง!!”