เจอของดี
ฤดูหนาวก็ใกล้มาถึงนางไม่ชอบฤดูหนาวเลยเพราะที่บ้านของนางไม่ได้มีผ้านวมผืนหนาๆ นางสงสารท่านพ่อและพี่ใหญ่ เพราะผ้ามีเพียง3ผืนที่พอจะหนาบาง แต่นางคิดไว้ว่าในอนาคตนางต้องซื้อเป็น10ผืนเเน่ๆ
ยามเหม่า
นางตื่นแต่เช้าเพราะความเคยชินท่านแม่ของนางลุกไปทำอาหารส่วนท่านพ่อกับพี่ใหญ่ไปในไร่
เหลือแต่พี่รองที่มานั่งเฝ้านาง
ตอนนี้นางก็3หนาวแล้ว แล้วตอนนางอายุ 2 หนาวนางพยายามจะเอาโบว์ไปจุ่มในอ่านเพื่อให้ทุกคนดื่ม แต่กว่านางจะไปถึงก็ล้มลุกคุกคลาน พอจะเอาโบว์จุ่มตัวของนางก็ยังไม่ถึงขอบปากอ่างเลย อยู่ๆ ท่านพ่อของนางก็เดินมาอุ้มนางกลับไปที่เดิม แล้วนางจะเดินมาเพื่อ!
"เลี่ยงหลิ่งใยลูกดื้อหนัก"
นางอยากจะเถียงว่านางไม่ได้ดื้อสักหน่อย นางเเค่อยากช่วย
"ไม่ดื้อ ไม่ได้"
"555 เจ้าไม่ดื้อก็ไม่ดื้อ"
"แปะ แปะ" นางยิ้มเเล้วปรบมือให้ท่านพ่อ
เห้อ! เมื่อตอนนางเริ่มเดินได้คล่องนางก็เอาโบว์ไปจุ่มน้ำในอ่าง ก่อนท่านพ่อจะกลับมา เมื่อเวลาผ่านไปครอบครัวของนางก็เเข็งแรงขึ้นกันทุกคน นางคิดว่าโบว์นี้ต้องมีอะไรซ้อนอยู่เป็นเเน่
"เลี่ยงหลิ่งวันนี้ลูกอยากไปเล่นในไร่รึไม่ลูก"
"ไปเจ้าค่ะ"
"ข้าอยากไปเจ้าค่ะ"
เมื่อนางกับพ่อเดินทางมาถึงไร่พี่รองของนางก็วิ่งมาหานาง
"เลี่ยงหลิ่งเจ้าคิดถึงพี่รองรึไม"
"เจ้าคะ ข้าคิดถึงพี่รอง"
"แล้วเจ้าไม่คิดถึงพี่ใหญ่เจ้าบ้างรึ"
"ข้าก็คิดถึงพี่ใหญ่เจ้าค่ะ"
"เลี่ยงหลิ่งมานั่งพักเร็วเหงื่อเจ้าออกเยอะเเล้ว"
"เจ้าคะท่านเเม่"
"งั้นเจ้านั่งเล่นอยู่ตรงนี้ก่อนนะพ่อแม่พี่ใหญ่พี่รองจะไปทำไร่"
"เจ้าค่ะข้าจะเป็นเด็กดี"
เมื่อครอบครัวของนางเดินไปหมดแล้ว นางค่อยๆ เดินไปสำรวจป่าที่อยู่ใกล้ๆ กับไร่ของนางเมื่อเดินไปได้สักพักนางเห็น ต้นห่วยซัว มันช่วยบรรเทาอาการบวม นางดีใจมากถ้านำไปขายให้ร้านยาต้องได้หลายเงินเเน่นอน
นางรีบเข้าไปดึงต้นมันแต่ก็ดึงไม่ได้
"เลี่ยงหลิ่ง เลี่ยงหลิ่ง เจ้าอยู่ไหน"
"ข้าอยู่นี้เจ้าคะ"
"เจ้าเข้ามาทำอะไรในนี้ท่านพ่อจะดุเจ้าเอานะ ท่านพ่อบอกว่าเจ้าห้ามไปไหน เจ้าต้อง.. "
"พอๆ เจ้าคะ พี่ใหญ่ มาช่วยข้าดึงต้นนี้หน่อย"
"เจ้าจะเอาต้นนี้ไปทำอะไร"
"เอาไปขายเจ้าคะ"
"มันขายได้รึ"
"ได้เจ้าค่ะ"
ท่านพี่ทำหน้าไม่เชื่อนาง
"ท่านพี่รีบดึงเจ้าคะ"
เมื่อท่านพี่ของนางดึงเสร็จได้ประมาณ4ต้น
"เรารีบไปหาท่านพ่อเถอะเจ้าคะ"
"เลี่ยงหลิ่งเจ้าไปไหนมาลูก"
"ทางเข้าป่าเจ้าค่ะ"
"ท่านพ่อเลี่ยงหลิ่งบอกข้าว่าต้นนี้สามารถนำไปขายได้"
"ไหนพ่อดูหน่อย"
"นี้มัน! ต้นห่วยซัวเจ้าเอามาจากไหน"
"ต้นไม้ทางเข้าป่าขอรับข้าเห็นมี4ต้น"
"เลี่ยงหลิ่งเป็นคนไปเจอ ครั้งเเรกข้าคิดว่าน้องอยากได้ไปเล่นไม่คิดว่าจะขายได้"
"เลี่ยงหลิ่งเจ้ารู้จักได้อย่างไร"
"คือ คือ ข้า... "
"ข้าคิดว่ามันหอมดีเจ้าค่ะมันน่าจะเป็นสมุนไพร"
"เเล้วเจ้ารู้ได้ยังไงวันสมุนไพรมีกลิ่นหอม"
"ข้าเเค่เดาเจ้าค่ะ"
"ครั้งหน้าเจ้าอย่าเก็บมั่วนะมันอาจจะเป็นพิษก็ได้"
"เจ้าค่ะ"
"ต้นห่ายซัว ที่เจ้ากับพี่ใหญ่เจ้าเก็บมามีราคาสูงมากเพราะว่าเป็นที่ต้องการในร้านยา"ทำไมนางจะไม่รู้โลกก่อนมันสามารถนำมาทำอาหารมาทำเป็นยาสารพัดประโยชน์
"เจ้าค่ะ"
"ท่านพี่คุยอะไรกับลูกเจ้าคะ"
"ก็เลี่ยงหลิ่งไปเจอสมุนไพรมา"
"สมุนไพรอะไรเจ้าคะ"
"ต้นห่ายซัว พี่ว่าจะเข้าไปในเมืองไปขายให้ร้านยาน่าจะได้ราคาดี"
"งั้นท่านพี่ซื้อขนมมาฝากเด็กๆ ด้วยนะเจ้าค่ะ"
ยามโหย่ว
ท่านพ่อนางก็กลับมาขายต้นช่ายซัวได้มาต้นละ2เหรียญเงินขายทั้งหมด4ต้นได้เงินมา8เหรียญเงิน
ครอบครัวนางสามารถใช้เงิน8เหรียญเงินได้ทั้งเดือน
"พี่ใหญ่วันนี้มีของอร่อยเต็มโต๊ะเลยขอรับ"
"วันนี้พี่ใหญ่กับน้องเล็กเจ้าโชคดีได้สมุนไพรมาขายพ่อเลยซื้อไก่ตุ๋นกับเนื้อหมูมาให้แม่เจ้าทำอาหารให้กิน"
"ตั้งแต่มีน้องเล็กครอบครัวเราก็แข็งเเรงมีอะไรอร่อยให้กิน เจ้าช่างนำโชคจริงๆ นะเลี่ยงหลิ่ง"
"พี่รองล้อข้าแล้ว"
"55555"ทั้งครอบครัวพากันหัวเราะ
นางจะทำให้ครัวครอบนางมีความสุขนาง จะพาพี่รองนางไปหากินของอร่อยให้ทั่ว เพราะพี่รองของนางชอบกินมาก แต่ครอบครัวนางไม่ค่อยมีเงินแต่ในอนาคตพวกนางต้อง รวย! เเน่ๆ ยามนี้นางยังเป็นเด็กยังไม่สามารถทำอะไรเกินตัวได้ และไม่อยากให้เป็นที่สงสัย
กลางดึกคืนหนึ่ง
เลี่ยงหลิ่งกำลังนอนอยู่ๆรู้สึกแสบตาจึงลืมตาขึ้น เมื่อนางลืมนางเห็นละอองสีทองรอยอยู่รอบๆ ตัว มีเกล็ดน้ำแข็งและหลุมดำลอยอยู่กลางอาการ นางคิดว่านี้อาจจะเป็นธาตุของนางเพราะวันนี้นางก็ครบ4หนาวพอดี นางตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก นางลองทำสมาธิเหมือนที่ท่านพ่อบอกว่าเมื่อกำลังจะมีปราณธาตุให้ทำสมาธิให้เเน่วเเน่ เพราะไม่อย่างนั้นธาตุไฟจะเจ้าเเทรกนางกำหนดลมหายใจเพ่งสมาธิไปที่ตันเถียน ประมาณ 1 ก้านธูป นาวก็รู้สึกเริ่มเย็นสบายจึงค่อยๆ ลืมตา เมื่อลืมตาละอองสีทองที่นางเห็นหายไปหมดแล้ว แต่ที่ข้อมือของนางยังมีละอองสีทองอยู่นางจึงหลับตาทำสมาธิต่อ นางรูสึกว่าข้อมือของนางปล่อยละอองสีทองมาให้นางดูดซับเรื่อยๆ เเต่นางก็นึกถึงคำพูดของท่านพ่อที่บอกว่าบริเวณหมู่บ้านของเรามีปราณบางเบาทำให้การฝึกฝนล่าช้าเเละเลื่อนระดับช้าแต่ดูตอนนี้สิร่างกายนางค่อยๆ ดึงปราณเข้าไปสู่ตันเถียนเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่าผ่านไปกี่ชั่วยามแต่นางได้ยินเสียงไก่ขัน นางไม่คิดว่าตนเองจะนั่งได้นานขนาดนี้เเต่นางไม่รู้สึกเหนื่อยเลยกลับทำให้นางสดชื่น นางคิดว่าจะทำสมาธิอีกสักหน่อยเพื่อปรับสมดุลร่างกายขณะนางนั่งอยู่นางได้ยินเสียง ปัง! ในสมองของนางครั้งหนึ่ง นางไม่อยากเชื่อเลยว่านางจะสามารถเลื่อนระดับได้เร็วขนาดนี้เมื่อมองไปที่ข้อมือกลับเห็นละอองสีทองค่อยๆ เลือนหายไปจากบริเวณรอบตัวนาง
หรือว่าโบว์ที่นางมัดไว้ที่ข้อมือจะมีปราณนางคิดว่าต้องเป็นอย่างนั้นเเน่นอน
"เลี่ยงหลิ่งเจ้าตื่นรึยังลูก"
"ข้าตื่นเเล้วเจ้าคะท่านแม่ ท่านเเม่ท่านดูนี้สิข้ามีปราณแล้ว"
"ท่านพี่ ท่านพี่! มาดูเลี่ยงหลิ่งมีปราณแล้วนางก็ได้เลื่อนระดับเเล้ว"
"ไหน ไหน! เลี่ยงหลิ่งเจ้าทำอย่างไรถึงเลื่อนระดับได้เร็ว"
"ข้าก็ไม่รู้เจ้าคะ ท่านพ่อ ข้าทำตามวิธีที่ท่านบอก"
"อัจฉริยะลูกชั่งอัจฉริยะจริงๆ เลี่ยงหลิ่ง"
"น้องเล็กเจ้าได้ธาตุอะไรรึ"ตอนท่านพ่อตกใจพี่ใหญ่พี่รองก็เข้ามา
"ข้าก็ไม่รู้เจ้าคะเห็นเป็นเกล็ดน้ำแข็งและหลุดดำ"
"เจ้ามีถึง2ธาตุรึ"
"พ่อรู้แต่ว่าเจ้ามีธาตุน้ำแข็งแต่อีกอันพ่อไม่รู้"
"ท่านพี่ข้าว่าเลี่ยงหลิ่งอาจมีธาตุมืดหรือไมก็มิติเจ้าค่ะ"
"แต่ข้าไม่เคยเจอคนที่มี2ธาตุนี้ไม่อาจรู้ได้"
"งั้นข้าจะลองไปถามผู้เฒ่าในหมู่บ้านดู"
"อย่าเลี่ยงหลินถ้ามีคนรู้ว่าลูกของเรามี2ธาตุนางต้องเป็นอันตรายเเน่นอน"
"เกือบไปแล้วเจ้าคะท่านพี่"
"เลี่ยงหลิ่งเราจะต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับอย่าได้บอกผู้ใด"
"พวกเจ้าด้วยนะ"
"ขอรับ เจ้าค่ะ ท่านพ่อ"
"ถ้ามีคนถามว่าน้องเจ้าธาตุอะไรเจ้า ก็ตอบไปว่า ธาตุน้ำ เข้าใจหรือไหม"
"เข้าใจ ขอรับ"พี่ใหญ่พี่รองตอบพร้อมกัน
"เลี่ยงหลิ่งเจ้าก็ต้องห้ามบอกใครนอกจากเจ้าจะไว้ใจจริงๆ เพราะธาตุที่เจ้ามีเป็นธาตุพิเศษ"
"เจ้าค่ะท่านพ่อข้าจะไม่บอกใคร"นางก็คิดไว้แล้วว่าจะไม่บอกใครเพราะมันอาจจะเป็นอันตรายต่อครอบครัวของนาง
"งั้นพวกเจ้ารีบแยกย้ายกันไปแต่งตัวเถิด จะได้มากินข้าวเช้ากัน"
"เจ้าค่ะ ขอรับ ท่านเเม่"
ตอนนี้นางกำลังนั่งเล่น นางคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่นางจะทำให้ครอบครัวนางรวย เพราะในอนาคตชีวิตของครอบครัวนางจะไม่ปลอดภัยต้องหาทางป้องกัน
อย่างแรกที่นางคิดไว้คือการปลูกผักนางได้ไปสังเกตที่ไร่ของนางเเล้วไร่ของนางนั้นดินไม่ดีนางถึงคิดหาวิธีทำให้ดินดีขึ้นแต่ก็ยังคิดไม่ออก
