บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

เสียงหัวร่อต่อกระซิกดังออกมาจากเรือนของท่านแม่ทัพเลื่องชื่อ วาจาออดอ้อนของหญิงคณิกาอันดับต้น ๆ จากหอโคมเขียวจำนวนมากถึงสิบนาง ล่อลวงให้คนฟังลุ่มหลงจนยากจะปฏิเสธ ส่วนเสียงหัวเราะของบุรุษ กลับมิได้ดังออกมาจากปากของตัวเจ้าของจวนเอง ทว่าคือองค์ชายรัชทายาทจากวังหลวง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา องค์ไท่จื่อพยายามที่จะชักชวนให้สหายกลับมามีชีวิตชีวาดังเดิม ด้วยหลังเสร็จสิ้นศึกสงครามในคราวนั้นแล้ว หยางเหวินเย่ก็คล้ายจะทำรอยยิ้มที่หาได้ยากยิ่งหายไปด้วย

แม่ทัพหนุ่มรูปงามปล่อยให้หญิงสาวบีบนวดระหว่างร่ำสุรายามบ่ายกับสหายสูงศักดิ์ สีหน้าของหยางเหวินเย่มิได้ยินดียินร้าย หากหญิงงามนางใดจูบมา เขาก็โต้ตอบอย่างอ้อยอิ่งเกียจคร้าน หากนางใดเบียดตัวเข้าใกล้ ก็จะบีบตรงนั้นจับตรงนี้ไปตามเรื่อง หรือถ้าเกิดความต้องการมากเข้า เขาก็จะลากพวกนางเข้าห้องไปด้วยกัน จะสองหรือสามนาง ก็แล้วแต่อารมณ์ปรารถนา

ทว่าความรู้สึกในวันนี้กลับต่างออกไป

“ข้าเห็นชายหนุ่มสองคนยืนกระวนกระวายอยู่ที่หน้าจวน จะมิเชื้อเชิญเข้ามาสักหน่อยหรือ”

องค์ไท่จื่อเยว่หยาง สอบถามสหายหน้าตาย ขณะมือเรียวรินสุราไผ่เขียวชั้นดีที่นำออกจากวังหลวงมาด้วย ทุก ๆ สิบวัน เขาจะแวะมาเยี่ยมเยียนหยางเหวินเย่ แม้ปกปิดสถานะของตนดีแล้ว ทว่าก็ยังมิรอดพ้นจากความรอบรู้ของเหล่าหญิงงาม เพราะแค่รูปร่างและลักษณะที่มองปราดเดียวก็รู้แจ้งชัดแล้วว่า คุณชายท่านนี้มิใช่แค่ขุนนางธรรมดา

เหล่านางคณิกาที่มาใหม่มักจะออดอ้อนเอาใจองค์ชายรัชทายาท ส่วนหญิงงามที่รู้งานดีอยู่แล้วมักจะออดอ้อนท่านแม่ทัพ เพราะหากหญิงใดทำให้หยางเหวินเย่พึงพอใจได้ สหายสูงศักดิ์ก็จะตกรางวัลให้อย่างงาม

“อากาศร้อน ไม่อยากเสวนากับใคร” หยางเหวินเย่ผลักนางที่เบียดเขาจนน่ารำคาญออก

“อยู่ข้างในยังร้อน พวกมันอยู่ด้านนอก จะมิลำบากแย่หรือ” องค์ชายร้องถามน้ำเสียงครึกครื้น ด้วยร้อยวันพันปี สหายผู้นี้ไม่เคยมีแขกจากต่างเมือง ยิ่งทั้งสองคือคุณชายรูปงาม ท่าทางมีฐานะ ก็ยิ่งอยากจะทราบว่ามีธุระอันใดแน่

หยางเหวินเย่มีหรือจะกล้าขัดใจองค์ชายรัชทายาท เขาพยักหน้าออกคำสั่งให้บ่าวไปนำตัวคุณชายทั้งสองเข้ามาสอบถามเอาความว่าต้องการสิ่งใด

“มีธุระอันใดกับข้า”

เจ้าของจวนกล่าวถามอย่างที่องค์ชายอยากจะให้ถาม

คุณชายทั้งสองเกี่ยงกันมิยอมเอ่ย คำพูดที่เตรียมมาเสียดิบดี กลับมิกล้ากล่าวต่อหน้าท่านแม่ทัพมากความสามารถ หลังจากมองหน้ากันอยู่พักหนึ่ง ผู้ที่คล้ายจะสูงวัยกว่าสักหนึ่งหรือสองปีก็ยอมเอ่ยปาก

“ท่านแม่ทัพหยาง ข้าและน้องชายเดินทางมาจากเมืองเทียนโจวด้วยความยากลำบาก และมีเรื่องสำคัญประการหนึ่งอยากจะร้องขอต่อท่าน”

“มีเรื่องอันใดก็รีบเอ่ยมา อย่าชักช้าให้มากความ!”

องค์ไท่จื่อเยว่หยางอดใจมิไหว ตวาดสองพี่น้องที่ดูแล้วอย่างไรก็อายุไม่น่าจะเกินยี่สิบสองปี

“คุณชายอย่าเพิ่งมีโทสะ พี่ชายของข้ากำลังจะเอ่ยขอเดี๋ยวนี้แล้ว” คุณชายผู้น้องกระตุกแขนเสื้อพี่ชายเต็มแรง

“เรื่องที่พวกข้าอยากจะขอ นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างมาก ทว่าหัวใจรักยากนักที่จะห้ามปรามมิให้รู้สึก จึงจำต้องเอ่ยถ้อยความที่ไม่เหมาะสม หากคำของข้าทำให้ท่านแม่ทัพหยางขุ่นเคืองใจไปบ้าง...”

“จะเข้าเรื่องได้หรือยัง” หยางเหวินเย่วางจอกสุรา หันมาเผชิญหน้ากับผู้มาเยือน ดวงตาของเขาว่างเปล่าคล้ายกับคนไร้หัวใจ

“พวกข้าอยากให้ท่านหย่าภรรยาเสีย!”

บรรยากาศในจวนของท่านแม่ทัพหยางเหวินเย่เงียบสนิท แม้แต่เสียงใบไม้ไหววูบหนึ่งก็ไม่ปรากฏรบกวน คิ้วสวยได้รูปยกสูงแสดงความประหลาดใจ ทั้งยังมิแน่ใจว่าได้ยินคำขอของสองคุณชายถูกต้องดีแล้วหรือไม่

“ท่านแม่ทัพมีภรรยาแล้วหรือเจ้าคะ” สาวงามจากหอคณิกาอดถามมิได้ นางทำหน้าที่ปรนนิบัติเขาได้เกือบจะสองปีแล้ว ทว่าก็มิเคยได้ยินมาก่อนว่าท่านแม่ทัพเลื่องชื่อมีภรรยา

“บังอาจ กล้าขอให้ท่านแม่ทัพหย่าภรรยา พวกเจ้าสติดีอยู่หรือนี่!” องค์ชายตวาดเสียงดัง เหล่าสาวงามที่ทราบถึงฐานันดรศักดิ์ของบุคคลสำคัญต่างพากันถอยหนี ด้วยมิอยากอยู่เป็นประจักษ์พยานโทสะของผู้มีอำนาจ

ทว่าสองพี่น้องมิได้ทราบถึงสถานะของคุณชายรูปงาม จึงตวาดกลับเสียงดังก้อง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel