บทนำ... 2/3
แต่ผลการเรียนของหล่อนกลับดิ่งลงเหว ลุ่มๆ ดอนๆ จะตกไม่ตกแหล่ จนกระทั่งพิไลต้องตัดใจ หันมาส่งเสริมพิไลลักษณ์เรื่องอื่น แม้จะขัดใจแต่ทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ เมื่อมันสมองของคนพระเจ้าให้มาไม่เท่ากัน
ความอลหม่าน เกิดขึ้นภายในครอบครัวนี้มานานเกือบ20 ปี...
มันคงอยู่เช่นนี้ไปอีกนาน หากความริษยายังคงอยู่ในหัวใจ ไม่มีครอบครัวไหนหรอกที่จะสงบสุข หากในรั้วบ้านเดียวกัน มีภรรยาน้อย และภรรยาหลวงอาศัยอยู่ด้วยกัน แม้ฝ่ายมาทีหลังจะอ่อนน้อมถ่อมตัว
“คุณพี่!!”
ทะนงสะดุ้งเฮือก เขาขยับตัวนั่งตรงๆ ปรือเปลือกตาขึ้นมองคนที่ยืนจังก้าตรงหน้า
“คุณพิเอง...เสียงดังทำไมหะ แก้วหูจะแตกแล้วเห็นมั้ย” ท่านบ่น ยกมือขยี้เปลือกตา พร้อมกับเหลียวมองหารัชนี “แม่นีไปเอาน้ำถึงไหนนะ ฉันหิวจะแย่”
“หึ!! พอเหยียบเข้ามาในรั้วบ้าน คุณพี่ก็เรียกหาแม่นั่นแล้วเหรอคะ...ดีจริง!!”
เสียงนางกระแทกกระทั้นจนคนฟังระอา สาวใหญ่ยังไม่หมดไฟริษยา เมื่อรู้เต็มอกว่าความรักของสามี ถูกปันให้หญิงอื่น...
“แก่จนปูนนี้แล้ว ยังจะหึงไม่รู้เรื่องอีกรึ? ฉันแค่หิวน้ำ แล้วแม่นีเขาอาสาพอดี”
ทะนงบ่น น้ำเสียงเช่นนี้เขาฟังมานานจนชิน พิไลกลายเป็นคนช่างคิดช่างแค้น หลังจากเขาพารัชนีที่กำลังท้องโย้เขามาอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันเมื่อ20กว่าปีก่อน
“อีนังนั่นก็เหมือนกัน สาระแนดีนัก...”
นางก่นว่าผู้หญิงอีกคนของสามี ความเกลียดชังในหัวใจไม่เคยลดทอนลง มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นตามวันเวลา เมื่อสองแม่ลูกนั่น คือหอกข้างแคร่ของนางที่มองเห็นเต็มตา แต่กลับทำได้แค่...กระแหนะกระแหน
“จะโวยวายทำไมหึคุณพิ!! เราไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ คนรองมือรองเท้าให้คุณพิก็มีแต่แม่นีแค่คนเดียว ทำดีกับเขาบ้าง...คงไม่เสียหลายหรอกมั้ง”
มันเหมือนฟาดแส้ลงบนผิวเปลือยเพราะคำย้ำชัดของสามี พิไลตวัดสายตามองสามีแบบอยากจะกินเลือดกินเนื้อ ไม่ใช่เพราะเขาหรอกเหรอ ชีวิตบั้นปลายของนางจึงได้น่าทุเรศแบบนี้ จากคนมีหน้ามีตามีเงินทองจับจ่ายไม่ขาดมือ กลับต้องหลบๆ ซ่อนๆ เพราะหนี้สินล้นพ้นตัว
“มันสมควรทำแล้วนี่คะ ก็เพราะมันอยากทำตัวเป็นแบบนั้นเอง...” นางตอบเสียงขุ่นคลัก สะบัดค้อนให้สามีวัยชราซ้ำ “แล้วนี่หายหัวไปไหนมาอีกคะ หรือว่า...” นางรีบถามเสียงหลง หวังลึกๆ ในใจว่าสามีจะไม่ออกไปสร้างหนี้เพิ่ม
“โธ่! ฉันจะไปไหนได้ล่ะคุณพิ นอกจาก...” ทะนงตอบเสียงสลด เขาไม่มีที่ไป จะไปวัดเหมือนเพื่อนรุ่นเดียวกัน ใจมันก็ร้อนรุ่มเกินจะทนนั่งสนทนาธรรมกับคนอื่นได้ เมื่อหลงใหลอบายมุขเข้าเสียแล้ว ทะนงรู้สึกว่าตัวเองมีค่า เมื่อยังมีคนให้ความสนใจนับถือ แค่เดินผ่านประตูเข้าไป...ก็มีแต่คนยกมือไหว้
“ได้...หรือเสียล่ะคะวันนี้?” นางถามกลับเสียงสั่นลุ้นระทึกขอให้สามีไม่ผลาญสตางค์อีก สมบัติเก่าที่สะสมไว้ถูกเทขายจนหมด เวลานี้ที่มีไว้ประดับตัวก็แค่ของปลอม...เงินรายได้ที่พอจะมีซื้อข้าวซื้อน้ำภายในครัวเรือน ก็มาจากน้ำพักน้ำแรงของวันวาด เพราะหากหวังพึ่งพาพิไลลักษณ์คงได้แทะก้อนเกลือกิน เมื่อหลานสาวแท้ๆ ของนาง ใช้จ่ายแบบคนจมไม่ลง ทำตัวอวดรวยเหมือนเดิม จนเงินเดือนแทบไม่พอยาไส้
“ถ้าฉันได้...ฉันจะกลับมาตัวเปล่าเรอะ!!”
ชายสูงวัยตอบเสียงกระแทกกระทั้น เสียครั้งนี้ไม่ได้เสียแค่เงินที่หยิบยืมคนรู้จักไปเป็นทุน ยังเป็นหนี้ก้อนใหญ่กับเจ้าของบ่อนด้วยเสียอีก เขากำลังกลุ้มใจ!! เมื่อคิดจนศีรษะจะแตกยังหาวิธีหาเงินก้อนใหญ่ไม่ได้ และเมื่อเหลียวมองในบ้านก็ไม่รู้จะหาอะไรในบ้านไปขายอีก สมบัติมากมีมลายหายไปก่อนหน้านั้นแล้ว...แต่เพื่อหาเงินก้อนนั้น เอาไปคืนเจ้าหนี้รายใหม่ ที่ใครๆ ก็เล่าขาน ผู้ชายคนนั้น เหี้ยมเกรียมกว่าพญามัจจุราช
“แสดงว่าเสีย...หึ!! คราวนี้คงได้เฉือนเนื้อเอาไปขาย เพราะต้องวิ่งวุ่นหาเงินใช้หนี้อีกนาน”
นางประชด ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวใกล้ๆ พร้อมกับถอนใจเฮือกใหญ่ๆ
“คุณพี่เมื่อไรจะหยุดคะ เราไม่มีอะไรเหลือแล้วนะคะ แม้แต่บ้าน”