บท
ตั้งค่า

บทที่ 10

ณ ห้องเก็บอุปกรณ์กีฬาวิศวะ

แค่ก แค่ก แค่ก

"พวกวิศวะไม่เคยเข้ามาทำความสะอาดเลยเหรอวะ อ้อ เพิ่งเปิดเทอม มิน่าล่ะ ถึงใช้เราอย่างกับทาส พูดแล้วก็โมโห" ฉันได้แต่บ่นกับตัวเองแต่ทำอะไรไม่ได้ ยังไงซะฉันก็ต้องรีบทำ เพื่อที่จะได้รีบกลับ อย่างน้อยฉันก็ต้องมาใช้อุปกรณ์และโดมที่นี่ในการฝึกซ้อมวอลเล่ย์ เอาวะ คิดว่าทำให้ตัวเองละกัน หลังจากนั้นฉันก็หยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดและลงมืออย่างรวดเร็ว ผ่านไปสองชั่วโมง

17:00

"อ่า ห้าโมงแล้วสิ เสร็จสักที เฮ้อ เหนื่อยโว้ย" ฉันรีบเก็บอุปกรณ์และปิดห้องเก็บอุปกรณ์เพื่อที่จะกลับคอนโด

ร้านป้าแดง

"ป้าแดงคะ วันนี้หนูขอข้าวผัดกะเพราหมูนะคะ เอ่อ ไม่ต้องเผ็ดมากนะคะ วันนี้ทั้งวันหนูกินแค่แซนด์วิชเอง เดี๋ยวปวดท้อง หนูไม่อยากฟังเพื่อนสามนางบ่น"

ใช่แล้วค่ะทุกคน ฉันอยู่ที่ใต้คอนโดแล้ว ร้านข้าวป้าแดงที่ฉันชอบมาฝากท้องแทบทุกวันตอนเย็น ขอบอกว่าอร่อยมาก แซ่บเว่อร์ รสมือถูกใจฉันสุด ๆ อ้อ ส่วนนายนั่นอะเหรอ ฉันไม่เห็นหัวตั้งแต่สั่งงานฉันเสร็จเเล้วล่ะ ช่างเถอะ ฉันไม่สนใจหรอก และนับจากวันนี้นะ ฉันจะไม่คุยกับหมอนั่นด้วย คอยดูสิ ถามคำฉันก็จะตอบคำ จะไม่อะไรทั้งสิ้น โกรธ โมโห และน้อยใจ หือ ว่าแต่ เอ๊ะ ทำไมฉันต้องน้อยใจด้วยล่ะ ขึ้นไปอาบน้ำแล้วไปดูคุณพี่หมื่นดีกว่า

ติ๊ง หน่อง

ยัยสามตัวมากดออดเรียกแน่เลย

"มาแล้ว ๆ" ฉันรีบไปเปิดประตูให้พวกมัน ก่อนจะมาเปิดทีวีดูซีรีส์เกาหลี ซิตี้ฮันเตอร์ ที่ลีมินโฮโอปาเล่นอะ เคยดูปะ ฉันดูวนมาสามรอบแล้ว เรื่องนี้ดีมากพูดเลย

"ไหน ยังไงเล่าซิ ทำไมมาช้า" ยัยหวานเปิด

"เฮ้อ แก ก็ไอ้พี่ว้ากหน้าหล่อแต่ใจโหดอะดิ มันสั่งให้ฉันทำความสะอาดห้องเก็บอุปกรณ์กีฬา นี่พูดแบบนี้ ทำให้เสร็จ ถ้าไม่เสร็จก็ไม่ต้องกลับ ชิ หล่อตายอะ" ฉันพูด พร้อมกับเบ้ปากใส่ จนพวกมันขำ

"หึหึ แต่ก็สเปกแกไม่ใช่เหรอ" ฉันหันไปมองยัยทิพย์ทันที

"ไม่รู้ไม่สน ฉันเกลียดขี้หน้าเขา คนอะไรเอาแต่ใจตัวเอง" ฉันพูดพร้อมทำหน้าโกรธ ซึ่งพวกมันก็มองฉันยิ้ม ๆ

"เกลียดอะไรได้อย่างนั้นนะจ๊ะ" ยัยพิ้งค์พูด

"ชิ ไม่มีทางซะหรอก จากวันนี้ไปฉันจะไม่คุยกับเขาแล้ว ถามคำก็จะตอบคำ หนอย ด่าฉันได้ด่าฉันดี จากนี้นะฉันจะไม่พูดด้วยพวกแกคอยดูเลย"

"จ้าาาา" แล้วพวกมันก็ประสานเสียงล้อ ๆ ก็จริงที่พี่มันตรงสเปกฉัน แตถ้าจะดุและโหดใส่ฉันขนาดนี้ ขอบายดีกว่า ต้องอย่างคุณพี่หมื่น อ๊าย เขิน

"เล่าเรื่องนี้ดีกว่า ไหนแกบอกพวกฉันว่า จะไม่ลงแข่งไง หัวเด็ดตีนขาดก็จะไม่ลง ขนาดพวกฉันอ้อนวอนแกจะตาย แกยังไม่ลงเลย แล้วใครมันไปกระตุกต่อมทำให้แกลงได้วะ บอกมาสิ" ยัยทิพย์พูดพร้อมจ้องหน้าฉันอย่างรอคำตอบ

"คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้"

story

"นี่ยัยมนต์แกจะไม่ลงจริงเหรอ"

"ไม่อะพิ้งค์ ขี้เกียจว่ะ ไม่อยากเป็นจุดสนใจ"

"เฮ้ย แต่แกชอบเพลงเป็นชีวิตจิตใจเลยไม่ใช่เหรอ แกจะพลาดเหรอวะ" น้ำหวานเพื่อนอีกคนของหญิงสาวพูดขึ้น

"นั่นสิ แกจะยอมให้พวกฉันไปเผชิญชะตากรรมอยู่สามคนจริง ๆ เหรอยัยมนต์" เมื่อหญิงสาวไม่ตอบ น้ำทิพย์เพื่อนอีกคนก็ได้แต่เสริมขึ้นมาอย่างน่าสงสาร เธอมองหน้าเพื่อนอย่างระอา แต่ไม่ได้ตอบอะไรออกไป

"พลีสสสสส" น้ำพิ้งค์ น้ำหวาน น้ำทิพย์ พูดขึ้นมาพร้อมกันและมองหน้าหญิงสาวอย่างขอร้อง แต่คำตอบที่ได้ก็คือไม่

"พวกแกไปห้องประชุมที่เจ๊นัดไว้ก่อนเลยนะ เดี๋ยวฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อน อ้อเกริ่นเรื่องของฉันกับพวกเจ๊ ๆ ไว้ด้วย ฉันขึ้นไปจะได้ไม่ตกใจ เข้าใจนะ ฉันไปละ" หลังจากที่หญิงสาวพูดกับเพื่อนก็แยกตัวมาเข้าห้องน้ำ

ในระหว่างที่เธอทำธุระส่วนตัวเสร็จพอดีกำลังจะเปิดประตูออกไป มือที่กำลังจะบิดกลอนประตูก็เป็นอันชะงัก เพราะเสียงคนคุยกันสองคนอยู่ข้างนอก

"โอ๊ย นี่แก ฉันละโคตรมีความสุขที่เป็นตัวแทนลงแรป ฉันอะจะขยี้วิศวะกับบริหารให้ไปไม่เป็นเลยคอยดูสิ"

"แหม ยัยพรรณแกก็พูดไป เดี๋ยวใครได้ยินเข้าความลับแตกกันพอดี"

"ฮ่าฮ่า ไม่หรอกยัยแก้ว มีฉันกับแกเข้าห้องน้ำมาสองคน ไม่มีใคร เพราะฉะนั้นปลอดภัย" หญิงสาวนามว่าพรรณพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะอย่างมีความสุข โดยไม่รู้เลยว่ามีหญิงสาวอีกหนึ่งคนอยู่ในห้อง

"รุ่นพี่เราก็แปลกเนอะ กฎเข้าข้างคณะเราสองคณะเห็น ๆ แต่กลับบอกพวกเราไม่ให้ประมาท สำหรับการร้องฉันว่ายังไงเราก็ชนะเห็น ๆ ก็เราเอกดนตรี พูดถึงการแสดงน่ะเหรอ นิเทศก็เอาชนะไปเต็ม ๆ แล้วอย่างนี้

วิศวะที่ครองตำแหน่งดาวเดือนมหาลัยมาเกือบทุกปี สลับกับบริหารผลัดกันชนะ จะเอาอะไรมาสู้วะ เพลงเปิดตัวเราก็แต่งเอง เพลงอังกฤษด้วย เก๋ ๆ ยังไงปีนี้วิศวะกับบริหารไม่มีใครสู้เราได้แน่นอน ส่วนคณะอื่นก็แค่ตัวประกอบที่ทำให้เกมดูน่าสนใจขึ้นเท่านั้นแหละ"

"ฮ่าฮ่า มันก็จริงของแกยัยพรรณ วิศวะก็คงจะซ้อมไปวัน ๆ บริหารก็คงเป็นเต่าล้านปี ไม่มีอะไรสู้พวกเราได้เลย ยังไงปีนี้ตำแหน่งร้องเต้นแรป ต้องเป็นของเรา" หญิงสาวชื่อว่าแก้วพูดขึ้นมาก่อนจะพากันเดินออกไป

"อยากเอาชนะจนต้องดูถูกคณะอื่นเลยเหรอ ว่าจะไม่ลงละเชียว พวกเธอปลุกสัญชาตญาณของฉันขึ้นมาเองนะ หึ คำพูดของพวกเธอเมื่อกี้ ฉันถือว่าเป็นการเปิดการแข่งก็แล้วกัน" หญิงสาวออกมาจากห้องน้ำด้านใน และมองตามสองสาวที่เดินออกไป

"คนอย่างฉัน ฆ่าได้หยามไม่ได้ ดูถูกคณะก็เหมือนดูถูกฉัน แล้วเรามาดูกัน ว่าใครจะชนะ หึ" พูดจบเธอก็เดินออกจากห้องน้ำทันทีด้วยรอยยิ้มเคลือบยาพิษ

end story

"เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละแก"

"มิน่าละแกถึงยอมลง" น้ำทิพย์

"พวกนั้นคงคิดไม่ถึงแน่ถ้ารู้ว่าแกคือบุคคลที่สองค่ายยักษ์ใหญ่เกาหลีต้องการนำไปปั้น" น้ำหวาน

"แต่ก็ต้องขอบคุณพวกนั้นที่ทำให้แกยอมลง" น้ำพิ้งค์ เมื่อฉันเล่าทุกอย่างให้มันฟังมันก็ถึงกับขำ จริง ๆ ฉันไม่ได้เก่งขนาดนั้นนะ แต่ฉันมันพวกหัวไว และอาจจะรู้จักไอดอลคนดังด้วยมั้ง เขาเลยต้องการตัว

"ถ่ายรูปกัน" ก่อนที่พวกฉันจะแยกย้ายกลับห้องฉันก็ชวนพวกมันถ่ายรูป ก่อนจะโพสต์ลงไอจี

IG : nammont24.อย่ามาแหยม ??

like 500 comment 200

st. พี่น้ำมนต์น่ารักจังเลยค่ะ

aj. กรี๊ดดดดด พี่น้ำมนต์

bb. น่ารักจังเลยครับ

rb. งือออ อยากได้น้ำมนต์เป็นแฟนจังครับ

po. คนอะไร สวย เท่ ครบ ใครได้ไปเป็นแฟนนะ โคตรโชคดี

bb. เป็นไรยัยหน้ากลม??@nammon24

jk. นั่นสิ เป็นไรยัยหน้าซาลาเปา??@nammon24

หลังจากที่โพสต์ไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง คอมเมนต์กับไลก์ก็กระจาย อ้อ ฉันลืมบอกฉันก็เป็นคนดังคนหนึ่งในโลกโซเชียลเลยนะขอบอก เห็นอย่างงี้มีคนติดตามในไอจีเป็นพัน ๆ เลยนะคะ

แต่เดี๋ยวไอ้คอมเมนต์คนอื่นไม่เท่าไหร่หรอก แต่คอมเมนต์ยัยหน้ากลมกับยัยหน้าซาลาเปานี่สิ ฮึ่ม อย่าให้เจอคนเมนต์ อ้อ ฉันลืมบอก อีกอย่างผู้หญิงกรี๊ดกร๊าดฉันค่อนข้างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า ฉันเท่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า มันก็ตลกไปอีกแบบนะ ถามว่าคนเกลียดมีไหม ตอบเลยมันก็มี แต่ก็ไม่รู้ไม่สนใจไง ฉันว่าฉันไปลองแต่งเพลงก่อนดีกว่า มีอะไรจะได้แก้ไขทัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel