บท
ตั้งค่า

บรรยากาศแสนดี 1

แสงแดดสาดส่องทะลุก้อนเมฆตกกระทบผิวน้ำสีใสตลอดแนว

ตรงริมลำธารชายป่าถัดออกมาจากหมู่บ้านร้างที่ไม่ต่างจากสุสาน มีสตรีงดงามเปี่ยมเสน่ห์เย้ายวนและเร้าใจนางหนึ่งในอาภรณ์สีเขียวมรกตกำลังนั่งตกปลาอยู่ริมตลิ่ง นางนั่งนิ่งจ้องมองในน้ำนึกแปลกใจเสียจริง ว่าเหตุใดปลาจึงไม่กินเหยื่อ เมื่อชะเง้อคอมองลงไปในลำธาร จึงได้เห็นศพเน่าเปื่อยขึ้นอืดลอยคอมา

“อา...อย่างนี้นี่เอง เฮ้อ!”

โหยวฟางหลัน ย่นจมูกก่อนถอนหายใจคำโตแล้วโยนเบ็ดทิ้งลงบึงไป ในใจนึกก่นด่า

เจ้าศพบ้า! ไยไม่ลอยที่อื่น…

หญิงสาวถอนหายใจอีกทีอย่างเบื่อหน่ายเป็นที่สุด เดิมทีนางเป็นถึงเจ้าสำนักหมื่นดารา อันได้ชื่อว่าเป็นสำนักของสตรีมากเล่ห์ฉายามารจิ้งจอกพันปี หากกล่าวขานถึงสตรีที่ชั่วร้ายที่สุด คงไม่พ้นตัวนางนี่ล่ะ

เฮ่อ! แต่ใครจะไปคาดคิด ว่าสำนักของนางจักล่มสลายเพราะบุรุษ บัดซบที่สุด!

ฟางหลัน มีศัตรูตัวฉกาจอยู่ผู้หนึ่งนามว่าอู๋เมิ่ง เขาคือเจ้าแห่งสำนักไผ่เขียว เป็นชายเหนือชาย สะสมสมุนมากมายที่ล้วนแล้วแต่เป็นชายวัยฉกรรจ์

ในวันหนึ่งนั้น ชายงามนามว่าหย่งหนานที่เป็นถึงองค์ชายแคว้นต๋าเจี๋ย เกิดหลงใหลในตัวฟางหลันเป็นอย่างมาก ด้วยเห็นเสน่ห์อันเลิศล้ำของนางที่ทำอย่างไรก็ไม่อาจปกปิดได้ ความงามของนางทะลุทะลวงเหลือเกิน เรียกได้ว่าทำให้หย่งหนานรักปักใจในตัวนางจนไม่อาจถอนตัว เขาละทิ้งฐานันดรมาตามตื้อนางทุกทาง ตัวนางนั้นแม้มิได้ตอบรับ แต่ก็มิได้ปฏิเสธไปให้เสียของ ด้วยมารยาอันแสนจะร้ายกาจของนาง ทำให้บุรุษสยบแทบเท้ามานักต่อนัก เรื่องนี้จึงนับว่าไม่แปลกใหม่อันใด

หากแต่สิ่งไม่คาดฝันพลันบังเกิด เมื่ออู๋เมิ่งเกิดพึงใจในตัวบุรุษด้วยกัน กระทั่งเข้ามาแย่งชิงหย่งหนานกับนาง

หึ! เจ้าบ้านั่นไม่ถามสักคำ ว่าหย่งหนานชอบบุรุษด้วยกันหรือไม่?

เจ้าอู๋เมิ่งผู้นี้ดื้อรั้นมิคิดยอมกันเลยสักนิด เขาคิดแต่จะช่วงชิงหย่งหนานอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่หย่งหนานเอาแต่ไม่ยินยอมและขอร้องให้นางช่วยเหลือ นางจึงต้องกลายร่างเป็นสาวงามผู้กล้าหาญ ปกป้องชายงามผู้เป็นสหาย

สุดท้ายเรื่องหนึ่งหญิงแต่สองชาย ที่ฝ่ายบุรุษถูกแย่งชิงอย่างน่าอาย พลันบานปลายจนเกิดสงคราม

นางเป็นสตรีเจ้าเล่ห์ชั่วร้าย ไหนเลยจักสู้อย่างเป็นธรรมได้ แน่นอนว่าแผนสกปรกย่อมต้องมี นางจึงสมคบกับเหล่าทหารทรราชของแคว้นต๋าเจี๋ย พาพวกสมุนในสำนักกับทหารเหล่านั้นบุกถล่มล้างผลาญสำนักหอไผ่เขียวเสียราบคาบ หากแต่ยามที่นางประมือกับอู๋เมิ่ง นางกลับด้อยกว่าเขามากนัก นางจึงบาดเจ็บสาหัสหนีตายเกือบไม่ทัน

เรื่องของสองสำนักที่มีปัญหากันนั้น พลันเข้าหูท่านประมุขหงซือกวน ผู้อยู่เหนือสำนักทั้งมวล เขาจึงลงมาจัดการยุติปัญหาด้วยตนเอง

วิธีของท่านประมุขผู้ยิ่งใหญ่ไหนเลยจะสามัญ ท่านจึงสั่งการยุบสองสำนักที่มีปัญหากันจนสงบเงียบกริบ โดยการกวาดล้างเสียสะอาดเหี้ยนเตียน ทั้งสำนักหมื่นดาราและสำนักไผ่เขียว ใครรั้นไม่สวามิภักดิ์จึงกลายสภาพเป็นซากศพอยู่ใต้ฝ่าเท้าของท่านประมุขนั่นประไร

ฟางหลันคิดไปคิดมาพร้อมสายตาเรียวสวยมากเสน่ห์เหม่อมองไปทางศพเน่าเฟะที่ลอยอืดอยู่ในลำธาร นางยังจำภาพของท่านประมุขหงซือกวนในวันนั้นได้เป็นอย่างดี ยามที่นางหลบหนีเข้าห้องลับใต้ดินของสำนักเพราะอาการบาดเจ็บยังไม่สมาน แล้วแอบมองผ่านจากรูเล็กๆ ที่มีโลหิตคล้ายสายธาราหลั่งไหลลอดช่องเข้ามา

ภาพของประมุขแห่งสำนักหมื่นโลกันต์ มิต่างอันใดกับพญามัจจุราชจากขุมนรกอเวจีเลยสักนิด ความหล่อเหลาของท่านหงซือกวน มิได้ลดทอนความโหดเหี้ยมในแววตาเลยสักเสี้ยวเดียว

ยามที่ท่านประมุขยืนเหยียบหัวกะโหลกที่กองสูงราวกับภูเขาขนาดย่อมท่ามกลางเปลวเพลิงสีแดงฉานที่โหมกระพือราวไฟบรรลัยกัลป์นั้น ช่างน่าสะพรึงนัก เสียงร้องโหยหวนจากทัณฑ์ทรมานก็น่าหวาดหวั่นเสียเหลือเกิน

ถึงแม้ว่าท่านหงซือกวนจะคงไว้ซึ่งท่าทางสุขุมสงบเยือกเย็นตลอดเวลา หากแต่การสังหารโหดของท่านช่างไร้ปรานีนัก เลือดเย็นเป็นที่สุด

คิดแล้วยังเสียวสันหลังไม่หาย อดีตเจ้าสำนักหมื่นดาราเยี่ยงนางต้องขุดรูอยู่เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บเป็นนานจึงได้มีวาสนาได้เห็นจนประจักษ์แจ้ง ความน่าเกรงขามของท่านหงซือกวนทำให้นางได้ตระหนัก คนงามเยี่ยงนางจะไม่มีวันแปรพรรคอย่างแน่นอน

ในยามนี้ อาการบาดเจ็บของนางหายดีแล้ว จึงได้ออกมาจากรูสู่พื้นดินเบื้องบนแล้วสร้างเฉาเลี้ยว[1] เพื่อซุกหัวนอนก็เท่านั้น เมื่อนางได้เห็นสำนักหมื่นดาราย่อยยับกระทั่งหมู่บ้านเร้นลับของนางยังต้องกลายสภาพเป็นหมู่บ้านสุสาน ก็ให้รู้สึกเสียใจนัก

แต่จักโทษใครได้กันเล่า ในเมื่อจุดเริ่มต้นล้วนเป็นเพราะนางทั้งสิ้น

เฮ้อ! ถอนใจอีกที

เกิดมาเป็นคนงามก็ลำบากอย่างนี้แล...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel