บท
ตั้งค่า

ความจริงที่ไม่ควรเปิดเผย

“ข้าเห็นพวกนางแช่น้ำอยู่ งดงามนัก ผิวขาวมาก น่าคร่อมยิ่ง”

“อ่า...ข้านึกกระสันเหลือเกิน”

“ใครเข้าหาพวกนางก่อนย่อมได้จัดแรงๆ ให้ถึงใจชุดใหญ่”

เสียงต่อคำกักขฬะไปมาถูกแทนที่ด้วยเสียงฝีเท้าวิ่งแข่งขันกันมาทางบ่อน้ำร้อน ประหนึ่งหมาป่าผู้หิวโหยกระนั้น

เหม่ยหลินพลันชะงักนิ่ง

ฟางหลันแค่หรี่ตาไร้การรีรอก่อนกระโจนขึ้นเหนือน้ำแล้วหมุนตัวพลิ้วไหวยามดึงเสื้อผ้าที่ตากไว้ที่ริมบ่อมาปกปิดร่างกาย ฝ่ามือเรียวสวยของนางยื่นไปด้านหน้าในพริบตา ผ้าผืนยาวคล้ายเชือกเส้นใหญ่ก็พุ่งเข้ามาดั่งมีชีวิต อึดใจเดียวที่หญิงสาวสะบัดผ้านั้นไป ผ้าเส้นใหญ่พลันทะยานไปคล้ายกับนางพญางูตัวเขื่อง พาเอาเจ้าของรูปประโยคไร้มารยาททั้งสามคนพลันชะงักปลายเท้า ร่างใหญ่กำยำของพวกมันแข็งค้างในบัดดล สายตาบนใบหน้าของชายทั้งสามคนสะท้อนเพียงผืนผ้าที่โฉบเข้ามาปานงูพิษฉกกัด

ชายใจหยาบพวกนี้ไม่พ้นเป็นพรานป่าล่าสัตว์ที่หิวโซไม่เลือกที่ ฟางหลันฆ่ามานักต่อนักจนชาชินเสียแล้ว เสื้อผ้ามากมายที่มี ล้วนเป็นอาวุธประจำกายของนางทั้งสิ้น

หญิงสาวสะบัดฝ่ามืออีกข้างออกไป ผ้าผืนใหญ่พลันพุ่งทะยานไปอีกสาย คล้ายพญางูตัวใหญ่ในอีกครา แต่ทว่าปลายผ้านั้นกลับคล้ายกับปลายหอกแหลมคม พุ่งเข้าปักฉึกที่แผงอกชายคนที่หนึ่งจนเลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นไปทั่ว มันเบิกตาโพลงแทบถลน ปากอ้าค้างร้องไม่ทัน ชายที่เหลือสองคนนั้นได้แต่ยืนนิ่งตะลึงงัน มองสหายตนถูกผ้าปริศนาปักอกจนเลือดทะลักพุ่งกระฉูดลากออกไปทางป่ารกทึบด้านหลังห่างหลายจั้งภายในพริบตา

ยามที่ฟางหลันหมุนกายงามเพื่อสะบัดผ้าออกไป ร่างระหงของนางคล้ายกับร่ายรำอย่างงดงาม อรชรอ้อนแอ้นน่าหลงใหล ใบหน้าสวยเฉี่ยวมีรอยยิ้มบางเบาประดับอยู่เล็กน้อยอย่างยั่วเย้า ให้ความรู้สึกถึงเสน่ห์แห่งสตรีเพศมากล้น ทำเอาชายอีกสองคนที่เหลือถึงกับเหม่อมองอย่างตราตรึงใจ พวกมันคล้ายกับถูกมนต์สะกดจนไม่อาจถอนเท้าก้าวถอยหลังกลับ เพื่อวิ่งหนีแม้เพียงครึ่งก้าว

ชั่วอึดใจเดียวพวกมันก็พากันลิ้นจุกปาก ดวงตาที่กำลังเหม่อมองสาวงามถึงกับถลนออกมานอกเบ้า เนื่องจากถูกผ้าปริศนารัดคอแล้วรั้งร่างกำยำของพวกมันขึ้นไปบนต้นไม้จนห้อยโตงเตงไปมาคล้ายลูกตุ้มอันใหญ่

ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วรวบรัด กระทั่งเฟยเฟยยังต้องยอมให้ เพราะว่าสายตาสีแดงเพลิงของมันสนใจแค่เพียงสตรีของเจ้านาย จังหวะที่มันจะลงมือกางปีกปกป้องย่อมต้องเป็นยามภัยมาถึงตัวสตรีคนสำคัญ แต่ในเมื่อการต่อสู้ตรงหน้าห่างออกไปจากคนที่มันจ้องอยู่ มันจึงหุบปีกเอียงหัวไปมาก็เท่านั้น

เหม่ยหลินรีบเรียกสติของตนให้กลับคืนมาแล้วขึ้นจากน้ำไปหยิบผ้ามาสวมใส่ ก่อนจะยืนหลบอยู่หลังโขดหิน จ้องมองทุกการเคลื่อนไหวคล้ายเริงระบำของฟางหลันอย่างไม่วางตา ถึงแม้ว่าการสังหารจะห่างชั้นกับพี่หง หากแต่ความเฉียบขาดในความงดงามก็ทำให้นางทึ่ง สตรีนางนี้เรียกได้ว่าสวยมหาภัยเลยก็ว่าได้

ฟางหลันลดเรียวแขนที่คล้ายกับร่ายรำลงข้างลำตัวระหง นางยืนนิ่งเพื่อรอเวลาให้ชายทั้งสองที่ถูกผูกคอได้แดดิ้นอย่างทรมาน ในเวลาแค่ไม่นาน พวกมันก็กระตุกร่างขลุกขลักจนปลายเท้าชะงักเกร็ง ลิ้นยื่นออกมานอกปาก ดวงตาแดงก่ำด้วยเส้นเลือดแตกซ่าน

สายตาเรียวสวยของฟางหลันจ้องมองอย่างเย็นชา ริมฝีปากสีแดงสดยกยิ้มบางเบาเมื่อเห็นชายกักขฬะหยุดดิ้นแล้วทิ้งลำตัวลู่ลงคล้ายเศษเนื้อตากแดดตอนที่ยังไม่แห้ง

หญิงสาวยื่นฝ่ามือขึ้นแล้วสะบัดเชือกผ้าส่งทะยานไปอีกครา เพื่อตัดผ้าเดิมบนต้นไม้ให้ขาดไป ทิ้งให้ร่างใหญ่ของชายทั้งสองตกกระแทกพื้นเสียงดังพลั่ก ก่อนจะสะบัดผ้าตามติดเพื่อม้วนรัดร่างกำยำของพวกมันเอาไว้แน่น แล้วเดินย่างสามขุมลากร่างไร้วิญญาณของพรานป่าไปตามทางรกทึบ อึดใจก็สะบัดพึ่บให้ศพของชายทั้งสองกระเด็นไปตกยังที่ไกลๆ เพื่อมิให้ซากของพวกมันส่งกลิ่นเหม็นเน่าใกล้กับบ่อน้ำพุร้อน

เมื่อเห็นแล้วว่าฟางหลันจัดการชายฉกรรจ์ทั้งสามเป็นที่เรียบร้อย เหม่ยหลินจึงเดินมาสมทบแล้วเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง “เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?”

ผู้ถูกห่วงใยคลี่ยิ้มสดใสส่งให้แล้วตอบ “คนงามย่อมต้องงามตลอดเวลา แม้กระทั่งยามฆ่าคน ท่านอย่างได้ห่วง” กล่าวจบก็หมุนตัวอย่างสวยงามเดินนวยนาดไปยังทิศหนึ่ง

เหม่ยหลินมองตามร่างระหงที่เดินอ่อนช้อยไปทางบ้านหลังน้อยอยู่ชั่วครู่แล้วรีบถามทันที “เจ้าจะเดินไปที่ใด?”

ฟางหลันปรายตาสวยเฉี่ยวมองคนถามแวบหนึ่งแล้วตอบ “กลับบ้าน” นางหิวมากและต้องการหาอะไรกิน

คำนั้นทำเหม่ยหลินถึงกับนิ่งอึ้งไป นั่นมิใช่ทางไปยังบ้านหลังที่นางเพิ่งจะเผาครัวไปเมื่อครู่หรอกหรือ?

“ฟางหลัน” น้ำเสียงแว่วหวานเอ่ยเรียกขานอย่างสนิทสนมในทันที “เจ้ารอข้าก่อน เราควรเดินไปพร้อมกัน”

เจ้าของนามที่ถูกสตรีด้วยกันเรียกอย่างอ่อนหวานพลันหยุดเดินแล้วหันหน้ามามอง “ท่านจะช่วยข้าเรื่องท่านประมุขใช่หรือไม่?” นางคลี่ยิ้มสว่างจ้า

“ผิดแล้ว” เหม่ยหลินเดินมาหยุดเบื้องหน้าของฟางหลันแล้วคลี่ยิ้มงดงามส่งให้เช่นกัน “ย่อมเป็นข้าที่ต้องการให้เจ้าช่วยเหลือ”

“หืม...” ฟางหลันมองเหม่ยหลินอย่างงุนงง

ผู้ถูกจ้องเพียงเอื้อมมือตนขึ้นตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆ แล้วเอ่ยกระซิบ “เอาล่ะ แค่เพียงเจ้าไม่โวยวายอันใดยามเข้าบ้านและที่สำคัญไม่พูดถึงเรื่องที่เราคุยกันในบ่อน้ำกับท่านประมุขอีกเลย เท่านี้ก็ใช้ได้แล้ว”

ฟางหลันยิ่งรู้สึกงงงวยไม่น้อย

มิให้โวยวายยามเข้าบ้านหรือ?

มิให้พูดถึงเรื่องท่านประมุขด้วย!

หืม...

หญิงสาวคล้ายกับถูกสตรีด้วยกันล่อลวงยิ่งนัก ยามถูกจับจูงฝ่ามือให้เดินกลับเข้าบ้านตน

สตรีสองคนจึงเดินตามกันไปยังบ้านหลังน้อยโดยมีนกตัวใหญ่บินตาม

คล้อยหลังของพวกนางพลันปรากฏเงาร่างสูงใหญ่เจ้าของสายตาเฉี่ยวคมยืนอย่างสง่าด้วยท่าทางสุขุมเยือกเย็นยามมองตามแผ่นหลังบอบบางที่เดินไปยังบ้านหลังหนึ่ง ริมฝีปากได้รูปค่อยๆ ยกโค้งขึ้นบางเบา หากแต่สายตาคู่คมบนใบหน้าหล่อเหลากลับคาดเดาห้วงอารมณ์ได้ยากยิ่ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel