ตอนที่ 1 คนไร้ค่า |
แคว้นลั่ว มีเมืองลั่วเฉินเป็นเมืองหลวง ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่เจริญรุ่งเรืองในการปกครองของฮ่องเต้เย่ไห่เฉิง แคว้นใหญ่นี้ปกคลุมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ความเป็นอยู่ของประชาชนนั้นถือได้ว่า มั่งคั่ง และเงียบสงบยิ่งนัก
ห่างออกไปไกลที่ชายแดนทางใต้ ก็มีเหล่าทหารที่แข็งแกร่งภายใต้การบังคับบัญชาของท่านอ๋องผู้เกรียงไกร ที่ใครๆต่างเรียกขานพระองค์ว่า แม่ทัพเดนตาย แม่ทัพเย่ เย่อู๋เฉิน
อ๋องเฉิน เป็นบุตรชายลำดับที่สามของฮ่องเต้เย่ไห่เฉิงเกิดจากฮั่วไท่เฟยพระสนมเอกของพระองค์ โดยฮ่องเต้เย่ไห่เฉิงนั้นมีบุตรชายด้วยกันทั้งหมดเจ็ดพระองค์ บุตรสาวสามพระองค์ โดยมีบุตรชายที่เกิดจากฮองเฮาอู๋ฉีนั้นสองพระองค์ นั่นคือองค์รัชทายาทเย่เฉินตงและองค์ชายรองเย่เฉินฉู่ ในวัยไล่เลี่ยกันนั่นคือองค์รัชทายาทวัยยี่สิบสี่ องค์ชายรองหรืออ๋องฉู่ในวัยยี่สิบสามและองค์ชายสามหรืออ๋องเฉินในวัยยี่สิบสามปีเช่นเดียวกัน
ส่วนอีกด้านของแคว้นลั่วคือทิศเหนือมีแม่ทัพใหญ่คู่ศึกขององค์ฮ่องเต้เย่ไห่เฉิงประจำอยู่ที่นั่น นั่นคือท่านแม่ทัพหลินเสวี่ยเฟย ท่านแม่ทัพหลินเสวี่ยเฟยในวัยสี่สิบปีเป็นแม่ทัพคู่บ้านคู่เมืองมาสองสมัยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์ฮ่องเต้พระองค์ก่อนและยังร่วมรบกับฮ่องเต้องค์ปัจจุบันจนได้รับขนานนามว่า แม่ทัพคู่เมือง
เวลานี้แคว้นลั่วสงบสุขไร้ศัตรูมาต่อกรแม่ทัพทั้งหลายจึงได้รับคำสั่งให้เข้าเมืองมาช่วยงานในกรมพระราชวังแทน แต่ถึงกระนั้นองค์ชายสามหรืออ๋องเย่อู๋เฉินพระองค์ก็ยังไม่ยอมที่จะเดินทางกลับเข้ามา ไท่เฟยผู้เป็นพระมารดาต่างก็รู้สึกหดหู่พระทัยยิ่งนัก ด้วยพระนางมีความประสงค์ที่จะหาพระชายาให้กับบุตรชายของตน แต่ด้วยเหตุนี้ทำให้บุตรชายผู้ดื้อรั้นไม่ยินยอมที่จะกลับเข้ามาในเมืองเสียที
เมืองลั่วเฉินในสารทฤดูดวงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าแสงสีทองสาดส่องทอประกายลงกระทบกับพื้นผิวน้ำเกิดแสงสะท้อนสีทองประกายวิบวับสวยงาม
ณ ศาลาริมบึงในสวนทางด้านหลังจวนของท่านแม่ทัพใหญ่ ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่สาดส่องกระทบผิวน้ำในยามเย็นที่สวยงาม อากาศในฤดูใบไม้ผลิที่กำลังอบอุ่นท่ามกลางความเงียบสงบที่ได้ยินเพียงเสียงใบไม้พัดปลิว
มีเงาร่างสองร่างชายหญิงแนบชิดโอบกอดคลอเครียร์กันอย่างแนบแน่นนั่งอยู่ หญิงสาวใบหน้าสวยงามอ่อนหวาน ยิ้มยั่วยวนสองแขนของนางโอบกอดรอบเอวของบุรุษเอาไว้ ใบหน้างามยิ้มเอียงอายซุกอยู่ในอกของเขา นางเอ่ยขึ้นๆเบาๆว่า
"องค์รัชทายาทเพคะ พวกเราทำเช่นนี้มันดีแล้วหรือเพคะหากท่านพี่มาพบเข้า..."
"เจ้าอย่าได้เอ่ยถึงสตรีไร้ค่าคนนั้นให้ข้าได้ยินอีก เพราะชีวิตนี้ข้ามีเพียงเจ้าเท่านั้น" ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับทำท่าทางรังเกียจออกมาอย่างไม่ปิดบัง
เขาก้มหน้าลงจุมพิตไปที่หน้าผากของหญิงสาวพร้อมกับพูดขึ้นมาอีกว่า "ตอนนี้มีเพียงเราแค่สองคนเท่านั้นไยเจ้าต้องเอ่ยถึงผู้อื่นให้เสียบรรยากาศด้วยเล่า"
"แต่องค์รัชทายาทกับท่านพี่เป็นคู่หมั้นกันนะเพคะ....." ร่างบางยังคงเอ่ยขึ้นในน้ำเสียงปนความน้อยใจออกมา
"เจ้าอย่าเอ่ยถึงนางอีกเลย การหมั้นหมายนั้นข้าต้องหาทางยกเลิกให้ได้ เพราะการหมั้นหมายเกิดขึ้นตั้งแต่ข้ายังไม่เกิดเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นข้าจะไม่ยอมอภิเษกกับนางอย่างแน่นอน"
หญิงไร้ค่าเช่นนางคนนั้นมีสิทธิ์อันใดเหมาะสมกับเขากัน นางก็แค่ขยะที่ไร้ค่าเท่านั้น ผู้ที่เหมาะสมกับเขานั้นคือนางผู้นี้ต่างหากเล่า นางที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาผู้นี้ต่างหาก
"ซินเอ๋อ นอกจากเจ้าแล้วข้าจะไม่ยอมอภิเษกกับผู้ใดเป็นอันขาด เจ้าเชื่อข้าเถิด ข้าจะทำทุกทางให้ได้แต่งเจ้ามาเป็นพระชายาของข้าอย่างแน่นอน"
"องค์รัชทายาท..." หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยดวงตาแดงก่ำ ซาบซึ้งกับคำมั่นของเขา
ผ่านไปชั่วครู่หญิงสาวก็เอ่ยขึ้นด้วยความละอายใจว่า "แต่เราทำเช่นนี้ ไม่เป็นความไม่ยุติธรรมกับท่านพี่หรอกหรือเพคะ อย่างไรเสียนางก็คือพี่สาวของหม่อมฉัน หม่อมฉันรู้สึก...."
เมื่อได้ยินเช่นนั้นชายหนุ่มก็โอบกระชับหญิงสาวเข้ามาในอ้อมกอดแน่นขึ้น ริมฝีปากบางของเขาเอ่ยขขึ้นกับนางว่า "ซินเอ๋อเจ้าช่างเป็นสตรีที่มีจิตใจโอบอ้อมอารียิ่งนัก เจ้าช่างงดงามทั้งกายใจเสียจริงๆ" กล่าวจบเขาก้มลงจุมพิตที่หน้าผากของนางจากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
"หากนางยังไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ที่มีน้องสาวรู้ความจิตใจดีเช่นเจ้าอยู่อีก ก็อย่าหาว่าข้าใจร้ายก็แล้วกัน"
ทันใดนั้นเอง ในขณะที่ทั้งสองกำลังโอบกอดกันอย่างรักใคร่อยู่นั้นก็ได้ยินเสียงเล็กแหลมดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
"นี่...พวกเจ้าทำอันใดกัน เหตุใดถึง....อ๊าาาาาา"
หลินซินเหยียนดวงตาแดงก่ำ จ้องมองคนทั้งคู่ที่โอบกอดกันอย่างรักใคร่ไร้ยางอายด้วยความเจ็บปวด น้ำตาของนางหลั่งไหลออกมาอาบสองแก้มอย่างอดกลั้นไม่ไหว หัวใจของนางเวลานี้คล้ายกับถูกของแหลมคมจ้วงแทงเข้ามา
ชายหนุ่มผลักหญิงสาวคนรักเอาไว้ทางด้านหลังเพื่อเป็นการปกป้อง ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วขึ้นมา จ้องมองหลินซินเหยียนด้วยความรังเกียจอย่างไม่ปิดบัง
"หลินซินเหยียน เจ้าคิดจริงๆหรือว่าตำแหน่งพระชายาในองค์รัชทายาทของข้านั้นจะเป็นเจ้าหญิงไร้ค่าจริงๆ" น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยขึ้นมา
คำพูดของเขาคล้ายหอกแหลมทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของนาง หลินซินเหยียนจ้องมองชายคนรักของนางที่โอบกอดสตรีอื่นเอาไว้คล้ายกำลังปกป้องด้วยความเจ็บปวด
ที่แท้ในใจของเขานางเป็นเพียงสตรีที่น่ารังเกียจผู้หนึ่งเท่านั้นเองหรือ แต่เหตุใดเล่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาถึงได้อ่อนโยนกับนางนัก ตั้งแต่สี่ขวบนางยึดมั่นกับเขาตลอดมาถ้าหากไม่ใช่ความอ่อนโยนที่เขามีให้นางมาตลอดนางก็คงไม่ถลำลึกมากมายจนถอนตัวไม่ขึ้นเช่นนี้
ถึงแม้นว่าตอนนั้นในวัยห้าขวบที่นางไปทดสอบพลังแล้วปรากฎว่านางไม่มีพลังวิเศษใดๆก็ตามพี่เฉินตงคนนี้ของนางก็ไม่เคยทอดทิ้งนาง ถึงแม้นว่าจะมีบ้างที่นางรู้สึกว่าเขานั้นไม่เหมือนเดิมแต่ก็ไม่เคยเลยที่จะไม่อ่อนโยนต่อนาง
แต่เวลานี้ สายตา ท่าทางที่เขาส่งมานั่นมันคืออะไรกัน "พี่เฉินตง"
"หุบปาก...." ชายหนุ่มตวาดกลับมา เสียงตวาดของเขานั้นทำให้หลินซินเหยียนถึงกับสะดุ้งตกใจในทันที นางไม่รู้เลยว่านางนั้นทำอะไรผิด สายตาที่ดูแคลนของเขาทำให้นางเจ็บปวด ใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของนางทำให้เขารู้สึกรังเกียจ
"สตรีไร้ค่าเช่นเจ้า มีอะไรเทียบเท่าซินเอ๋อกัน ดูเจ้าสิ แม้แต่บ่าวรับใช้ยังมีค่ามากกว่าเจ้าเลย"
"องค์รัชทายาทเพคะ" หลินเสี่ยวซินกระตุกชายเสื้อของเย่เฉินตงเอาไว้ จากนั้นนางก็ทำหน้าตาเศร้าสร้อยเอ่ยขึ้นมาว่า
"องค์รัชทายาทเพคะ พระองค์ไม่ต้องตรัสอันใดแล้วเพคะ เป็นซินเอ๋อเองที่ผิดต่อท่านพี่ หม่อมฉันไม่ดีเอง ไม่ควรที่จะตอบรับพระองค์เลยเพคะ
ซินเอ๋อคิดผิดไปเอง เพียงคิดว่าความรักของเราจะมีแต่คนยินดี ลืมนึกไปว่าท่านพี่จะเจ็บปวดเพราะที่ผ่านมาท่านพี่รักพระองค์มากยิ่งนัก องค์รัชทายาทอย่าทำร้ายจิตใจท่านพี่อีกเลยเพคะ ท่านพี่เป็นคนดีเพคะ" หลินเสสี่ยวซินเอ่ยขึ้นในน้ำเสียงที่สั่นเครือ น้ำตาของนางค่อยๆไหลออกมา
น้ำตาของหลินเสี่ยวซินเพียงหยดเดียวกลับทำให้จิตใจที่กำลังลุกเป็นไฟของเย่เฉินตงอ่อนยวบลงทันที แววตาที่ดุร้ายที่มองมายังหลินซินเหยียนเมื่อสักครู่ อ่อนโยนอบอุ่นขึ้นมาเมื่อมองมาทางหลินเสี่ยวซิน
มือหนายื่นไปกอบกุมมือเรียวเล็กของหญิงคนรักเอาไว้ พร้อมกับยกขึ้นมาแนบที่อกของตน "ซินเอ๋อเจ้าจำเอาไว้ เจ้าคือว่าที่พระชายาในองค์รัชทายาทของข้า ข้าสัญญาว่าข้าจะทำทุกทางเพื่อยกเลิกงานหมั้นของข้ากับหญิงไร้ค่าผู้นี้แล้วมาแต่งกับเจ้า
อีกไม่นานข้าให้สัญญา"
ภาพตรงหน้าของคนทั้งคู่ที่พรอดรักกันนั้น ทำให้หัวใจของหลินซินเหยียนเจ็บปวด นางร้องไห้จนแทบขาดใจ ดวงตาแดงก่ำของนางจ้องมองไปที่หลินเสี่ยวซิน
"เสี่ยวซิน...เจ้าเป็นเพียงบุตรบุญธรรมของตระกูลหลิน แต่ข้าก็ไม่เคยทำไม่ดีกับเจ้า เหตุใดเจ้าถึงลืมตัวตนที่แท้จริงของตนเอง ข้าผู้เป็นบุตรสาวที่แท้จริงของตระกูลหลิน ยังไม่กล้าที่จะทำเรื่องไร้ยางอายเช่นเจ้า!"
"เพี๊ยะ!" สิ้นคำพูดของหลินซินเหยียน ฝ่ามือหนึ่งก็ตบลงไปบนใบหน้าของนางอย่างแรง ใบหน้าของนางสั่นไหวหลินซินเหยียนยกมือกอบกุมใบหน้าของนางด้วยความงุนงง นางหันไปมองเจ้าของฝ่ามือนั้น ริมฝีปากสั่นระริกเอ่ยขึ้นด้วยความไม่เชื่อในสายตา
..................................................