บทที่ 6 มีคนตั้งมากมายทำไมถึงเลือกฉัน?
บทที่ 6 มีคนตั้งมากมายทำไมถึงเลือกฉัน?
เมื่อถึงห้างสรรพสินค้า จ้าวเว่ยเว่ยก็ตรงไปที่แผนกซุปเปอร์มาเก็ตก่อนเป็นอันดับแรก เธอเดินซื้อของหยิบของที่ต้องการเอานำไปด้วยพวกขนม นม เนย ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลังต่าง ๆ อาหารสดอาหารแห้งอาหารแช่แช็งและเครื่องปรุงต่างๆ เพิ่มเต็มเพราะบางอย่างเธอก็ไม่สามารถที่จะสั่งออนไลน์ได้ เมื่อได้ของเต็ม 3 รถเข็นเธอก็ทะยอยของไปไว้ที่รถก่อน เมื่อของอยู่ในรถก็ค่อยเก็บเขาจี้กระจกอีกที เธอทำแบบนี้หลายรอบจนเหนื่อยหอบไปเลยเหมือนกัน
จากนั้นเธอก็นั่งพักที่ร้านขายชา และสั่งชาชั้นเลิศไปอีกหลายชนิด จากนั้นก็ตรงไปที่แผนกเครื่องครัว จ้าวเว่ยเว่ยช้อปพวกจานชามตะเกียบสวยๆ หรูหรา ไปมากมายหลายสิบชุด แต่ก็มีพวกจานชามแบบธรรมดาที่จะใช้ในชีวิตประจำวันด้วยอีกหลายสิบชุด พวกเครื่องครัว หมอ มีด เขียง ทัพพี เอาไปหมด จ้าวเว่ยเว่ยเดินไปทุกแผนกทุกชั้น จนตอนนี้ขาเธอแทบจะไม่มีแรงแล้ว ไม่คิดเลยว่าการช้อปปิ้งมันจะเหนื่อยขนาดนี้ มันยิ่งกว่าการยืนผ่าตัดทั้งวันอีกนะเนี้ยเธอคิดขณะที่ขับรถออกมาจากห้างสรรพสินค้าในเวลาใกล้จะมืดแล้ว เพื่อไปที่ร้านขายของเก่าร้านนั้น
เมื่อรถใกล้จะถึงเธอก็จอดและเดินไปเพราะว่าด้านหน้าร้านตอนที่เธอไปนั้นไม่มีที่จอดรถ เมื่อถึงบริเวณที่เคยเป็นร้านขายของเก่าที่เธอซื้อเจ้ากระจกโบราณบานนั้นไป ตอนนี้กลับกลายเป็นตึกสำนักงานขนาดใหญ่ขึ้นมาแทน เจ้าเว่ยเว่ยพยายามมองหาร้านว่าอยู่ตรงไหน แต่เดินเกือบ 20 นาทีจนมาถึงโรงพยาบาล เธอก็ไม่เห็นร้านแห่งนั้นเลย ถึงแม้เธอจะทำใจเอาไว้แล้วแต่ว่าเมื่อเป็นเช่นที่คิดจริงๆ จ้าวเว่ยเว่ยก็รู้สึกตกใจเช่นกัน และในที่สุดเมื่อจำเป็นต้องยอมรับความจริง
เธอก็เดินกลับมาที่รถของตัวเอง ขณะที่กำลังเดินผ่านบริเวณที่เคยเป็นร้านขายของเก่าที่เธอจำได้แม่น กลับมีนักพรตชราที่แต่งกายด้วยชุดแบบนักพรตเต๋าเก่าซีดยืนอยู่ จ้าวเว่ยเว่ยเหมือนจะเห็นออร่าส่องออกมาจากนักพรตชราท่านนั้น จ้าวเว่ยเว่ยมองดูเขาเพียงครั้งเดียวขณะที่กำลังจะเดินผ่าน นักพรตชราท่านนั้นก็เอ่ยขึ้นมาว่า
“ดวงชะตาของท่านถูกลิขิตให้เป็นผู้ช่วยเหลือและสร้างคุณประโยชน์ต่อแผ่นดิน ท่านต้องเดินทางไปยังดินแดนอันไกลโพ้น เพื่อช่วยเหลือผู้คนมากมายที่กำลังประสบกับความทุกข์ยากลำบากเถิด จงอย่าได้กังวลใดๆ จงเดินทางด้วยความกล้าหาญ และจงเชื่อมั่นในตัวเอง"
จ้าวเว่ยเว่ยยังคงยืนนิ่ง บรรยากาศรอบตัวเธอนิ่งสนิท ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่ง ไม่มีแม้แต่เสียงรถ เสียงผู้คน ทั้งๆ ที่บริเวณนี้เป็นศูนย์กลางของย่านที่คึกคัก เธอรู้ดีว่านักพรตชราผู้นี้กำลังพูดกับเธอ แต่เธอก็ยังคงสับสน ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เธอไม่เคยเชื่อเรื่องโชคชะตา หรือเรื่องเหนือธรรมชาติมาก่อน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอในตอนนี้ ยากที่จะปฏิเสธว่าไม่เชื่อ
จ้าวเว่ยเว่ยหันไปมองนักพรตชรา เธอรู้สึกถึงพลังอำนาจของชายชราผู้นี้แผ่ออกมา และด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอจึงตัดสินใจถามคำถามสำคัญขึ้นมาว่า
"ในเมื่อฉันต้องเสียสละมากขนาดนี้ แม้กระทั่งชีวิตก็ต้องให้ไป แล้วจะมีสิ่งใดเป็นสิ่งตอบแทนล่ะ ท่านนักพรตช่วยบอกทีเถอะ"
รอยยิ้มแห่งความเมตตาปรากฎขึ้นบนใบหน้าของนักพรตชรา
"คำถามของท่านนั้นชาญฉลาด แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของท่าน" เขาพูด
"ข้าขอตอบคำถามของท่านดังนี้ สิ่งตอบแทนที่ท่านจะได้รับนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ท่านจะจินตนาการ ท่านจะได้รับเกียรติยศ ชื่อเสียง และความสุขที่แท้จริง ท่านจะได้ช่วยเหลือผู้คนมากมาย บรรเทาความทุกข์ยากลำบาก และสร้างคุณประโยชน์ให้กับแผ่นดินนี้ และที่สำคัญที่สุด ท่านจะได้ค้นพบศักยภาพที่แท้จริงของตัวเอง และกลายเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่กว่าที่ท่านเคยเป็น"
จ้าวเว่ยเว่ยฟังคำตอบของนักพรตชราอย่างใจของเธอเต้นรัว คำพูดของนักพรตชราผู้นี้ยังคงก้องอยู่ในหูของเธอ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมดวงชะตาของเธอถึงถูกลิขิตให้เป็นผู้ช่วยเหลือด้วย
“ฉันไม่เคยคิดที่จะเป็นวีรบุรุษ หรือวีรสตรี หรือทำอะไรยิ่งใหญ่เพื่อผู้อื่น ฉันแค่ต้องการใช้ชีวิตธรรมดาๆ มีความสุขกับเพื่อนฝูง และแต่งงานมีครอบครัวเล็กๆ ใช่ชีวิตเลี้ยงลูกเหมือนคนอื่นๆ เท่านั้นเอง ทำไมถึงต้องเลือกฉันด้วย”
จ้าวเว่ยเว่ยเอ่ยถามนักพรตชราคนนั้นเช่นกัน เพราะถึงแม้จะเริ่มทำใจได้ แต่ว่าก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมสิ่งเหล่านี้ถึงได้เกิดขึ้นกับเธอ ทำไมพวกเขาเลือกเธอ นักพรตชรานิ่งอยู่คราวหนึ่งก่อนที่จะถอนหายใจออกมา และในที่สุดก็เอ่ยออกมาว่า
“สิ่งที่สวรรค์ลิขิตแล้ว แม้อยากจะฝืนก็คงจะทำได้ยาก แต่ท่านไม่ต้องกังวล สวรรค์ไม่เคยเอาเปรียบใคร ”
จากนั้นก็ยื่นเศษกระจกให้เธอ 3 ชิ้น จ้าวเว่ยเว่ยรับมาและมองดู สีของมันคล้ายกับเจ้ากระจกโบราณของเธอมาก
“กระจก 3 ชิ้นนี้คือของตอบแทน ท่านสามารถที่จะย้อนกลับมาในยุคปัจจุบันได้ 3 ครั้ง แต่ละครั้งสามารถอยู่ได้ 3 วัน ส่วนพลังอำนาจอื่นๆ ของกระจกแต่ละชิ้นนั้น ท่านจะต้องค้นหาด้วยตัวเอง ข้าสามารถที่จะช่วยได้มากที่สุดเท่านี้” เสียงนักพรตชราเงียบลง และเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งว่า
“แต่หากว่าท่านไม่ต้องการกลับมา กระจกทั้ง 3 ชิ้นนี้จะสามารถประสานรอยร้าวบนกระจกโบราณที่เจ้าเป็นเจ้าของได้ จงคิดให้ถี่ถ้วนและทำตามที่ท่านปรารถนา”
จ้าวเว่ยเว่ยก้มหน้ามองดูเศษกระจกทีละแผ่นลวดลายของมันนั้น วิจิตรอ่อนช้อยมาก เมื่อเธอเงยหน้าอีกครั้ง นักพรตชราท่านนั้นก็หายไปเสียแล้ว จ้าวเว่ยเว่ยมองหาไปรอบๆ ก็ไม่เห็นแล้ว จ้าวเว่ยเว่ยเดินเหม่อมาจนเกือบจะถึงรถของเธอที่จอดอยู่ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมา
“ขนมจีบ ซาลาเปา ติ่มซำไหมครับคุณผู้หญิง ร้านเราทำใหม่ๆ ลูกใหญ่ๆ นะครับ”
เสียงของพนักงานขายที่ยืนอยู่หน้าร้านขายซาลาเปาร้านนั้น แทรกเข้ามาในโสตประสาทของเธอทำให้เธอตื่นจากอาการเหม่อลอย จ้าวเว่ยเว่ยหันไปมอง ซาลาเปาลูกโตเท่ากับปั้นผู้ชายที่กำลังมีควันลอยขึ้นมาและส่งกลิ่นหอมฉุยออกมา เธอตัดสินใจเดินเข้าไปในร้านและเอ่ยออกมาว่า
“มีเท่าไหร่ฉันเหมาหมดค่ะ”
**** นั้นนะสิ ถ้าจะเดินทางย้อนเวลาจะขาดซาลาเปาได้อย่างไรถูกไหม? น้องถูกเลือกแบบไม่เต็มใจแบบนี้ของตอบแทนก็ควรจะยิ่งใหญ่ด้วยจริงไหม***
รีดที่รัก
ถ้าชื่นชอบน้องเว่ย อย่าลืมกดติดตาม กดหัวใจและคอมเมนต์มาเป็นกำลังใจให้กันนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ