บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ตระกูลหยาง

บทที่ 4 ตระกูลหยาง

เมื่อแสงสีขาวค่อยๆ ดับลง นางรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากกว่าที่เคย ตอนนี้หลังจากที่นางได้รับพลังการเยียวยาจะหัตถ์เทวะแล้ว ราวกับว่าร่างกายของตัวเองคล้ายจะสามารถเปล่งแสงออกมาได้อย่างไรอย่างนั้น หยางซีซีรู้สึกดีมากทีเดียว ตอนนี้นางมีฝ่ามือหัตถ์เทวะนางจะกลัวอะไรกับความลำบากยากแค้นกันเล่า…

เอาหล่ะ!!! ทีนี้ก็มาดูกันว่าสวรรค์เตรียมอะไรให้นางบ้าง หลังจากที่ส่งนางมาอยู่ในยุคที่ยากลำบากเช่นนี้….

หยางซีซีลุกขึ้นยืนและเดินไปที่หน้าต่างบานเก่า เธอค่อยๆ เปิดมันออกทันทีที่หน้าต่างเปิดเสียงลมหนาวพัดหวือหวาจนหน้าต่างไม้สั่นสะท้าน เธอเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆสีเทา หิมะสีขาวบริสุทธิ์ปกคลุมไปทั่วทุ่งนาจนกลายเป็นสีขาวโพลนราวกับผืนผ้าใบขนาดใหญ่ เกล็ดหิมะที่โปรยปรายลงมาเบาๆ เหมือนกับขนนกที่ร่วงหล่นจากท้องฟ้า ลมหนาวพัดกระหน่ำเข้ามาในห้องอีกครั้งพร้อมกับเกล็ดหิมะเล็กๆ ที่ปลิวว่อนไปมา เธอเบือนหน้าหนีลมหนาว แล้วมองออกไปยังทุ่งนาที่อยู่ด้านนอก บ้านเรือนของชาวบ้านส่วนใหญ่สร้างด้วยอิฐดินเผาหลังคาปูกระเบื้องสีเทา ดูเก่าแก่และทรุดโทรม ผนังบ้านหลายหลังเริ่มแตกร้าวเพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นและแห้งแล้ง ไกลออกไปเธอมองเห็นภูเขาเป็นเงาตะคุ่มๆ สีดำเรียงรายอยู่ มีภูเขาด้วยหรือ!!

จากนั้นหยางซีซีก็มองไปที่ แปลงผักเล็กๆ ที่ครอบครัวของเธอน่าจะปลูกเอาไว้เพื่อยังชีพถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนา ผักต่างๆ ที่เคยเขียวขจีกลับเหี่ยวเฉาลงเพราะความหนาวเย็น กิ่งใบหักพับลงมาเกาะกันเป็นกลุ่ม ทำให้ดูน่าหดหู่ยิ่งนัก ต้นไม้ยืนต้นเรียงรายอยู่แต่ละต้นใบนั้นได้ร่วงหล่นหมดแล้ว หยางซีซีถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นสภาพแวดล้อมรอบตัวที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก และแห้งแล้งหนาวเหน็บเช่นนี้

พลางคิดในใจว่าช่างเป็นบททดสอบที่หนักหน่วงจริงๆ ทั้งการทะลุมิติมาอยู่ในโลกอนาคตที่เธอไม่คุ้นเคย ทั้งสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งยากลำบาก จากนั้นหยางซีซีก็เงยหน้าขึ้นมาท้องฟ้าอีกครั้งเหมือนอยากจะตั้งคำถามว่า...พวกท่านทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน!! เธอยืนต่อว่าสวรรค์อยู่เพียงครู่เดียวก็ต้องรีบปิดหน้าต่างเพราะว่าตอนนี้ลมพัดอากาศหนาวเข้ามาในห้องทำให้เจ้าก้อนแป้งทั้งสองเริ่มขยับตัวด้วยความหนาวเย็นอีกครั้ง

หยางซีซีเดินวนไปเวียนอยู่ภายในห้องเล็กๆ ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอก ทำให้เธอต้องหยุดนิ่งค้างคาอยู่กับที่ ความคิดของเธอดึงย้อนกลับไปยังวันแรกที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตระกูลหยาง ครอบครัวชาวนาที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น

เธอจำได้ว่าเมื่อครั้งแรกที่เดินทางมาถึงบ้านหลังเล็กๆ นี้ เธอรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเพราะอยู่ๆ ก็ต้องแต่งงานและย้ายมาอยู่ในครอบครัวที่มีคนมากมาย ทำให้เธอไม่คุ้นชินมากนัก เพราะที่ผ่านมา 2 ปีที่เธอมาใช้แรงงานที่นี่นั้นเท่ากับว่าเธอใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมาตลอด แต่ด้วยความเมตตาของพ่อแม่สามีและพี่น้อง ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นใจและปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ได้อย่างรวดเร็ว พี่สะใภ้ใหญ่แม้จะดูเข้มงวดบ้าง แต่ก็เป็นคนใจดีเสมอมา เธอคอยสอนวิธีการทำครัว การเย็บปักถักร้อย และการดูแลบ้านเรือนให้กับเธอทำให้เธอนั้นค่อนข้างที่จะสนิทสนมกับพี่สะใภ้ใหญ่มากพอสมควร

ครอบครัวตระกูลหยางนั้นมีสมาชิกหลายคน หยางซีซีค้นหาความทรงจำเกี่ยวกับสมาชิกภายในบ้านว่ามีใครบ้าง

ตระกูลหยางนั้นเป็นครอบครัวที่อพยพหนีโรคระบาดมาจากทางเหนือ พวกเขาเร่ร่อนมาจนกระทั่งถึงหมู่บ้านหลี่ฮวาและได้ปักหลักที่นี่ ครอบครัวตระกูลหยางนั้นเหลือคุณปู่คุณย่าและคุณพ่อหยางเฉินกับน้องสาวคนเล็กหยางจิ้ง ส่วนคนอื่นๆ ในตระกูลต่างก็เสียชีวิตจากโรคระบายจนหมด

เพราะว่าพวกเขาเร่ร่อนมาไกลทำให้ไม่เหลือทรัพย์สินใดๆ เลย ครอบครัวต้องเริ่มใหม่จากศูนย์ ดังนั้นในหมู่บ้านหลีฮวาแห่งนี้สามารถพูดได้เต็มปากว่าครอบครัวตระกูลหยางนั้นเป็นครอบครัวที่ยากจนที่สุดในหมู่บ้านก็ว่าได้ พวกเขานั้นทั้งไม่มีที่นา และคนในตระกูลก็เหลือเพียง 4 คนที่รอดมาได้ ไม่มีใครอยากจะยกลูกสาวให้แต่งด้วย กว่าพ่อหยางเฉินจะได้แต่งงานก็อายุได้ 28 ปีแล้ว (ปีนี้เขาอายุ 55 )  และเขายังได้แต่งกับคนที่อายุแก่กว่าตัวเองอีกตัว แต่จะทำอย่างไรได้ ถึงจะได้เมียแก่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจแต่ง แล้วเพราะเขาแต่งงานช้า ทำให้เขามีลูกช้ากว่าเพื่อนๆ ที่อายุใกล้เคียงกับเขาอยู่บ้าง

ส่วนน้องสาวของพ่อหยางเฉินหยางจิ้งได้แต่งงานตอนอายุมากเช่นกันเธอแต่งไปกับพ่อม่ายลูกติดและย้ายไปอยู่ที่หมู่บ้านกลางภูเขาที่ไกลหมู่บ้านหลี่ฮวาพอสมควร

คุณแม่หยางเม่ยปีนี้อายุ 57 ปี เธอเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลจาง ครอบครัวของเธอมีลูกสาวหลายคน มีลูกชายน้อยพวกเขาจึงได้ให้ความสำคัญกับลูกชายมาก โดยไม่สนใจลูกสาว พวกเขาคิดว่าลูกสาวหลานสาวที่มีนั้นเป็นตัวขาดทุน มีก็ได้ ไม่มีก็ไม่เป็นไร และเพราะต้องการให้เธอทำงานรับใช้ที่บ้านตระกูลจาง ตอนแรกพ่อแม่ของเธอไม่คิดจะให้เธอแต่งงานออกมาด้วยซ้ำ เพราะพวกเขากลัวจะไม่มีแรงงานเอาไว้ใช้นั้นเอง ทำให้เธอนั้นมีอายุมากถึง 30 ปีแล้วในตอนที่แต่งเข้าตระกูลหยาง

ในตอนนั้นน้องชายคนเล็กของเธอต้องการที่จะแต่งงานกับคนในเมือง พวกเขาจำเป็นต้องใช้เงิน ครอบครัวของเธอซึ่งกำลังเผชิญกับปัญหาทางการเงิน ได้ตัดสินใจขายเธอให้กับตระกูลหยางเพื่อแลกกับเงินสินสอดสิบหยวน ในยุคนั้นเงินสิบหยวนถือเป็นจำนวนเงินที่มากมายสำหรับครอบครัวชาวนาอย่างพวกเขา แต่สำหรับเธอแล้วมันคือการถูกขายไปยังครอบครัวที่ยากจนกว่า และต้องแต่งงานกับชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าถึงสองปี ความรู้สึกเจ็บปวดและอับอายแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเธอ เธอรู้สึกเหมือนเป็นเพียงสินค้าที่ถูกต่อรองราคาและขายเธอถูกบังคับให้แต่งงานกับชายที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน และต้องเข้ามาอยู่ในครอบครัวที่ยากจนที่สุดในหมู่บ้าน ความรู้สึกผิดหวังและสิ้นหวังทำให้เธอแทบจะทนไม่ไหว แต่ด้วยความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ภายใน เธอจึงพยายามปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่

ในตอนนั้นไม่มีครอบครัวไหนอยากจะยอมรับสาวเทื้ออายุมากขนาดเธออยู่แล้ว นอกจากตระกูลหยางที่ยากจนที่สุดและมีลูกชายเป็นหนุ่มเทื้อเช่นกัน เธอจำได้ว่าในวันแต่งงาน ไม่มีพิธีรีตองใดๆ มีเพียงการเซ็นสัญญาและการมอบเงินสินสอดเท่านั้น ครอบครัวของเธอรีบกลับบ้านไปโดยไม่เหลียวหลังมามองเธอแม้แต่ครั้งเดียว เธอรู้สึกโดดเดี่ยวและถูกทอดทิ้งอย่างที่สุด แต่เธอก็ต้องกัดฟันสู้ต่อไป เพื่อความอยู่รอดของตัวเองและเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวหยาง

ในตอนนั้นที่ครอบครัวของเธอเรียกสินสอดจากคุณพ่อหยางเฉินถึงสิบหยวนครอบครัวของคุณพ่อหยวนนั้นแทบจะเป็นบ้าเพราะต้องหาเงินก้อนนั้นมาแต่งเธอเข้าบ้านให้ได้ เขาถึงกับวิ่งไปหยิบยืมกับหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อมาสมทบกับเงินที่มีจึงได้มีเงินครบสิบหยวนและให้กับครอบครัวตระกูลจางไป หลังจากนั้นเขาเป็นหนี้หัวหน้าหมู่บ้านนานถึง 3 ปีถึงได้ใช้หนี้ก้อนนั้นหมด ..

ทำให้แม่หยางเม่ยนั้นมีความน้อยใจมากเธอจึงคิดว่าในชีวิตนี้เธอไม่ต้องการที่จะคลอดลูกชาย เธอต้องการเพียงลูกสาวเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าสวรรค์จะไม่ได้ยินคำร้องขอของเธอแต่อย่างใด เพราะเธอคลอดลูกทั้งหมด 4 ครั้ง และทุกครั้งพวกเขาก็ออกมาเป็นผู้ชายทั้งหมด ทำให้หยางเม่ยนั้นผิดหวังในตัวคุณพ่อหยางเฉินพอสมควรที่ไม่มีความสามารถที่จะทำให้เธอคลอดลูกสาวได้ ดังนั้นพอลูกๆ ของเธอแต่งสะใภ้ เธอจึงได้ตั้งตารอหลานสาวอย่างใจจดใจจ่ออีกครั้งและเธอยังสอนให้ลูกๆ ของเธอนั้นให้ความสำคัญกับลูกสาว หลานสาว โดยหากลูกคนไหนมีลูกสาวนางจะรักเป็นพิเศษ ส่วนหลานชายตัวเหม็นพวกนั้นเธอก็ให้พ่อแม่พวกเขาดูแลเอา แต่ทว่าลูกชายทั้ง 4 ของเธอไม่มีใครมีลูกสาวเลยสักคน ลูกชายคนโตของตระกูลหยางนั้นคือ

หยางฟู่หลง 28 พี่ใหญ่เป็นคนนิสัยหนักเอาเบาสู้ ดูแลน้องๆ และพ่อแม่และทุกคนในครอบครัวอย่างดี พ่อแม่นั้นจึงถือได้ว่าสามารถฝากผีฝากไข้กับเขาได้ เขาแต่งภรรยาคือหยางชิงหลิง เป็นคนไม่ค่อยพูดเพราะตอนที่แต่งเข้ามานั้นไม่มีสินสอดก็เลยเป็นปมในใจ เธอกลัวที่บ้านหยางไม่ยอมรับ พวกเขามีลูกชาย 2 คนคือหยางอวิ่นอายุ 9 ขวบและหยางเหริน อายุ 8 ขวบ

ลูกชายคนรองหยางจิ้งอายุ 27 ปี เป็นคนไม่ค่อยพูดเช่นกัน แต่ทำงานเก่งมากงานที่หนักจะเป็นเขาที่รับผิดชอบไปโดยไม่บ่นแม้แต่คำเดียว เขาแต่งภรรยาคือหยางฟู่เหยา ภรรยาของเขาเป็นสาวสวยลูกคนในเมืองแต่เพราะหลงรักหยางจิ่งจึงทำให้ทะเลาะกับที่บ้านเพราะพวกเขาไม่ชอบที่หยางจิ่งเป็นชาวนายากจน จนกระทั่งครอบครัวของหยางฟู่เหย่านั้นตัดขาดแม่ลูกกันเลยทีเดียว พวกเขามีลูกชาย 1 คนคือ หยางตงอายุ 8 ขวบ

คนที่สามคือหยางเฟยหลงสามีของหยางซีซีคนนี้ อายุ 25 ปี นิสัยรักครอบครัว และเสียสละมาก เขาแต่งงานตอนอายุ19 ภรรยาเก่าของเขาคือหยางเย่วได้เสียชีวิตตอนที่คลอดลูกคนที่สอง หยางเฟยหลงสมัครไปเป็นทหารและส่งเงินมาจุนเจือครอบครัวทำให้ชีวิตของคนตระกูลหยางไม่ลำบากมากนัก เขามีลูกชายสองคน หยางอี้เฟย อายุ 4 ขวบ และ หยางจิว 3 ขวบ

คนสุดท้าย หยางไป่หลง อายุ 18 ปี ตอนนี้เรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยมปลาย...

เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวใหญ่แต่ว่าทุกคนไม่มีใครเห็นแก่ตัวเลย อาจจะความยากจนทำให้พวกเขาจำเป็นต้องสามัคคีกันก็เป็นได้

ความคิดของหยางซีซีล่องลอยตามความทรงจำของร่างนี้ไปเรื่อยๆ เธอคิดถึงช่วงเวลาที่ได้ร่วมกันทำงานในทุ่งนา ช่วยกันปลูกข้าว ปลูกผัก ผลไม้ แม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่ก็มีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ และได้แบ่งปันความสุข ความทุกข์กับทุกคนในครอบครัว ทำให้เธอรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ไปแล้ว..

แต่ตอนนี้ทุกอย่างดูเหมือนจะเปลี่ยนไป เพราะปีนี้นั้น ความแห้งแล้งและความอดอยากทวีคูณขึ้นมาเรื่อย ๆ ของที่ทางหัวหน้าหมู่บ้านแบ่งก็เริ่มน้อยลงทุกที ทำให้ทุกคนในครอบครัวต้องเผชิญกับความยากลำบากมากขึ้น เธอรู้สึกเป็นห่วงพ่อแม่สามีและพี่น้องเป็นอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าพวกเขาจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้หรือไม่ ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้นท้องของเธอก็ร้องขึ้นมาก

“จ๊อกกก!!”

ใช่แล้วเพราะว่าเธอป่วยอยู่2-3 วันทำให้กินอาหารได้น้อยมากและดูเหมือนว่าเมื่อคืนนี้เธอจะเข้านอนโดยที่ยังไม่ทันได้กินอาหารเย็นด้วยซ้ำทำให้ตอนนี้เธอรู้สึกหิวเป็นอย่างมาก หยางซีซีเดินไปที่ประตูและเปิดออกไป….

****ครอบครัวใหญ่แต่ไม่ทะเลาะกันเพราะความลำบากมันมีมาก สามัคคีกันดีกว่า****

*** ตอนหน้าน้องซีซีจะโชว์เทพแล้วนะคะ จะมีมือวิเศษไว้เพื่ออะไรหากไม่ใช้จริงไหม!!!! 5555 ****

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel