บทที่ 2 หยางซีซี
บทที่ 2 หยางซีซี
เหตุใดนางถึงได้ทะลุมิติมาในยุคอนาคตตั้งไกลถึง 1000 กว่าปีเช่นนี้? ในเมื่อนางก็ถูกฆ่าตายแล้วเหตุใดนางถึงไม่ได้ลงนรกหรือไม่ก็ขึ้นสวรรค์เหมือนคนอื่น? มีคำถามเกิดขึ้นมากมายในหัวของหยางซีซีในตอนนี้ นางพยายามนึกถึงความทรงจำที่ร่างเดิมทิ้งเอาไว้ให้เกี่ยวกับร่างนี้และครอบครัวนี้รวมทั้งในยุคสมัยนี้ด้วย หยางซีซีค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งได้ในที่สุด จากความเจ็บปวดตามร่างกายทำให้นางนั้นทราบว่าร่างนี้นั้นป่วยหนัก ไข้ขึ้นสูงจนกระทั่งเสียชีวิตลงอย่างเงียบคนเดียว โดยที่คนในบ้านนั้นไม่ทราบเลย นางมองไปรอบๆ ห้องเล็กๆ เก่าโทรมนี้ทำให้นางทราบได้ทันทีว่าชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวนี้นั้นยากจนมาก ไหนจะผ้าห่มเก่าบางที่มีเพียง 2 ผืนที่ห่มเด็กน้อย2คนนี้อยู่ที่แทบจะไม่สามารถป้องกันความหนาวเหน็บได้เลยก็ว่าได้ หยางซีซีหลับตานิ่งอีกครั้งจากนั้นก็นึกถึงความทรงจำต่างๆ เกี่ยวกับร่างนี้ทันที..
เธอคนนี้คือหลิวซีซียุวชนหญิงผู้มีการศึกษาที่ถูกส่งมาทำงานจากปักกิ่ง เธอและน้องสาว (อายุ8 ขวบ) อาศัยอยู่กับลุงและป้าซึ่งครอบครัวที่ปักกิ่ง ซึ่งก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนัก และในสังคมที่ผู้หญิงไม่มีค่าเธอจึงถูกครอบครัวของป้าส่งมาทำงานแทนลูกชายของตัวเอง หลิวซีซีในตอนที่มานั้นเธออายุ 18 ปี ทั้งผอมแห้งและซีดเซียวเธอไม่แข็งแรงและมักจะล้มป่วยบ่อยๆ เพราะว่าอยู่ที่บ้านของป้าชีวิตของเธอก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนรับใช้ เพียงเพราะพวกเขาสัญญาเอาไว้กับพ่อแม่ของเธอก่อนที่พวกท่านจะเสียชีวิตว่าจะดูแลและส่งเสียพวกเธอให้เรียนหนังสือ ไม่เช่นนั้นแม้แต่โรงเรียนมัธยมต้นเธอก็คงจะไม่ได้เรียน ในตอนที่พวกเขาบอกว่าจะส่งเธอมาแทนลูกชายของเขานั้นเธอไม่พูดอะไรเลย เพราะว่าถึงอยู่ที่นั่นเธอก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรอยู่แล้วสู้ออกมาอยู่ข้างนอก ห่างไกลจากพวกเขาจะดีกว่า โดยเธอขอเพียงให้เขาสัญญาว่าจะดูแลน้องของเธอให้ได้เรียนหนังสือจนกว่าเธอจะสามารถตั้งตัวได้หลังจากนั้นเธอจะกลับมารับน้องของเธอไปอยู่ด้วย โดยหลิวซีซีได้ยกคำพูดของพ่อของเธอขึ้นมาที่พ่อของเธอนั้นได้เคยช่วยชีวิตลุงเอาไว้เมื่อตอนเด็ก ทำให้ลุงและป้าจำต้องรับปาก และยังกำชับมาอีกว่าหากว่าเธอตั้งตัว ได้แล้วให้รีบมารับน้องของเธอไป ซึ่งหลิวซีซีก็รับปากทันที
หลิวซีซีถูกส่งมาใช้แรงงานที่เมืองหูโจว ในเขตมณฑลหางโจว ทางใต้ของเซียงไฮ้พร้อมกับกลุ่มนักศึกษาอีกกว่า 50 คน ซึ่งพวกเขาต่างก็กระจายกันไปตามหมู่บ้านต่างๆ ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก ซึ่งหมู่บ้านที่พวกเขาส่งเธอมานั้นชื่อว่าหมู่บ้านหลีฮวา อยู่ในเขตมณฑลหางโจว ไม่ไกลจากเซียงไฮ้มากนัก แน่นอนว่าสภาพของหมู่บ้านก็มีแต่ว่าอดยากแห้งแล้งเหมือนกันเกือบทุกที โดยที่ตั้งแต่เธอถูกส่งมาที่นี่นับเวลาก็เกือบจะ 2 ปีแล้ว แน่นอนว่าไม่มีความช่วยเหลือใดๆ ส่งมาจากครอบครัวของลุงป้าที่ปักกิ่ง และเธอก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับพวกเขาอยู่แล้ว ขอเพียงแค่พวกเขาทำตามสัญญาที่จะดูแลน้องของเธอก็พอ ...
หลิวซีซีใช่ชีวิตของเธอที่หมู่บ้านหลีฮวาแห่งนี้อย่างยากลำบากพอสมควรเพราะเป็นที่ทราบกันว่าในยุคนี้นั้นเป็นยุคที่ข้าวยากหมากแพง อาหาร เสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ หายากมาก และถึงแม้จะมีเงินซื้อหากว่าไม่มีตั๋วก็ไม่อาจจะซื้อได้ ดังนั้นหลิวซีซีสาวน้อยจึงได้อยู่ด้วยความมัธยัสถ์ประหยัดอดออมมาตลอด แต่อาจจะเป็นเพราะว่าร่างกายเดิมของเธอก็ไม่แข็งแรงอยู่แล้วประกอบกับต้องทำงานหนักทุกวันกินก็น้อยทำให้เธอมันจะเป็นลมและล้มป่วยบ่อยมาก
บ่ายแก่วันหนึ่งขณะที่เธอกำลังทำงานในนาเก็บเกี่ยวข้าว วันนั้นอากาศร้อนมาก ทำให้หลิวซีซีรู้สึกเวียนศีรษะขึ้นมาอย่างแรงเธอจึงขอหัวหน้างานหวังจงไปพักที่ร่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลสักครู่ หัวหน้างานหวังจงนั้นรู้อยู่แล้วว่าหลิวซีซีคนนี้นั้นเป็นเด็กขี้โรคเธอป่วยบ่อยกว่าทุกคนที่มาทำงานที่นี่ แต่เธอก็เป็นเด็กขยัน เขาสงสารใบหน้าที่ซีดเซียวจวนเจียนจะเป็นลมของเธอ จึงอนุญาตให้เธอไปพักได้ นักศึกษาที่ทำงานในแปลงนาหลายคนมาที่เธอ มีหลายคนที่มีความอิจฉาที่เธอได้พัก และมีหลายคนที่มองมาด้วยความสงสารเพราะพวกเขาเห็นใบหน้าที่แม้ว่าจะสวยหวานของเธอแต่ทว่ามันก็ซีดเซียวเหมือนคนป่วยอยู่ตลอดเวลา
หลิวซีซีค่อยๆ เดินประคองตัวเองมุ่งหน้าไปที่ต้นไม้ใหญ่ริมแม่น้ำนั้นเพื่อพักให้หายเวียนศีรษะ ขณะที่ใกล้จะถึงต้นไม้ที่เธอหมายตา เท้าของเธอเกิดสะดุดกับตอไม้ที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน ร่างของหลิวซีซีที่ไม่มีแรงอยู่แล้วพุ่งไปข้างหน้า และเพราะบริเวณนั้นใกล้กับแม่น้ำทำให้ร่างของเธอพุ่งลงไปในแม่น้ำอย่างแรง แม่น้ำค่อนข้างลึกประกอบกับที่เธอมีอาการป่วย ทำให้หลิวซีซีหมดสติ ในช่วงเวลาก่อนที่เธอจะหมดสติและร่างของเธอจมลงไปในน้ำอย่างรวดเร็วนั้นเธอได้ยินเสียงร้องโหวกเหวกด้วยความตกใจหลายเสียง และหนึ่งในเสียงนั้นคือเสียงเหมือนมีของตกลงมาในน้ำอย่างแรง และก่อนที่สติของเธอจะหลุดลอยร่างของเธอก็ถูกลำแขนที่แข็งแรงคู่หนึ่งอุ้มขึ้นมาจากแม่น้ำ..
แขนแข็งแรงคู่นั้นโอบล้อมเอวของเธอไว้แน่น ร่างกายของเธอถูกดึงขึ้นมาจากน้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนที่สติจะดับสนิท เธอเหลือบสายตาขึ้นเห็นใบหน้าคมสันหล่อเหลาของชายหนุ่มที่กำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาเป็นห่วง
เมื่อหลิวซีซีฟื้นขึ้นมา เธอพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องที่ไม่คุ้นเคย มีหญิงชราคนหนึ่งนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง เธอจึงถามว่าตนเองอยู่ที่ไหน หญิงชราคนนั้นจึงเล่าให้ฟังว่า เธอถูกช่วยขึ้นมาจากแม่น้ำโดยนายทหารหนุ่มชื่อหยางเฟยหลง ซึ่งบังเอิญมาเยี่ยมบ้านพอดี และเนื่องจากทั้งคู่ต้องถูกเนื้อต้องตัวกันขณะช่วยเหลือ หยางเฟยหลงจึงตัดสินใจรับผิดชอบโดยการแต่งงานด้วย แต่ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ หยางเฟยหลงมีลูกติดอีกสองคนจากภรรยาเก่าที่เสียชีวิตไปแล้ว ข้อมูลที่หลิวซีซีได้รับมาในระหว่างที่เธอสลบอยู่นั้นทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมาก…นายทหารหยางเฟยหลงอย่างนั้นหรือ ลูกติดอย่างนั้นหรือ!!
ความรู้สึกของหลิวซีซีในตอนนั้นผสมปนเปกันไปหมด ทั้งความรู้สึกขอบคุณ ความตกใจ และความกังวล เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชีวิตของเธอจะพลิกผันไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ การแต่งงานกับชายแปลกหน้าที่เพิ่งพบกันครั้งแรก ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีลูกติดอีกด้วย เป็นเรื่องที่เกินคาดหมายอย่างยิ่ง แต่ทว่าเธอก็ไม่อาจจะคัดค้านใดๆ ได้เลยโดยเฉพาะหัวหน้าหวังจงซึ่งเป็นเพื่อนกันหยางเฟยหลงนั้นเห็นด้วยที่จะให้เธอแต่งงานไปอยู่ในครอบครัวนี้เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นครอบครัวใหญ่แต่ว่าหยางเฟยหลงก็มีเงินเดือนน่าจะดูแลเธอได้ดีกว่าอยู่ตัวคนเดียว ยิ่งเธอเจ็บป่วยบ่อยๆ แบบนี้ยิ่งควรจะมีคนอยู่ด้วย
ในเมื่อไม่สามารถที่จะคัดค้านใดๆ ได้หลิวซีซีจึงจำต้องแต่งงานกับหยางเฟยหลง ซึ่งการแต่งงานนั้นถูกจัดขึ้นในอีก 2 วันต่อมา มันรวดเร็วเหมือนกับว่าพวกเขากลัวเธอจะเปลี่ยนใจอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งหลังจากแต่งงานได้ 3วันหยางเฟยหลงก็ต้องรีบกลับเข้ากรมและเขาสามารถลาพักมาเยี่ยมบ้านได้เพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น..ส่วนเธอก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในตระกูลหยางซึ่งเป็นครอบครัวใหญ่มีลูกชายด้วยกัน 4 คน หยางเฟยหลงเป็นคนที่ 3 ซึ่งเขาอาสาที่จะสมัครไปเป็นทหารเพื่อส่งเงินมาจุนเจือครอบครัว จากนั้นเธอเปลี่ยนชื่อจากหลิวซีซีมาเป็นหยางซีซีใช่แซ่ตามสามี เมื่อเธอย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านลูกๆ ทั้ง 2 คนของเขาก็มาอยู่ในการดูแลของเธอ เด็กชายตัวผอมอายุ 4 ขวบและ 3 ขวบ ที่กำลังนอนขดอยู่ข้างๆ เธอนี่เอง…ส่วนหยางเฟยหลงก็กำลังจะครบกำลังที่ขอลาพักกลับมาเยี่ยมบ้านได้ในอีก 1 เดือนข้างหน้านี่เอง แต่ทว่าหยางซีซีคนนี้กลับมาป่วยตายเสียก่อนจนกระทั่งนางที่ถูกกุ้ยเฟยสังหารได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างนี้แทนนั้นเอง
หยางซีซีก้มหน้าลงมองเด็กน้อยทั้งสองที่นอนอยู่ข้างหน้า ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและห่วงใย ในชาติก่อนนางไม่เคยมีลูกเป็นของตัวเอง ทำให้ทุกครั้งที่เห็นเด็กเล็กๆ หยางซีซีอดใจไม่ไหวที่จะอยากสัมผัสพวกเขา อยากจะลูบศีรษะหรือลูบแก้มของพวกเขาอย่างนุ่มนวล เพื่อให้ได้สัมผัสกับความบริสุทธิ์และความไร้เดียงสาของเด็กๆ
นางหันไปมองผ้าห่มผืนบางที่คลุมร่างเด็กน้อยอยู่ มันเก่าและผุพังจนมองไม่ออกว่าลายเดิมของมันเป็นอย่างไร ผ้าห่มผืนนี้เก่าจนแทบจะไม่สามารถให้ความอบอุ่นได้อีกต่อไป หยางซีซีถอนหายใจเบาๆ ขณะที่จับผ้าห่มผืนนั้นขึ้นมาคลุมให้เด็กๆ อีกครั้ง ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในใจ
"ผ้าห่มผืนนี้เก่าเหลือเกิน…ห่มแล้วจะอุ่นได้อย่างไร ถ้าได้ผ้าผืนใหม่ก็คงจะดี"
ทันใดนั้น ปลายนิ้วของนางเหมือนกับมีประกายไฟเกิดขึ้นจากนั้น แสงสีขาวนวลเริ่มไหลออกมาจากฝ่ามือของหยางซีซี มันค่อยๆ ปกคลุมไปทั่วทั้งผืนผ้าห่มเก่าในมือเธอ แสงนั้นสว่างขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะทำให้ทุกสิ่งรอบข้างดูสว่างขึ้นด้วย ไม่ถึง 1 อึดใจ ผ้าห่มเก่าที่บางผืนนั้นกลับกลายมาเป็นผ้าห่มใหม่เอี่ยมเหมือนเพิ่งจะถูกซื้อมาเมื่อหลายปีก่อนผ้าสีขาวนวลสะอาดตา และลายดอกไม้ที่เด่นชัดขึ้น
หยางซีซีตกใจอยู่ครู่หนึ่ง นางค่อยๆ หงายฝ่ามือของตัวเองขึ้นมา และเห็นเส้นแสงสีขาวนวลที่ยังคงวิ่งวนอยู่บนฝ่ามือของนาง มันดูราวกับมีชีวิตและรอที่จะทักทายนาง
นางจ้องมองแสงนั้นด้วยความรู้สึกที่ทั้งประหลาดใจและยินดี ก่อนที่รอยยิ้มจะปรากฏขึ้นบนริมฝีปากที่แสนสวยของนาง "ฝ่ามือหัตถ์เทวะ…ตามข้ามาด้วยอย่างนั้นรึ!"
แสงสว่างนั้นวิบวับคล้ายจะตอบรับนาง หยางซีซีรู้สึกถึงพลังที่อบอุ่นและคุ้นเคย พลังที่มาพร้อมกับความสามารถพิเศษที่นางเคยใช้ในการช่วยเหลือและรักษาผู้คนในชาติที่แล้ว ตอนนี้มันยังคงอยู่กับนางหยางซีซีถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างน้อยสวรรค์ก็ไม่ได้ทอดทิ้งนางอย่างสิ้นเชิง พวกเขายังส่งตัวช่วยมาให้นางด้วย หยางซีซีเงยขึ้นมองพลางคิดในใจว่า..
'ขอบคุณ'
***มีฝ่ามือหัตถ์เทวะอยู่กับตัวกลัวอะไร!!! ***
***ช่วงแรกจะยังมีการใช้ ' นาง 'แทนฮองเฮาอยู่บ้างนะคะ หลังจะจากนั้นจะเป็น ‘เธอ’
***เจอคำผิดช่วยแจ้งไรท์ด้วยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ***