บท
ตั้งค่า

บทที่ 1

คุณน้าโทรหาฉัน ตอนนั้นฉันกำลังประจำการอยู่ในหน่วยรบพิเศษ

เธอบอกให้ฉันกลับบ้านสักครั้ง เพราะได้จัดให้ฉันไปดูตัวเรียบร้อยแล้ว

ฝ่ายตรงข้ามเรียกได้ว่าแทบสมบูรณ์แบบ ทั้งหน้าตาดี แถมยังเป็นประธานบริษัทจดทะเบียนที่อายุน้อยที่สุดในจังหวัดอีกด้วย

ก่อนออกเดินทาง หัวหน้าหน่วยของฉันยังประสานกับฝ่ายควบคุมการบิน ให้เข้ารหัสข้อมูลส่วนตัวของฉันตลอดเส้นทาง

ฉันไปถึงตามเวลานัด ไม่คิดเลยว่าจะถูกคนหนึ่งกระชากจากด้านหลัง ขณะกำลังเดินผ่านช่องทางพิเศษเช็กอิน

ทันใดนั้น ธนบัตรปึกใหญ่พุ่งใส่หน้าฉันเต็มๆ

“ช่องทางพิเศษนี่ ฉันซื้อแล้ว! เอาเงินไป แล้วไปต่อคิวข้างหลัง!”

ฉันตั้งสติ ถามกลับอย่างใจเย็น

“หนึ่งคุณไม่ใช่ทหาร สองคุณไม่มีเหตุฉุกเฉิน

แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาใช้ช่องทางของฉัน?”

เธอหัวเราะหยันทันที

“สิทธิ์เหรอ? ก็เพราะฉันเป็นเลขาส่วนตัวของคุณพีร์ ประธานบริษัท!”

“อย่าพูดถึงแค่ช่องทางพิเศษเลย ต่อให้เป็นรันเวย์เครื่องบิน ถ้าตระกูลหิรัญพัฒน์อยากได้ ก็ต้องได้!”

ฉันชะงักไปเล็กน้อยก่อนโทรหาตามเบอร์ที่คุณน้าให้ไว้

“ได้ยินเลขาคุณพูดว่า ตระกูลหิรัญพัฒน์มีอำนาจใหญ่จนควบคุมทุกอย่างได้ จริงหรือเปล่า?”

ยังไม่ทันพูดจบ เสียงตอบรับอัตโนมัติก็ดังขึ้น

“สวัสดี ตอนนี้ไม่สะดวกรับสาย…”

ฉันถึงกับอึ้ง

“โห… ยังมีหน้ามาเล่นมุกแบบนี้อีก?”

หญิงสาวได้ยินเสียงว่างสาย รีบคว้ามือถือฉันไปดู

พอเห็นหน้าจอก็หัวเราะเยาะ

“ฉันนึกว่าคุณแน่ขนาดไหน ที่แท้โทรติดแค่กล่องฝากข้อความเสียง?”

“เลขาคุณพีร์ยังโทรไม่ติด แล้วคุณเป็นใครถึงกล้ามาขวางฉัน?”

ว่าแล้วเธอก็โยนมือถือคืนให้ฉัน หันไปขว้างบัตรขึ้นเครื่องให้แอร์สาวที่ยืนตัวสั่น

“รีบตรวจบัตร! ถ้าล่าช้างานที่คุณพีร์มอบหมาย พรุ่งนี้ทั้งทีมพื้นดินของคุณได้โดนไล่ออกแน่!”

แอร์สาวมองหน้าฉันอย่างลำบากใจ ก่อนพูดเสียงสั่น

“คุณเลขาเข็ม ช่องทางพิเศษของผู้โดยสารคนนี้เขาลงทะเบียนไว้จริงค่ะ แต่คุณทำแบบนี้ เราลำบากมาก—”

“ลำบาก?”

หญิงสาวตบโต๊ะดังปัง

“รู้ไหมว่าบริษัทหิรัญพัฒน์กรุ๊ปบริจาคให้สนามบินคุณทุกปีเท่าไหร่?”

“เรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ ต้องให้ฉันโทรตามผู้จัดการสนามบินไหม?”

เห็นเธอใช้อำนาจกดขี่พนักงาน ฉันยิ่งโมโห

ฉันจับแขนเธอที่กำลังชี้หน้าพนักงานแอร์

“คุณรู้ไหมว่ามีใครใช้ช่องทางนี้ได้บ้าง? กล้ามาแย่งสิทธิ์ของฉัน คุณนี่คนแรกเลยนะ”

“โอ๊ย!” เธอกอดท้องทำท่าคล้ายเจ็บ แต่หัวเราะเยาะ

“แค่ใส่ชุดลายพรางแล้วคิดว่าตัวเองเก่ง? หรือกินข้าวกล่องฟรีจนสมองเพี้ยน?”

“แล้วใครให้คุณเรียกฉันว่า ‘เพื่อน’? ฉันเป็นเลขาส่วนตัวประธานบริษัท คุณคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์มาทาบทาม?”

ฉันเกือบหลุดหัวเราะ

เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ฉันนึกว่าจะเจอผู้บริหารระดับสูง ที่แท้แค่เลขาฯ?

คนเริ่มมุงดูแล้ว เสียงซุบซิบดังเข้าหูฉัน

“ผู้หญิงคนนี้บ้ารึเปล่า? เจียงเฉียนเฉียนเป็นคนสำคัญที่สุดของรณพีร์นะ”

“เดือนก่อนมีเจ้าหน้าที่ตรวจความปลอดภัยขอตรวจกระเป๋าเธอ วันรุ่งขึ้นถูกย้ายไปกวาดห้องน้ำเลย!”

ฟังดูรู้เลยว่าอาศัยบารมีข่มคนอื่นประจำ

ทั้งที่ตอนฉันอยู่หน่วยรบพิเศษ แม้แต่หัวหน้ากองยังต้องทักก่อน

แต่เลขาที่หลบหลังผู้ใหญ่ กล้าทำกร่างใส่ฉัน?

ฉันส่ายหน้าแล้วตอบกลับทันที

“ถ้าตระกูลหิรัญพัฒน์ยิ่งใหญ่จริง ทำไมถึงเลี้ยงหมาที่ไร้มารยาทแบบนี้?”

หน้าเข็มอัปสรแดงก่ำทันที

“คุณว่าใครเป็นหมา?! วันนี้ฉันจะสอนคุณเองว่าใครใหญ่กว่า!”

เธอเงื้อมถุงชาแนลจะฟาดหัวฉัน

ฉันหันหลบและบิดข้อมือเธออย่างรวดเร็ว

เสียงกระดูกหลุดดัง กร๊อบ!

ตามด้วยเสียงกรีดร้องลั่น

เมื่อครู่ยังทำหยิ่ง ตอนนี้เด้งเท้าเพราะเจ็บ

“ปล่อย! อ๊าาา! เบาๆ!”

ฉันก้มลงถามด้วยเสียงเย็น

“เจ็บแล้วเหรอ? เมื่อกี้ยังทำเก่งอยู่เลยนี่?”

ถ้าฉันใส่แรงจริง เธอจะไม่มีโอกาสร้องด้วยซ้ำ

พนักงานหลายคนรีบมาควบคุมสถานการณ์

เข็มอัปสรรีบดึงแขนตัวเองกลับ หอบหายใจแรง

“แอ๊บ! เดี๋ยวฉันจะฟ้องคุณพีร์เอง คอยดูว่าประธานจะจัดการคุณยังไง!”

ฉันกอดอก ยิ้มเย็น

“โอเค ฉันจะคอยดู”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel