2
วันนี้ราเมธรู้สึกขัดใจ เพราะรถค่อนข้างติด เนื่องจากออกจากบ้านสายกว่าปกติ ราเมธไปทำงานพร้อมกับน้องสาวคนรองทุกวัน และไปส่งน้องสาวคนเล็กที่มหาวิทยาลัยเป็นประจำ แต่ถ้าเกิดว่าวันไหนมีงานด่วนเขาก็จะให้รามาวดีน้องสาวคนรองไปส่งรตีน้องสาวคนเล็กโดยใช้รถกันคนละคัน แต่ถ้ายุ่งกันทั้งสองคน ก็จะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนรัก ก็คือ ณภัทรนั่นเอง
“วา...เมื่อไหร่ลูกจะไปช่วยพ่อดูแลงานที่บริษัทสักทีล่ะ” คุณวีรยุทธ์คุยกับบุตรชายเพียงคนเดียว หลังจากส่งไปเรียนต่อที่เมืองนอกพร้อมกับลูกสาวคนเล็กคือวาโย วายุเรียนจบ แต่ไม่ยอมกลับบ้านสักที จนต้องเรียกตัวกลับมา ซึ่งวายุก็กลับมาเมืองไทยได้ 2 ปีแล้ว แต่ลูกชายยังเที่ยวเตร่ไม่เลิก ไม่ทำงานทำการอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง จนทำให้เขาหนักใจ
“โธ่...พ่อครับ ขอพักผ่อนอีกนิดนะครับ ผมพร้อมเมื่อไหร่จะเข้าไปทำงานเอง”
“แล้วเมื่อไหร่ลูกถึงจะพร้อม เห็นราเมธเพื่อนเราไหม ทำงานขยันขันแข็งต่างกับเราลิบลับ ธุรกิจครอบครัวเราก็มากมาย เราต้องขยันเหมือนราเมธรู้ไหม ไม่อย่างนั้น ถ้าพ่อไม่อยู่แล้วใครจะดูแลธุรกิจของเราล่ะ”
“โธ่...พ่อครับ พ่อยังแข็งแรง ยังทำงานเก่ง ไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอกครับ” วายุเข้ามากอดบิดาอย่างประจบเช่นเคย คุณวีรยุทธ์ถอนหายใจหนักหน่วง เขารักลูกชายและลูกสาวมาก ตามใจเสียทุกอย่าง ความจริงถ้าเขาหัดให้ลูกชายกับลูกสาวได้ผจญกับความลำบากบ้างก็คงดี จะได้ขยันขันแข็งเอาการเอางานให้มากกว่านี้
ในใจของคุณวีรยุทธ์คิดไปถึงลูกชายของเพื่อนรักอย่างรัฐศาสตร์ ราเมธถึงจะสูญเสียบิดามารดาไปตั้งแต่เพิ่งเรียนจบแต่ราเมธก็ไม่เคยย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค ทั้งขยันและสู้งาน นิสัยเหมือนบิดาอย่างกับพิมพ์เดียวกัน ความมุ่งมั่นที่เขาเห็นนั้นทำให้เขานับถือ ราเมธจึงเป็นนักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรง ที่ใครๆ ก็รู้จักและชื่นชมในความสามารถและความเก่งกาจ ถ้าวายุได้สักครึ่งของราเมธก็คงดีไม่น้อย
“พรุ่งนี้ไปรับน้องสาวเราด้วยที่สนามบิน” คุณวีรยุทธ์บอกลูกชายคนเดียวเสียงเนือยๆ เพราะพูดเรื่องที่จะให้อีกฝ่ายไปทำงานไม่เคยสำเร็จเลยสักครั้งเดียว เขารู้สึกว่าตัวเองตามใจลูกจนเสียคน
“น้องวายจะกลับมาแล้วเหรอครับ” วายุถามบิดาอย่างสงสัย เพราะวาโยน้องสาวของเขา ตั้งแต่บิดาส่งไปเรียนอยู่เมืองนอกและจบมานานแล้ว ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะกลับมา แต่พอคิดมาถึงตอนนี้ ให้อดนึกถึงตัวเองขึ้นมาเสียไม่ได้ เพราะเขาเองไม่ต่างจากน้องสาวสักเท่าไหร่ ถ้าบิดาไม่เรียกตัวกลับมา เขาคงยังไม่คิดจะกลับมาเมืองไทยเช่นกัน
“คุณพ่อเรียกตัวน้องวายกลับมาเหรอครับ” ชายหนุ่มถามบิดาต่อเมื่อเห็นท่านยังเงียบอยู่
“ใช่...แกสองคนสมกันจริงที่เกิดมาเป็นพี่น้องกัน ถ้าพ่อไม่เรียกตัวกลับมาก็ไม่มีใครคิดที่จะกลับมาช่วยพ่อทำงานทำการบ้างเลย” คุณวีรยุทธ์บ่นอย่างเหนื่อยหน่าย แต่ไม่ใคร่จะจริงจังมากนัก
“น้องมาถึงกี่โมงครับ” วายุไม่สนใจเสียงบ่นของบิดาแต่กลับถามว่าน้องสาวจะมาถึงกี่โมง เขาจะได้ไปรับถูก คุณวีรยุทธ์บอกเวลาที่บุตรสาวคนเล็กจะมาถึงประเทศไทยให้ลูกชายฟัง วายุรับคำบิดาก่อนที่เขาจะขอตัวออกไปข้างนอก คุณวีรยุทธ์มองลูกชายอย่างหนักใจ กำลังใช้ความคิดว่าจะทำอย่างไรดีที่จะให้ลูกชายยอมไปทำงานทำการ แต่ข้อสำคัญที่เขาไม่เคยลืมเลือนคือลูกสาวของเพื่อนรักอย่างรัฐศาสตร์ รามาวดีที่เป็นคู่หมั้นของลูกชายตัวดี ถ้าเขาได้รามาวดีมาเป็นลูกสะใภ้ และได้ราเมธมาเป็นเขยเขาคงนอนตายตาหลับ เพราะสองพี่น้องเอางานเอาการ แต่วายุก็ไม่เคยใส่ใจกับคู่หมั้นของตัวเองเลย ตั้งแต่กลับมาจากเมืองนอก และไม่เคยเห็นจะสนใจไปมาหาสู่กับรามาวดีเลย ทั้งๆ ที่เขาอุตส่าห์พยายามพูด พยายามเชียร์ก็ยิ่งเหมือนทำให้วายุต่อต้านมากกว่าเดิม คุณวีรยุทธ์ถอนหายใจอีกครั้ง แต่ในหัวก็คิดแผนการจะให้บุตรชายและบุตรสาวใกล้ชิดกับคู่หมั้นของตัวเองในเร็ววัน จะได้เป็นทองแผ่นเดียวกันสักที