ทั้งสวยทั้งหอม
เขายืนมองเธอเปลือยกายอาบน้ำอยู่ตรงนั้นด้วยความปวดปร่าที่ตรงกลางระหว่างขามันแข็งชันขึ้นมาขั้นสุด ดันกางเกงชิโนสีเบจที่สวมอยู่จนตุงไปหมด
แล้วเธอก็อาบน้ำเสร็จแล้วเช็ดตัวแบบลวก ๆ ก่อนใช้ผ้าขนหนูสีขาวนั้นพันกายเอาไว้ ความยาวของมันเลยเข่า ท่อนบนด้วยความที่หน้าอกอวบอัดเกินหน้าเกินตามันจึงล้นออกมาให้เห็น ก่อนที่เธอจะสาวเท้าออกมานอกห้องน้ำ
แล้วเธอก็ต้องเบิกตาโพลงอย่างตกตะลึงเมื่อมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญยืนอยู่ตรงนั้น
“ ว้าย ! ” เด็กสาวอุทานออกมาคำหนึ่ง สัญชาตญาณทำให้เธอหันหลังอย่างรวดเร็วหมายจะวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้าม แต่เพราะไม่ได้เช็ดตัวเช็ดเท้าให้ดีจึงมีน้ำเกาะพราวอยู่ ทำให้ลื่นเสียหลักแต่แทนที่จะล้มลงบนพื้นก็ไม่ กลายเป็นกระแทกเข้ากับแผงอกกว้าง แขนของเขาเอื้อมมารัดเธอเอาไว้ได้ทัน
มือข้างหนึ่งของเขาเลื่อนขึ้นมาตะปบปากของเธอเอาไว้แล้วกระซิบข้างหูเบา ๆ
“ อย่าร้อง ฉันไม่ได้เป็นผู้ร้าย ” แม้เขาจะพูดเช่นนั้นแต่เธอก็หาฟังไม่ ก็ใครเล่าจะเชื่อได้ง่าย ๆ ในเมื่อจู่ ๆ มีชายคนหนึ่งยืนจังก้าจ้องตาเป๋งในบ้าน ขณะที่เธอสวมเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
แล้วประตูห้องน้ำเปิดไม่ได้ เขาจะเห็นตอนเธออาบน้ำด้วยหรือเปล่านะ
ใจหายวาบ กลัวจนตัวสั่นไปหมด...
“ ฉันจะปล่อยมือจากปากของเธอ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามร้อง ” เธอได้แต่พยักหน้าหงึกหงักไปก่อน เขาจึงค่อย ๆ คลายฝ่ามือออกพลางอธิบาย
“ เธอใช่เด็กตัวเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ที่เป็นหลานของยายแผ้ว ที่เคยไปที่บ้านของฉันหรือเปล่า ”
“ ใช่ค่ะ หนูชื่อแพรไหม ”
“ ฉันชื่อภาคย์ อยู่เรือนหลังใหญ่ท้ายหมู่บ้าน จำได้หรือเปล่า ”
จำได้สิ แม้จะเห็นเพียงอึดใจเดียวเธอก็จำเขาได้ เพราะเขาคือผู้ชายในฝันของเด็กหญิงแพรไหมมาเสมอ แม้ว่าตอนนี้ จากหนุ่มน้อยหน้ามนร่างสูงโปร่งคนนั้นจะดูบึกบึนขึ้น คมเข้มขึ้น แต่เธอก็ยังจำได้เสมอว่าเขาคือคุณอาคนนั้น
“ จำได้ไหม ที่ฉันเคยให้ขนมเธอ ”
เขายังจำมันได้ด้วยหรือ นึกว่าจะเป็นเธอฝ่ายเดียว
“ จำได้ค่ะ ”
“ ฉันพึ่งกลับมาวันนี้ เห็นบ้านช่องสะอาดสะอ้านดีก็เลยอยากจะมาขอบคุณยายของเธอ แล้วก็จะสั่งขนมเพื่อไปทำบุญให้คุณพ่อคุณแม่ที่วัดด้วย ”
“ ยายไม่อยู่บ้านค่ะ ไปธุระ แล้วคุณอาเข้ามาได้ยังไงคะ ” เขาหัวเราะเบา ๆ กับสรรพนามที่เธอใช้เรียก
“ คุณอางั้นเหรอ ก็ได้นะถ้าเธออยากจะเรียกแบบนั้น ”
“ หนูแค่เรียกตามที่คุณนายแม่ของคุณพูด แต่ถ้าคุณไม่ชอบ.. ”
“ จะเรียกฉันยังไงก็ได้ทั้งนั้น ส่วนเรื่องเข้ามาได้ยังไง คำตอบคือประตูบ้านของเธอไม่ได้ล็อก ฉันเรียกแล้วไม่มีใครขานรับเลยละลาบละล้วงเดินเข้ามาโดยพลการ ขอโทษด้วย ” เป็นคำขอโทษที่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้รู้สึกรู้สาอย่างนั้นจริง ๆ เพราะขณะที่พูดขอโทษเขาก็ยังไม่ได้ละวงแขนออกจากตัวเธอ ยังคงรัดไว้แน่น
ที่สำคัญฝ่ามือข้างหนึ่งของเขามันวางอยู่บนเต้านมหนึ่ง เธอจะคิดไปเองหรือเปล่านะ เพราะรู้สึกว่าเขากำลังบีบมันเบา ๆ
ความร้อนระอุจากฝ่ามือหนาแผ่ซ่านผ่านผ้าขนหนูไปสู่เนื้อสาว และเพราะเธอไม่ได้สระผมจึงมัดเกล้ามันไว้เหนือศีรษะ ลำคอระหงจึงเป็นอิสระ ไม่มีสิ่งใดปกคลุมเอาไว้
“ เธอโตขึ้นเยอะเลยนะ แถมยังสวยมากเสียด้วย ทั้งสวยทั้งหอม ”
เขาก้มลงมาใกล้ รู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อน ๆ รินรดลงบนต้นคอ มันใกล้เสียจนเธอคิดว่าริมฝีปากกับจมูกเขากำลังแตะถากลงบนนั้นเวลาที่เขาพูดจากับเธอ มันทำให้เนื้อสาวเต้นเร่า ความรู้สึกประหลาดที่ไม่เจอพบเจอแผ่ซ่าน ใจเต้นแรง ขนลุกไปหมด
แต่หญิงสาวก็พยายามหายใจลึก ๆ เรียกสติให้กลับมา นี่เธออยู่ในบ้านสองต่อสองกับชายหนุ่ม โดยที่ตัวเองมีเพียงผ้าขนหนูพันกายผืนเดียว ที่สำคัญตอนนี้เขากำลังกอดเธออยู่ชนิดเนื้อแนบเนื้อ
ด้านหลังของเธอแนบกับด้านหน้าของเขา รู้สึกถึงอะไรบางอย่างเป็นลิ่มลำมันเบียดสีอยู่กับแก้มก้น