บทย่อ
“แผลที่คอที่จริงต้องติดพลาสเตอร์หน่อย” “ไม่ต้องหรอกค่ะ มีนค่อนข้างรีบน่ะค่ะคุณหมอ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว….” “ให้เขารอสักหน่อยคงไม่ถึงกับตายหรอกมั้งครับ!!” พี่หมอกวินทร์ (หมอขิม) ผู้แสนเย็นชา ปากร้าย จอมซึนตัวพ่อ น้องมินตรา สาวสวย CEO บริษัทออกแบบและตกแต่งภายในชื่อดัง สาวมั่นแห่งยุค เมื่อทั้งคู่มาเจอกันในสถานการณ์ที่เขาเป็นแพทย์เจ้าของไข้ และเธอ คือผู้ป่วยตัวแสบที่จ้องจะกินหมอ แต่ๆๆ....เรื่องไม่ได้ง่ายแบบนั้นเมื่อ.... นางเอกของเรา จีบพระเอกอยู่ดีๆก็ถูกแม่เลี้ยงบุกมาตบถึงห้องพักเลยจ้า โอ้แม่!! แรงมากก จากหมอจอมซึน เย็นชา เธอจะละลายหัวใจหมอกวินทร์ได้หรือไม่ ....... อย่าลืมติดตามกันนะคะ รับรองว่า แซ่บ เผ็ด!! มันส์ เลือดพุ่ง ไม่แพ้คู่อื่นเลยจ้าา...... แอบบอกไว้ก่อนว่าพี่หมอมีบุคลิคขัดแย้งราวกับมี 2 คน ในร่างเดียวนะคะเมื่ออยู่กับแฟน พี่หมอจะเปลี่ยนไป
ตอนที่ 1 อุบัติเหตุรัก
โรงพยาบาล
“เร็วเข้า”
“มีนอย่าพึ่งเป็นอะไรนะมีน”
“ญาติผู้ป่วยรอด้านนอกนะครับ”
“หมอกวินทร์มาหรือยัง”
“คุณหมอมาแล้วครับ”
“คนไข้รู้สึกตัวอยู่ไหม”
“สะลึมสะลือครับ”
“หัวใจเต้นปกติ บาดแผลภายนอก ศีรษะถูกกระทบกระเทือน แผลเปิด เตรียมเย็บแผล”
แสงไฟที่ส่องมากับสายตาคู่นั้นทำเอามินตรา นักออกแบบสาวรู้สึกว่าคุ้นเคยและเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่เธอในตอนนี้ไม่สามารถพูดอะไรได้ เสียงพูดคุยรอบๆค่อยๆเบาลงพร้อมกับสติที่หายไป
มินตราจำได้ว่าพึ่งกลับมาจากงานที่ต่างจังหวัดและขับรถกลับเข้ากรุงเทพฯ รถตู้ส่วนตัวที่เธอนั่งมาเกิดเสียหลักและได้ยินว่าเบรกไม่อยู่เพราะความลื่นของถนนที่ฝนตกหนักทำให้รถนั้นเสียหลักลงข้างทาง และภาพก็ตัดไปทันที
ห้องพิเศษ
“อือ…เจ็บจัง”
“มีน มีนฟื้นแล้ว ริต้าเร็วเข้ารีบตามหมอมา”
มีนค่อยๆลืมตาขึ้นมองไปยังคนที่เข้ามาจ้องเธออยู่
“มีน รู้สึกเป็นยังไงบ้าง”
“แก้ม ทำไมแกมาอยู่นี่”
“เฮ้อ ใจหายใจคว่ำหมด ริต้าโทรไปบอกฉันว่ารถที่แกนั่งมาประสบอุบัติเหตุตกข้างทาง นี่ดีนะที่ไม่เป็นอะไรมาก”
“อืม แล้วงานล่ะ”
“เรียบร้อยดี ได้สัญญามาแล้ว เดือนหน้าก็เริ่มงานได้เลย”
“ค่อยยังชั่วหน่อย ถือว่าไม่ได้เจ็บตัวฟรีละนะ”
“นี่มีน รถแกจู่ๆเบรกมันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไงวะ”
“ตรวจสอบแล้วเหรอ”
“ริต้าตรวจสอบแล้วค่ะ คนขับบอกว่าเบรกไม่อยู่ พอเช็คสภาพรถหลังจากนั้นพบว่า สายเบรกถูกตัดค่ะ”
“เฮ้อ…กะเอาให้ถึงตายเลยเหรอ”
“นี่แกอย่าบอกว่า….”
“ไม่มีหลักฐานก็เอาผิดคนพวกนี้ไม่ได้”
“เลวเกินไปแล้ว นี่แค่เพราะต้องการ…”
“ก๊อก ก๊อก”
เสียงเคาะประตูทำให้ทุกคนหันไปที่ประตูทันที คนที่เดินเข้ามาใหม่เป็นคุณหมอในชุดกาวน์สีขาวดูสะอาดตา ผมสีดำขลับที่รับกับนัยน์ตาสีเข้มที่คุ้นเคยก่อนที่เธอจะสลบไปนั้นทำให้เธอจำเขาได้ในทันที ตอนนี้เขาไม่ได้ใส่แมสแล้ว
“คนไข้ตื่นแล้วเหรอครับ หมอขอตรวจแผลหน่อยนะครับ”
หมอเสียงนุ่มเดินเข้ามาพร้อมกับรับแฟ้มมาจากพยาบาล เขามองหน้าเธอแวบหนึ่งก่อนจะหันไปเช็คสายน้ำเกลือและตรวจเช็คที่แฟ้มนั้น แก้มเดินออกจากห้องไปเพราะมีสายเข้าพอดี
ตอนนี้เหลือเพียงมินตราและคุณหมอหนุ่มตรงหน้าแค่สองคน เธอเบิกตากว้าง เธอจำเขาได้แล้ว แม้ว่าตอนนี้เธอจะรู้สึกมึนหัวอยู่ก็ตาม …เขานั่นเอง
“ตื่นแล้วรู้สึกปวดศีรษะไหมครับ”
“เอ่อ…ยังรู้สึกมึนๆอยู่นิดหน่อยค่ะ”
“มองเห็นชัดไหมครับ”
“ค่ะ”
“รู้สึกวิงเวียนหรือว่ารู้สึกว่าพื้นเอียง โลกหมุนบ้างไหมครับ”
“ไม่นะคะ ปกติดีค่ะ แต่ว่า…แต่ ทำไมตอนนี้….”
มีนเริ่มรู้สึกว่าหมอขยับร่างได้ และรู้สึกถึงของเหลวบางอย่างที่ไหลออกมาจากจมูก และสติเธอก็วูบไปอีกครั้ง เธอได้ทันเห็นสีหน้าตกใจของคุณหมอตรงหน้า ก่อนที่จะล้มลงบนอะไรสักอย่างนุ่มๆ
สองชั่วโมงถัดมา
มินตราฟื้นขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับเสียงพูดคุยที่เธอฟังไม่ถนัด ตาเธอค่อยๆกะพริบและค่อยๆลืมตาขึ้น
“โอยย…”
“อย่าพึ่งขยับตัวนะครับ เดี๋ยวหมอจะเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ก่อน”
มินตรายังหยีตามองไปที่เขา ซึ่งตอนนี้เอาแมสมาสวมอีกแล้วแต่เธอจำสายตาเขาได้ดี เขาดูไม่ต่างไปจากเมื่อห้าปีที่แล้วเลยสักนิด รุ่นพี่คณะแพทย์ศาสตร์ พ่วงตำแหน่งเดือนของมหาวิทยาลัยที่มียอดโหวตสูงที่สุดนับตั้งแต่มีนเข้ามาเรียน จนเรียนจบก็ไม่เคยมีใครล้มสถิติของเขาได้ ไม่นึกว่าจะได้พบเขาอีกครั้ง
“เอ่อ คนไข้ยิ้มอะไรครับ”
มินตราเผลอยิ้มให้กับความหลังครั้งที่ยังเรียนอยู่ ที่เธอมักจะแอบเดินผ่านไปที่คณะของเขาและแอบมอง เธอเรียนคณะสถาปัตยกรรมซึ่งไม่ได้อยู่ใกล้คณะของเขา แต่เป็นทางผ่านที่จะกลับไปยังหอพักเธอจึงมีโอกาสพบเขาบ่อยๆ และยังพบเขาที่หอสมุดบ่อยๆ ฉากที่ทำให้เธอถึงกับตัดใจนั้นยังจำได้ดี
“ตั้งใจเรียนดีกว่านะครับ ผมเห็นว่าคุณเป็นรุ่นน้องของผมถึงไม่อยากพูดแรงๆ ที่นี่คือมหาวิทยาลัย มีให้เรียนหนังสือไม่ใช่มาหาแฟน หากไม่อยากเรียนหรือเอาแต่มองผู้ชายก็เลิกเรียนไปดีกว่า อ้อ แล้วไม่ต้องมาทักผมอีกเพราะผมจะจำคุณไม่ได้แล้ว และไม่อยากคุยด้วย มันไร้สาระ ขอตัว”
คำพูดที่เขาปฏิเสธเพื่อนในคณะซึ่งเขาคิดว่าเป็นรุ่นน้องทั้งๆที่พวกเขาเรียนในคลาสเดียวกันในคณะแพทย์ทำเอาคนที่แอบฟังอย่างมินตราหน้าชาไปครึ่งแถบเลยทีเดียว ไม่คิดว่าคนที่หล่อราวพ่อเทพบุตรเวลาพูดออกมาจะตรงและรุนแรงจนทำให้คนฟังแทบจะตายได้ จำได้ว่าผู้หญิงคนนั้นนั่งร้องไห้จนหอสมุดจะปิดเพราะเสียใจที่ถูกปฏิเสธแรงๆแบบนั้น (เธอคงมั่นใจแหละว่าสวยน่ะ)
“หมอคะ ฉันเป็น…อะไรไปคะ”
“น่าจะเพราะกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจากอุบัติเหตุ ทำให้เลือดกำเดาไหลครับ ตอนนี้หยุดแล้ว แต่ว่ายังต้องนอนราบอยู่อย่าพึ่งลุกขึ้น หมอขอดูอาการสักพัก”
“อีกนานไหมคะ คือ…”
“คนไข้เป็นอะไรครับ”
“คือว่า….มีน…”
เธอหันไปมองรอบข้างซึ่งไม่มีเพื่อนของเธออยู่เลยสักคน มีแต่เขากับเธอ หมอกวินทร์มองหน้าเธอ ใบหน้านี้แหละใช่เลย ใบหน้าพ่อเทพบุตรที่จ้องมาที่เธอด้วยความสงสัยจนเธอต้องพูดออกไป
“มีนปวด…มีนอยากเข้าห้องน้ำค่ะ”
“อ้อ …เอ่อ…ถ้างั้นรอสักครู่นะครับ”
“คุณหมอเรียก…พยาบาลมาช่วยมีนก็ได้ค่ะ”
“คือว่า ไม่เป็นไรครับ รอเดี๋ยวนะ หมอจะปรับเตียงให้”
เขาค่อยๆปรับเตียงให้เธอลุกขึ้น มีนพยายามลุกขึ้นแต่เขาใช้มือกดเธอลงและรีบดึงมือกลับทันทีเพราะมือเขา…เกือบจะชนหน้าอกเธอเข้าแล้ว
“เอ่อ…อย่าพึ่งลุกเร็ว คุณยังไม่หายดี หมอช่วยนะครับ”
มีนหลับตาเพราะความอาย ทำไมต้องปวดฉี่ตอนนี้ ต่อหน้าเขาด้วย แล้วทำไมริต้ากับแก้มไม่อยู่เลยสักคนในตอนนี้
“หมอช่วยพยุงนะครับ”
“ไม่ต้องค่ะไม่ต้อง มีนไหวค่ะ”
เธอพยายามลุกขึ้นและพาตัวเองเข้าห้องน้ำโดยเร็วที่สุดเพื่อจะหลบหน้าเขา เธอทำธุระจนเสร็จและเดินออกมาก็เห็นว่าเขายืนอยู่ที่เดิมและเขียนอะไรบางอย่างที่แฟ้มโดยไม่ได้สนใจเธอ
“หมอคะ มีนจะออกจากโรงพยาบาลได้วันไหนคะ”
"คงอีกสามถึงสี่วันครับ"
“นานขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“คนไข้มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ไม่มีอะไรค่ะ”
“ครับ ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง”
“ก็ยังชอบอยู่”
“ครับ??”
“อ่อ ไม่ใช่ค่ะ คือ หมายถึง ยังมึนอยู่นิดหน่อยแต่ไม่เท่าเมื่อเช้าแล้วค่ะ”
“ครับ ผลการสแกนที่ศีรษะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง บาดแผลภายนอกไม่นานก็หาย อาการแทรกซ้อนไม่มีอะไรมาก เหลือแค่แผลที่หน้าผากถ้าแห้งแล้วและไม่เจ็บ อีกสามวันก็น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ครับ คนไข้ครับ เอ่อคุณ…มินตราครับ”
“คะรุ่นพี่ขิม ว่ายังไงนะคะ”
“ครับ?? คุณเรียกผมว่า…”
มินตราเผลอเรียกชื่อเขาเพราะตกใจที่เขาเรียกชื่อเธอ เธอไม่ทันตั้งตัวพร้อมกับหันไปมองเขาพร้อมกับยิ้มแห้งๆให้
“คุณรู้จักผม??”
“ไม่..ไม่ใช่ค่ะ ได้..ได้ยินพยาบาลเรียกเมื่อคืนค่ะ”
เขาไม่ตอบอะไรเธออีก แต่ก็ขีดๆเขียนๆอะไรบางอย่างด้วยความเร็วและรีบเดินออกจากห้องไปเลยโดยที่ไม่ได้แจ้งอะไรมินตราอีก เมื่อเขาเดินออกไปมินตราถึงกับทำหน้าไม่ถูก
“อะไรของเขาละเนี่ย”