เกริ่นนำ
เกริ่นนำ
@ประเทศญี่ปุ่น
“สายของเรารายงานว่าไอ้ใหญ่มันหนีไปประเทศไทยแล้วครับ”
มาเฟียหนุ่มที่อยู่ในชุดสูทสีดำยืนหันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกมาจนมันคละคลุ้งเต็มห้อง สายตาคมเหลือบมองไปบนท้องฟ้า แววตาของเขากลับว่างเปล่าจนไม่มีใครสามารถอ่านความคิดของเขาได้
ซักพักเขาทิ้งบุหรี่ลงพื้น รองเท้าหนังราคาแพงเหยียบมันจนแหลกละเอียด ก่อนจะหันหน้ามาหาลูกน้องที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นไม้ปาเก้
“หึ” มุมปากหนาแสยะยิ้ม “คิดว่าไปมุดหัวอยู่ที่ประเทศไทยแล้วกูจะไม่มีปัญญาตามไปเจอหรอ”
“ผมให้นักสืบที่ไทยช่วยตามให้แล้วครับ”
“ดีมาก เอามันมาตัวเป็นๆ” กรามหนาขบแน่นด้วยความโกรธแค้น
“แต่นักสืบของเรารายงานว่า ไอ้ใหญ่มันไปแค่คนเดียว แต่ไม่ได้เอาน้องสาวมันไปด้วย”
“น้องสาว?” คิ้วเข้มขมวดด้วยความแปลกใจ
“ใช่ครับ น้องสาวแท้ๆ ของมันชื่อยาหยี ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ร้านดอกไม้ในกรุงเกียวโตครับ”
“แต่ตอนที่มันเขียนใบสมัครงาน มันไม่ได้ระบุว่ามีน้องสาว”
“ตามรายงาน ไอ้ใหญ่มันเป็นคนหวงน้องสาวครับ แทบไม่มีใครรู้ว่ามันมีน้องสาว”
“เหอะ หนีไปคนเดียวแต่ไม่เอาน้องสาวไปด้วย แบบนี้ก็เข้าทาง” มุมปากหนากระตุกยิ้มอีกรอบ
“จะให้ผมเอาตัวน้องสาวมันมาไหมครับ”
“...” มาเฟียหนุ่มสูงพ่นลมหายใจ ก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบอีกมวน “ถ้าเป็นของที่มันรักก็เอามา ดูซิถ้าน้องสาวมันหายไป มันจะตามหาไหม”
ดวงตาคมฉายแววเคียดเแค้นก่อนที่ม่านตาสีดำข้างในจะแปรเปลี่ยนเป็นกองไฟ พร้อมแผดเผาคนที่กล้าลองดีกับเขา มือหนากำหมัดแน่นจนเส้นเลือดที่แขนปูดนูนออกมา
“มึงกับกูได้เห็นดีกันแน่!”
@Welove flower
“อื้อหือ ยาหยีจัดช่อดอกไม้ได้สวยมากเลยอ่ะ” มิกะเพื่อนที่ทำงานเอ่ยปากชมคนตัวเล็กที่กำลังวุ่นกับการจัดดอกไม้
“หยีก็จัดแบบนี้ทุกวันนะ ทำไมวันนี้พึ่งมาชม” ร่างบางพูดติดตลก ก่อนจะนำดอกกุหลาบไปเสียบที่แจกัน
“ก็ทุกวันไม่ได้สังเกตุนี่นา ว่าแต่ช่อนี้เป็นของใครหรอ” มิกะชี้ไปที่ดอกไม้ช่อโตที่วางอยู่บนเค้าท์เตอร์
“ของคุณอีเดนน่ะ ท่านจะซื้อไปฝากภรรยาของท่าน”
“คุณอีเดนนี่เป็นผู้ชายอบอุ่นจังเลยเนาะ ขนาดแต่งงานกันไปนานแล้วยังไม่หยุดหวานอีก”
“เราต้องทำทุกวันให้เป็นวันแห่งความรักนะ ต้องมีอะไรตื่นเต้นตลอดเวลามันถึงจะไม่น่าเบื่อ”
“พูดแบบนี้แสดงว่ายาหยีกำลังมีความรักรึป่าว” มิกะแซวแต่อีกคนกลับหัวเราะ
“หยีจะมีแฟนได้ยังไง พี่ใหญ่หวงซะขนาดนี้ ฮ่าๆๆๆ ~”
“พี่ใหญ่นี่ก็เหลือเกิน ไม่อยากมีน้องเขยรึไง”
“อาจจะเป็นเพราะตอนนี้เหลือกันแค่สองคน พี่ใหญ่ก็เลยห่วงหยีเป็นพิเศษ” ดวงตากลมโตฉายแววเศร้าลงทันทีเมื่อนึกถึงความหลัง
พอพ่อกับแม่เสียก็ย้ายมาอยู่ที่ญี่ปุ่นกับพี่ชายทันที โชคดีที่เรียนจบเอกภาษาญี่ปุ่นมาจึงสามารถสื่อสารกับคนที่นี่ได้ ส่วนพี่ชายของเธอทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นนานหลายปีแล้ว เขาเป็นคนหวงน้องสาวมาก เพราะเธอเป็นคนที่อ่อนต่อโลกและไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคน
“น้องสาวสวยใครๆ ก็ต้องหวงเป็นธรรมดาแหละ” มิกะรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีเมื่อเห็นแววตาเศร้าของอีกคน “แต่ถ้าจะให้ดี ให้ฉันไปเป็นพี่สะไภ้ก็ดีนะ”
“พี่ใหญ่ไม่สนใจใครหรอกวันๆ ทำแต่งาน”
“พูดแบบนี้ฉันก็อดน่ะสิ” มิกะมุ่ยหน้า
“ถ้าอยากได้ก็จีบสิ”
“แต่หยีต้องเปิดทางนะ”
“ฉันเปิดตลอดไม่เคยปิด แต่ไม่มีใครสามารถเข้าไปในใจพี่ใหญ่ได้ซักคน”
“งั้นฉันจะเป็นคนแรก”
สองสาวหัวเราะร่าอย่างชอบใจก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน บ้านของยาหยีอยู่ไม่ใกลจากร้านเท่าไหร่ เธอจึงเลือกที่จะเดินเท้าเพราะมันสะดวกกว่า พอย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นเธอต้องปรับตัวหลายอย่างมากเพราะที่นี่นิยมเดินมากกว่าใช้รถ
อีกทั้งเธอเองก็ไม่ค่อยมีเพื่อนเพราะพึ่งย้ายมาอยู่แค่ไม่กี่ปี นอกจากมิกะกับพี่ๆ ในร้านดอกไม้แล้วก็ไม่รู้จักกับใครอีกเลย เพราะพี่ชายของเธอไม่อนุญาตให้ออกไปไหน ทำงานเสร็จก็กลับบ้านชีวิตของเธอวนลูปอย่างอย่างนี้มาเป็นเวลาเกือบจะ 2 ปีแล้ว
พี่ชายของเธอค่อนข้างที่จะหวงเธอมากชนิดที่ไม่ให้ไปไหน เพราะเธอเองเป็นคนอ่อนต่อโลกกลัวจะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคน แต่...ทว่าตอนนี้คนเป็นพี่กลับหนีไปอยู่ที่ประเทศไทยจนขาดการติดต่อไปหลายวัน เธอเป็นห่วงพี่ชายมากแต่ก็เชื่อว่าพี่ใหญ่เป็นคนเก่งสามารถเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์
“พี่ต้องกลับไปอยู่ไทยซักพัก เพราะพวกนั้นมันกำลังตามตัวพี่ หยีอยู่ที่นี่ดูแลตัวเองดีๆ นะ ถ้าพี่ยังอยู่ที่นี่หยีจะไม่ปลอดภัย พี่จำเป็นต้องไป”
“ฮึก...แล้วพี่ใหญ่จะไปนานไหมคะ”
“ไม่นานหรอก พี่สัญญาว่าจะกลับมารับหยี รอพี่อยู่ที่นี่นะ”
เธอไม่รู้ว่าตอนนี้พี่ชายของเธอจะเป็นตายร้ายดีเช่นไร เรื่องจะไม่เกิดถ้าไม่หลวมตัวไปทำงานกับมาเฟียทำให้ไปพัวพันกับความลับขององค์กรจนต้องถูกตามล่าหนีหัวซุกหัวซน ภาวะนาให้เรื่องจบเร็วๆ เพื่อรอวันที่พี่ชายมารับ
“อุ๊บ!”