บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4

“นั่นนายจะไปไหนน่ะแม็ก”

ลีโอนาโดที่กำลังนัวเนียกับสองสาวข้างกายอยู่รีบเอ่ยถามเพื่อนรัก เมื่อเห็นแม็กซิมัสลุกขึ้น

“ไปห้องน้ำ”

“ให้ดาวไปด้วยนะคะ”

“ไม่เป็นไร ผมไปคนเดียวได้”

“แต่คุณแม็กเมาแล้วนะคะ ให้ดาวช่วยประคองไปเถอะค่ะ นะคะ จะได้ไม่หลงทางไงคะ” ประกายดาวลุกขึ้น เกาะท่อนแขนกำยำของแม็กซิมัสแจเลยทีเดียว

“นั่นสิ ที่นี่คนเยอะ ให้น้องประกายดาวพาไปเถอะ”

แม้จะเบื่อหน่ายประกายดาวเต็มทน แต่ก็ไม่อยากขัดใจเพื่อน ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ และพยักหน้ารับ

ประกายดาวยิ้มกว้างกระดี๊กระด๊าดีใจออกหน้าออกตา “งั้นมาทางนี้เลยค่ะ”

ลีโอนาโดมองเพื่อนรักออกไปจากห้องวีโอพีแล้วก็หันไปนัวเนียกับสองสาวข้างกายต่อโดยไม่สนใจอะไรอีก

“เลี้ยวซ้ายค่ะ” ประกายดาวรีบบอกทาง

แม็กซิมัสเลี้ยวซ้ายตามคำบอก แต่เพราะนักท่องราตรีเยอะมากทำให้เขาชนกับคนอื่นมั่วไปหมด แต่วินาทีนั้นไม่มีใครสนใจใครหรอก ทุกคนเข้าใจว่าสถานที่มันจำกัด

ไม่นานก็เดินออกมาถึงห้องน้ำ “คุณรอผมอยู่แถวนี้เถอะครับ ผมเข้าห้องน้ำนาน หรือจะกลับไปก่อนก็ได้นะครับ”

“คุณแม็กแน่ใจนะคะว่าไม่อยากให้ดาวเข้าไปบริการในนั้นน่ะ”

แม็กซิมัสหรี่ตาแคบมอง “ผมเข้าใจความหมายของคุณ แต่ผมไม่ต้องการ ขอตัวไปทำธุระส่วนตัวครับ”

ชายหนุ่มเดินจากไปแล้ว ประกายดาวมองตามไปและบ่นอย่างโมโห

“ทำเป็นเล่นตัว เดี๋ยวจะเลียให้ล้มเชียว”

ประกายดาวบ่นกระปอดกระแปด ก่อนจะเดินออกไปสูบบุหรี่ที่ทางเดินไม่ไกลจากห้องน้ำนัก

แม็กซิมัสไม่ได้เข้าห้องน้ำ แต่เขาเลือกที่จะเดินหายออกไปอีกทาง การที่มีประกายดาวติดแจทำให้เขาเบื่อหน่าย

ชายหนุ่มเดินออกมายังด้านข้างของสถานบริการ หลับตาลงและสูดอากาศบริสุทธิ์ที่หาไม่ได้จากด้านในเข้าไปเต็มปอด แม้เขาจะดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปหลายแก้ว แต่เขาคอแข็งกว่าลีโอนาโด แค่นี้ก็แค่มึนๆ เท่านั้นแหละ

ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนแรกในรอบสามปีที่เขามีโอกาสได้เงยหน้ามองดวงดาวแบบเต็มๆ ตาเช่นนี้ อิสรภาพที่ถูกกักขังมานานหลายปีทำให้โหยหาเหลือเกิน

ร่างสูงเกินกว่าหกฟุตขยับยืนพิงต้นไม้ใกล้ๆ สองมือยกขึ้นกอดอก เสื้อเชิ้ตสีเขียวขี้ม้ากลืนหายไปในความมืด พุ่มไม้ประดับรอบตัวกลายเป็นเงาตะคุ่มในสายตา

ลมหายใจถูกผ่อนออกมาจากลำคอและริมฝีปากบางเฉียบ สิ่งที่ค้างคารอสะสางทำให้จิตใจของเขาไม่สงบ

เสียงฝีเท้าหนักๆ ของกลุ่มคนดังขึ้นไม่ไกล เขาหันไปมอง พยายามเพ่งมองแต่ก็มองไม่ชัด

“แกจะพาน้องนางฟ้าไปกินตับที่ไหนวะไอ้จัก”

จักหรือ?

คิ้วดกหนาของแม็กซิมัสเลิกสูงขึ้นด้วยความคุ้นเคยกับชื่อที่ได้ยิน และถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แต่เขาก็อดที่จะสนใจไม่ได้

“ม่านรูดสิวะเพื่อน”

“ให้ฉันกับไอ้วุฒิตามไปกินด้วยไม่ได้จริงๆ เหรอ”

“ไม่ๆ ๆ แกสองคนต้องรอจนกว่าฉันจะเอาน้องเดือนจนเบื่อก่อน ถึงจะถึงคิวพวกแก”

“ไอ้จักมึงใจแคบว่ะ”

“กูลงทุนกับนังเดือนไปเยอะกว่าจะมีโอกาสได้ฟัน พวกมึงก็รอๆ ไปก่อน กูจะพยายามไม่ให้ช้ำก็แล้วกัน”

“เออๆ ๆ แล้วอย่าลืมถ่ายคลิปมาให้พวกกูดูบ้างนะ จะเอาไว้ไปชักว่าวน่ะ”

“อืม”

จักรินมองร่างไร้สติของเดือนกันยาในอ้อมแขนด้วยสายตาหื่นกระหาย

“กูจะจัดให้สามสี่คลิปเลยมึง”

“ดี งั้นมึงรีบพาน้องนางฟ้าไปขึ้นสวรรค์เลย แล้วอย่าลืมส่งคลิปมาล่ะ กูจะรอ”

“กูไม่ลืมหรอกโว้ย พวกมึงกลับได้แล้ว” จักรินเอ่ยไล่เพื่อนของตัวเองอย่างรำคาญ

“พอพวกกูหมดประโยชน์มึงก็ไล่ส่งเชียวนะไอ้จัก รู้แบบนี้ไม่วางยาน้องนางฟ้าให้ก็ดีหรอก”

วางยาหรือ?

จากที่เคยคิดว่าไม่สมควรจะยุ่ง ตอนนี้ความคิดของแม็กซิมัสเปลี่ยนไปเสียแล้ว หากผู้หญิงคนที่ไม่ได้สติคนนั้นถูกวางยา ก็แสดงว่าหล่อนไม่ได้เต็มใจ ดังนั้นเขาก็ไม่ควรจะอยู่นิ่งเฉย

“กูก็เลี้ยงเหล้ามึงตอบแทนแล้วไง ไปๆ ได้แล้ว กูจะไปขึ้นสวรรค์”

“เออ งั้นพวกกูไปละ”

ไอ้เพื่อนสองคนแยกตัวไปแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแต่จักรินที่อุ้มเดือนกันยาเพียงคนเดียวเท่านั้น

แม็กซิมัสขยับตัวอย่างระมัดระวังที่สุด เพื่อไม่ให้ผู้ชายที่เขามองหน้าไม่ชัดเห็น

“น้องเดือน...คืนนี้หนีพี่ไม่รอดแน่”

จักรินรีบอุ้มร่างของเดือนกันยาไปวางในรถ และขับออกไปด้วยความเร็ว

แม็กซิมัสรีบวิ่งไปที่หน้าสถานบันเทิง และสั่งให้รถแท็กซี่รีบขับตามไปทันที

รถเก๋งคันงามของจักรินเลี้ยวเข้าไปจอดในโรงแรมม่านรูดที่ใกล้กับสถานบันเทิงที่สุด

“ให้ผมช่วยอุ้มคุณผู้หญิงไหมครับ” พนักงานรูดม่านรีบเสนอหน้ามาสอบถามเพราะต้องการทิป

“อย่าเสือก ฉันจัดการเองได้”

“ครับ” พนักงานหน้าเจื่อนและรีบถอยออกไป

จักรินอุ้มร่างของเดือนกันยาที่ไม่มีสติออกจากรถ เดินตรงไปยังห้องที่เปิดประตูรออยู่

“แล้วห้ามให้ใครมากวนฉัน เข้าใจไหม”

พนักงานยิ้มกริ่มด้วยความดีใจที่จักรินยื่นแบงก์ร้อยให้ “ครับผม ขอบคุณครับ”

จักรินอุ้มเดือนกันยาหายเข้าไปภายในห้องแล้ว แม็กซิมัสเพิ่งจะมาถึง เขารีบวิ่งเปิดม่านหาผู้ชายคนนั้นที่เขารู้เพียงว่าชื่อจัก

“เมื่อกี้มีผู้ชายพาผู้หญิงไม่ได้สติเข้ามา สองคนนั้นอยู่ห้องไหน”

“ไม่ทราบครับ”

“งั้นนายก็จะติดคุกไปด้วย เพราะผู้ชายคนนั้นลักพาตัวเมียฉันมา”

พนักงานเริ่มหน้าเสีย

“จริงหรือครับ”

“ใช่ นายอาจจะติดคุก ข้อหาสมรู้ร่วมคิด”

แม็กซิมัสขู่เพิ่ม

“ผม...ผมไม่รู้ไม่เห็นด้วยนะครับ ผู้ชายคนนั้นพามาเอง”

“งั้นก็รีบบอกว่าห้องไหน เร็วเข้า”

ด้วยความหวาดกลัวทำให้พนักงานจำต้องชี้ไปยังห้องที่จักรินอุ้มเดือนกันยาเข้าไป

“ห้องนั้นครับ”

แม็กซิมัสมองตามนิ้วของพนักงานไป “หมดหน้าที่นายแล้ว จะไปไหนก็ไป”

“เอ่อ...ไม่ให้ผมไปช่วยหรือครับ”

“ฉันคนเดียวก็เหลือเฟือแล้วล่ะ”

ชายหนุ่มก้าวตรงไปยังห้องเป้าหมาย

ภายในห้องจักรินวางร่างของเดือนกันยาที่ถูกวางยานอนหลับลงบนเตียง จากนั้นก็ยืนมองร่างอรชรด้วยสายตาหื่นกระหาย

“วันนี้...พี่จะกินให้หนำใจเชียวน้องเดือนคนสวย”

จักรินปลดกระดุมเสื้อออกและสลัดทิ้ง ก่อนจะกระโจนขึ้นไปบนเตียง

“พี่รู้...น้องเดือนยังซิง”

ชายหนุ่มไล้นิ้วมือไปตามแก้วนวลใสของเดือนกันยาพลางมองอย่างลุ่มหลง

“พี่จักคนนี้จะเป็นคนเปิดบริสุทธิ์น้องเดือนเอง”

เสียงหัวเราะของจักรินเต็มไปด้วยความพึงพอใจ กระดุมเม็ดที่ใกล้ลำคอระหงที่สุดถูกปลด

มือของจักรินสั่นเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น เขารอคอยที่จะได้ครอบครองเดือนกันยามานาน แต่ก็พลาดทุกรอบเพราะหญิงสาวระวังตัว แต่ครั้งนี้เขาทำสำเร็จ

“พรุ่งนี้เช้า น้องเดือนก็จะไม่ขัดใจพี่จักคนนี้อีก”

ใบหน้าเกือบจะหล่อของจักรินโน้มลงไปหา จรดปลายจมูกลงบนแก้มนวล

“แค่แก้มยังหอมขนาดนี้ แล้วที่อื่นล่ะ”

จักรินอดใจไม่ไหวอีกแล้ว เขากระชากสาบเสื้อของเดือนกันยาแรงๆ จนกระดุมสามเม็ดบนกระเด็นไปคนละทิศละทาง

เสื้อซับสีขาวสะอาดคือปราการด่านต่อไป แต่มันก็บางเกินกว่าจะปกปิดลวดลายของบราเซียร์ที่เดือนกันยาใส่ได้ มือของจักรินยกขึ้นกำลังจะแตะลงไปบนก้อนเนื้อสงวน แต่ประตูห้องถูกเคาะแรงๆ เสียก่อน

“ใครวะ”

“ผมเองครับ”

จักรินเข้าใจว่าเป็นพนักงาน

“กูสั่งมึงแล้วไงว่าอย่ามารบกวน กูจะขึ้นสวรรค์”

“พอดีมีเหล้าอภินันท์จากทางโรงแรมมามอบให้น่ะครับ”

“กูไม่เอา มึงไสหัวไปเลย แล้วอย่ามารบกวนกูอีก”

“ดื่มแล้ว เวลาขึ้นสวรรค์จะสนุกกว่าตอนไม่ได้ดื่มนะครับ”

จักรินชะงักลังเล ก่อนจะหลงกล “ไอ้นี่แม่งน่ารำคาญ” เขาก้าวลงจากเตียง เดินไปกระชากประตูให้เปิดออก

“ส่งมา...”

จักรินพูดได้แค่นั้นคำอื่นๆ ก็ชะงักติดแหง็กอยู่ที่ลำคอทั้งหมด ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างเมื่อเห็นผู้ชายที่ยืนอยู่หลังบานประตูเต็มสองตา

“พี่...พี่แม็ก...!”

ไม่ใช่แค่จักรินคนเดียวหรอกที่ตกใจ เพราะแม็กซิมัสเองก็ตกใจไม่ต่างกันเลย เมื่อไอ้ผู้ชายชื่อจักที่เขาไล่ตามมาคือน้องชายต่างมารดาของตนเอง

“เป็นนายไปได้ยังไง จักริน?”

จักรินต้องรวบรวมสตินานเลยทีเดียวกว่าจะสามารถพูดคำอื่นออกมาได้

“พี่แม็กออกจากคุกมาได้ยังไง หรือว่าแหกคุกออกมา”

แม็กซิมัสแค่นยิ้มหยัน มองน้องชายด้วยสายตาดุดัน จนจักรินต้องหลบสายตา

“คุกไม่ได้มีไว้ขังฉัน นายก็รู้อยู่เต็มอกนี่ จักริน”

“เอ่อ...ผมไม่รู้”

แม็กซิมัสส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ก่อนจะมองข้ามศีรษะของจักรินที่ตัวเล็กกว่าเขาเกือบฟุตไปยังเตียงสีขาวสะอาดกลางห้อง ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งนอนหลับสนิทอยู่

“ครั้งนั้นนายรอดคุก แต่ครั้งนี้นายอาจไม่รอดนะจักริน ถ้านายยังไม่รีบออกไปจากที่นี่ซะ”

“ผม...ผมจะนอนกับแฟนมันผิดตรงไหนล่ะครับ”

“แฟน? แล้วทำไมต้องมอมยา”

“พี่แม็กรู้”

จักรินตกใจ หน้าตาซีดเผือด เขาไม่เคยชอบขี้หน้าแม็กซิมัส แถมยังเกลียดชังอีกต่างหาก เกลียดตามที่มารดาสั่งสอน แต่เขาไม่กล้าพอที่จะปะทะกับพี่ชายต่างมารดาคนนี้สักครั้ง

“ออกไปจากที่นี่ซะ ไปก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจแจ้งตำรวจ”

จักรินหันไปมองเดือนกันยาที่นอนอยู่บนเตียงอย่างเสียดาย แต่ก็ไม่กล้าหือกับพี่ชาย

“ผมไปก็ได้ แต่พี่แม็กห้ามแตะต้องผู้หญิงของผมเด็ดขาด เพราะผมกับเธอกำลังจะแต่งงานกัน”

แม็กซิมัสไม่ได้ให้คำตอบ เขายิ้มหยันน้อยๆ ที่มุมปาก และนั่นก็ยิ่งทำให้จักรินไม่พอใจ

“ถ้าพี่แม็กแตะต้องเดือนกันยา ผมคนนี้แหละจะส่งพี่แม็กกลับเข้าไปในคุกอีกครั้ง”

“เดือนกันยา?”

แม็กซิมัสชะงัก

จะมีผู้หญิงสักกี่คนนะที่ใช้ชื่อนี้

หัวใจของแม็กซิมัสกระตุกแรงจนร่างใหญ่สั่นไหวเลยทีเดียว หล่อนอาจจะเป็นผู้หญิงคนนั้น

ชายหนุ่มถลาเข้าไปหยุดที่เตียง จ้องมองผู้หญิงที่นอนหลับใหลเพราะฤทธิ์ยาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง เขาจดจำหล่อนได้ จดจำหล่อนได้เป็นอย่างดี สองมือข้างลำตัวกำแน่นเป็นหมัด กรามแกร่งที่เต็มไปด้วยหนวดเคราขบจนเป็นสันนูน เขาหันมาจ้องหน้าน้องชายด้วยสายตาลุกเป็นไฟ

“นายไม่มีสิทธิ์แตะต้องเธอ ไอ้จักริน!”

เปรี้ยง!

กำปั้นของแม็กซิมัสกระแทกเข้าเต็มเบ้าตาของจักริน ร่างของผู้เป็นน้องกระเด็นหงายหลังล้มลงไปกับพื้นอย่างหมดสภาพ แม็กซิมัสตามเข้าไปจะต่อยอีก แต่จักรินร้องขอเสียก่อน

“พี่แม็ก...อย่าทำผม...ผมน้องชายของพี่นะ พี่แม็กอย่า...”

กำปั้นที่กำลังจะซัดลงบนใบหน้าของจักรินอีกครั้งชะงักค้างอยู่กลางอากาศ

จักรินมองหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะโทสะของพี่ชายต่างมารดาด้วยความหวาดกลัว เขาไม่เคยเห็นแม็กซิมัสเกรี้ยวกราดขนาดนี้มาก่อนเลย และไม่ว่าเขาจะทำอะไรให้แม็กซิมัสเดือดร้อนแค่ไหน แม็กซิมัสก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายของเขา แต่ครั้งนี้...มันเพราะอะไร?

“ไปให้พ้น! ไปสิไอ้จักริน!”

แม้จะเสียดายในตัวของเดือนกันยา แต่ชีวิตของเขาสำคัญกว่า จักรินรีบลุกขึ้นและวิ่งออกไปอย่างไม่คิดชีวิตเลยทีเดียว

แม็กซิมัสค่อยๆ หมุนตัวกลับมามองหญิงสาวที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงอีกครั้ง มองด้วยความรู้สึกมากมายที่ยากจะอธิบายออกมาได้ นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้มองหล่อนเช่นนี้

ร่างสูงทรุดลงนั่งบนขอบเตียง และก็ไม่ลืมที่จะตวัดผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างเกือบเปลือยให้กับหล่อน

หลังกลับจากเรียนต่อที่อเมริกาเขาก็แอบตามเดือนกันยาเงียบๆ โดยที่หญิงสาวไม่รู้ตัว ตามอยู่นานจนกระทั่งกำลังจะเดินเข้าไปหาและสารภาพว่าตัวเองเป็นใคร แต่โชคร้ายที่ต้องติดคุกเสียก่อน

ดวงตาคมกวาดมองไปตามดวงหน้าสวยหวานของนางฟ้าในหัวใจด้วยความชื่นชม เขายังจดจำดวงตากลมโตสีดำขลับเป็นประกายสดใสนั้นได้เป็นอย่างดี แค่ได้จองมองหัวใจแห้งแล้งของเขาก็ชุ่มฉ่ำราวกับได้รับหยาดฝน

“เดือนกันยา...”

แม็กซิมัสไล้แก้มนวลด้วยนิ้วมือใหญ่แผ่วเบา ผิวของหล่อนเนียนนุ่มน่าสัมผัส เขาหัวใจเต้นแรงจนต้องรีบชักมือกลับมา ไม่มีผู้ชายคนไหนไม่ชอบผิวที่เนียนนุ่มแบบนี้หรอก และก็ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะปล่อยโอกาสแบบนี้ให้หลุดรอดเงื้อมมือไป แต่ไม่ใช่กับเขา

“เธอจะปลอดภัย เดือนกันยา”

แม้จะบอกตัวเองให้ละสายตาจากดวงหน้างามสักแค่ไหน แต่สายตาเจ้ากรรมกลับไม่เชื่อฟังเลย จากแก้มนวลตอนนี้มันเลื่อนไปหยุดนิ่งอยู่ที่ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อของเดือนกันยาเสียแล้ว

ความรู้สึกบางอย่างที่ขาดหายไปนานทำให้เขาอึดอัดจนต้องขยับขาออกกว้าง ไม่เคยมีริมฝีปากของผู้หญิงคนไหนน่าหลงใหลชวนให้จุมพิตอย่างนี้มาก่อนเลย

สมองที่ไม่ค่อยหมกมุ่นกับเรื่องทางเพศนัก ยามนี้ดื้อดึงสุดจะควบคุม ตัณหาราคะที่พยายามเก็บซ่อนเอาไว้ทำให้เขาอึดอัดและปวดร้าว เขาไม่เคยมีความรู้สึกทางเพศกับผู้หญิงคนไหนมากมายขนาดนี้มาก่อนเลย ต้องการหล่อนจนตัวร้อนผ่าวเจียนระเบิด

“บ้าฉิบ”

ขากำยำตวัดลงจากเตียงและถอยออกห่างอย่างรวดเร็ว หากยิ่งอยู่นาน เขาอาจจะทำอะไรบ้าๆ ลงไป แต่เมื่อเดินถึงประตู กลับฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

หากจักรินย้อนกลับมาอีกจะทำยังไง เดือนกันยาจะไม่ปลอดภัย ใช่ เขายอมให้หล่อนเสี่ยงอีกไม่ได้

ในที่สุดก็ต้องถอยหลังกลับมา และแม้จะรู้ว่ามันคือหายนะกับการที่เหลือบตามองเดือนกันยาอีกครั้ง แต่เขาก็ทำมันลงไปเสียแล้ว

แม็กซิมัสรู้สึกคล้ายกับถูกมนตร์สะกด ความต้านทานต่อเสน่ห์นางของเดือนกันยาสลายหายไปจนหมดสิ้น เขาก้าวมาหยุดที่เตียงอีกครั้ง โน้มตัวลงมาหา

ริมฝีปากอิ่มเต็มสีสวยของหญิงสาวช่างยั่วยวนให้คลั่งเหลือเกิน เขาควรจะถอยออกห่าง ควรยับยั้งความปรารถนาที่อัดแน่นอยู่ล้นอกให้ได้ หรือถ้าทำไม่ได้ก็ควรจะไสหัวไปจากห้องนี้ซะ แต่สิ่งที่เขากระทำกลับตรงข้ามกับสิ่งดีๆ ที่สมองสั่งเหลือเกิน

ฝ่ามือของเขาโอบประคองใบหน้าสวยหวานเอาไว้ ก่อนที่ริมฝีปากแห้งผากของเขาจะแนบชิดลงไปหา จูบหวานแฝงไปด้วยความหิวกระหายคลั่งไคล้ อนุสติร้องเตือนว่าเขาควรจะหยุดได้แล้ว แต่ริมฝีปากของเดือนกันยาหวานเหลือเกิน และเขาก็ติดใจจนไม่อาจจะผละหนีออกมาได้ รสจูบเริ่มเข้มข้นขึ้น จากแตะแผ่วเบาเปลี่ยนเป็นบดขยี้ด้วยความลืมตัว นิ้วแกร่งตรึงที่ปลายคางมนของสาวไร้สติ ความหิวกระหายผลักดันให้เขาล้วงลิ้นเข้าไปภายในอุ้งปากของหล่อน

โอ้...มันคือสวรรค์ชัดๆ

แม้ว่าเดือนกันยาจะไม่ได้ตอบสนองเลย แต่รสชาติจากอุ้งปากสาวช่างหวานหอมชวนให้คลั่งเสียเหลือเกิน สติที่เคยฉุดรั้งเอาไว้แตกซ่าน ปากกระด้างบดแนบแน่นลงกับกลีบปากนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความหิวกระหายดุดัน และเขายังจะจูบหล่อนจนปากช้ำไปข้างเลยทีเดียว หากเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือไม่กรีดร้องขึ้นเสียก่อน

แม็กซิมัสถอนจุมพิตและสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะล้วงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดรับ

“ว่าไงลีโอ”

“นายหายหัวไปไหนแม็ก ฉันนั่งรอนายมาจะครบชั่วโมงแล้วนะโว้ย”

เสียงอ้อแอ้เมามายของลีโอนาโดดังมาตามสาย

“ไม่ต้องรอฉันหรอก นายกลับไปเถอะ”

แม็กซิมัสพยายามรวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงของตัวเองให้ได้มากที่สุด แต่ลีโอนาโดที่ถึงจะเมาก็ยังจับพิรุธได้

“นั่นนายกำลังอยู่กับผู้หญิงใช่ไหมเนี่ย เสียงพร่าเชียว”

“ไม่ใช่” แม็กซิมัสรีบปฏิเสธ “ฉัน...ฉันอยู่ในวัดน่ะ”

“วัด?”

ลีโอนาโดทวนคำพูดของเพื่อนรัก ก่อนจะหัวเราะร่วนอย่างรู้ทัน

“โอเค งั้นฉันไม่กวนนายแล้วก็ได้ พรุ่งนี้เจอกัน อ้อ แล้วอย่าปิดเครื่องหนีนะโว้ย”

“ฉันไม่ทำอย่างนั้นหรอก แค่นี้นะ”

“เดี๋ยวๆ นี่รู้ไหมว่าน้องประกายดาวโกรธนายขนาดไหน”

แม็กซิมัสไม่ตอบ และตัดสายทิ้งทันที

“ขอบใจนายนะลีโอ ขอบใจมากที่โทรมาหาฉันตอนนี้”

ชายหนุ่มลนลานถอยออกห่างจากเตียง สีหน้าเต็มไปด้วยความสำนึกผิด

“พี่ขอโทษนะเดือนกันยา...พี่ไม่ควรฉวยโอกาสทั้งๆ ที่เธอไร้สติ”

แม็กซิมัสขยับตัวไปทรุดนั่งบนโซฟาริมห้อง พลางมองร่างอรชรของเดือนกันยาอีกครั้งอย่างตัดใจ

“เธอจะปลอดภัย...ทั้งจากคนอื่น รวมถึงพี่ด้วย”

เขาหลับตาลงช้าๆ พยายามห้ามปรามความคิดของตัวเอง แต่ความร้อนชุ่มฉ่ำจากอุ้งปากของเดือนกันยาก่อกวนจนแทบเป็นบ้า เขาต้องขยับตัวไปมา พลิกซ้ายขวาไม่รู้กี่ตลบกว่าจะสามารถข่มตาให้หลับลงได้ แต่กระนั้นในฝัน เดือนกันยาก็ยังไม่วายตามเข้าไปหลอกหลอน

หรือบางทีเขาควรจะสละคำว่าสุภาพบุรุษทิ้งไปซะและสวมคราบคนเถื่อนดูสักครั้งดีนะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel