Ep 6 ตามหลอกหลอน
Ep 6 ตามหลอกหลอน
@ผับหรูใจกลางกรุงโตเกียว
มายูเดินสะบัดผมเข้ามาในผับภายใต้ใบหน้าสวยเฉี่ยวอันบูดบึ้ง ทันทีที่เธอปรากฏตัวมีเสียงฮือฮาเกิดขึ้น เพราะชุดเดรสที่มายูใส่นั้นสั้นชนิดที่เกือบเห็นแก้มก้นเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังโชว์หน้าอกหน้าใจทำเอาผู้ชายในผับถึงกับน้ำลายไหล
แต่มันคือเป็นเรื่องปกติสำหรับมายู เพราะเธอเป็นคนแซ่บ ใบหน้าเฉี่ยว บวกกับริมฝีปากเล็กเจ่อธรรมชาติ ดูรวมๆมายูเป็นคนเซ็กซี่มาก ไม่ว่าจะใส่ชุดไหนก็ดูดีไปหมด รูปร่างผอมเพรียว แต่มีก้นกับหน้าอก
ผู้ชายในผับรู้ดีว่าลูกสาวอดีตมาเฟียเบอร์หนึ่งเย้อหยิ่งแค่ไหน เข้าสโลแกนสวยเริดเชิ่ดหยิ่ง จึงไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าจีบเธอถึงแม้มายูจะเป็นคนสวยมากก็ตาม
“ใครไปทำให้แม่เสือสาวอารมณ์เสียเนี่ย” เพื่อนในโต๊ะพูดขึ้นหลังเห็นมายูเดินหน้าบึ้งเข้ามากระแทกสะโพกลงบนโซฟาหรู
โซนที่มายูนั่งเป็นโซนวีไอพีสำหรับผู้มีอันจะกิน มายูกับกลุ่มเพื่อนเป็นลูกค้าขาประจำของผับแห่งนี้เลยก็ว่าได้ เพราะมันเป็นผับที่ไฮโซที่สุดในโตเกียว
“เบื่อหมาจรจัด! ” หมาจรจัดที่มายูว่านั่นก็คือคริส
“ไม่เอาน่า อย่าหน้าบึ้ง” เอริรินรีบเหล้าส่งให้มายูทันที “อ่ะๆ หมดแก้วๆ”
มายูยกเหล้าพรวดเดียวจนหมดแก้ว แต่ใบหน้าของเธอยังคงบูดบึ้ง จนเพื่อนในโต๊ะแอบกระซิบกันว่าใครทำให้แม่เสือสาวอารมณ์เสีย
“เอะ นั่นมันเพื่อนสมัยเรียนอนุบาลนิ” อาคิโกะชี้ไปยังชายหนุ่มร่างสูงโปร่งคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาในโซนวีไอพี
รูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างเอเชียกับตะวันตก มันทำให้เขาดูโดดเด่นมากที่สุดในผับ จนผู้หญิงต่างมองตาเป็นมัน
“ไหนๆ” เอริชะเง้อคอมองไปที่ชายหนุ่มในมุมที่มีแสงสลัวๆ “ใช่จริงๆด้วย หายไปตั้งหลายปีไม่คิดว่าโตมาจะหล่อขนาดนี้”
เอริมองด้วยสายตาเป็นประกาย เพราะชายหนุ่มรูปงามคนนั้นเตะตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เขาคือเพื่อนสมัยเรียนอนุบาลนั้นเอง
มายูไม่ได้สนใจแต่อย่างใดเพราะในตอนนี้สมองพาลไปนึกถึงแต่เรื่องเมื่อวันก่อนที่เธอเสียความบริสุทธิ์ให้คริส ต่อให้เธอเป็นคนเข้มแข็งและร้ายกาจเพียงใดแต่ลึกๆแล้วก็แอบเสียใจอยู่เหมือนกัน
มายูหยิบเหล้าขึ้นมากระดกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนไม่ทันสังเกตว่ามีสายตาคมคู่หนึ่งมองด้วยความไม่สบอารมณ์
“เราเดินเข้าไปทักทายดีไหม อย่างน้อยเขาก็น่าจะจำเราได้” อาคิโกะเสนอ
“จะดีหรอ ดูสายตาของเขาสิ” เอริรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ เพราะผู้ชายคนนั้นมองมาที่โต๊ะของเธอบ่อยๆ แถมสายตาที่มองมานั้นมันคือสายตาแห่งความไม่พอใจ ราวกับว่ามีเรื่องกับคนในโต๊ะ
“ใครจะทำอะไรเราได้ อย่าลืมสิว่ามายูอยู่นี่ทั้งคน” แต่คนที่โดนพูดถึงกลับไม่ได้ยินในสิ่งที่เพื่อนกำลังคุยกัน “เฮ้ มายู! ”
“ฮ๊ะ! ” มายูสะดุ้งหลุดจากภวังค์ ขนาดมาดื่มเหล้ายอมใจสมองของเธอกลับวนคิดแต่เรื่องเดิมๆซ้ำๆ
“ฉันเจอเพื่อนสมัยเรียนอนุบาลด้วยแหละ”
“ไหนๆ”
“นั่นไง” อาคิโกะชี้ไปยังจุดที่ผู้ชายคนดังกล่าวยืนอยู่ แต่ทว่ากลับเจอเพียงความว่างเปล่า “อ่าว หายไปไหนละ”
“ตาฝากรึปล่าว”
“ไม่ได้ตาฝาก ฉันกับเอริเห็นเขาจริงๆ แต่จำชื่อเขาไม่ได้”
“ใช่ๆ ฉันเห็นจริงๆนะ” เอริเสริม
“ฉันว่าเธอสองคนเมาจนตาลายมากกว่า”
“เธอก็รู้เวลาที่ฉันเล็งผู้ชายฉันไม่เคยพลาด” อาคิโกะจิ้ปากพรางใช้ความคิด “เอ...เขาชื่ออะไรนะ เหมือนฉันคิดออกแต่มันติดอยู่ที่ปลายลิ้น”
“ฉันก็พยายามนึกแล้วเหมือนกัน แต่ก็จำไม่ได้ รู้แค่ว่าเป็นลูกครึ่ง” คำบอกเล่าของเอริทำเอาอีกคนที่กำลังกระดกเหล้าถึงกับสำลัก
“แค่กๆๆๆ เธอว่าอะไรนะ! ” มายูรีบวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะทันที
“ก็เพื่อนในห้องที่เป็นลูกครึ่งไง” เอริกับอาคิโกะแปลกใจเมื่อเห็นอาการแปลกๆของมายู
“...” มายูบีบแก้วเหล้าจนมันแทบแตกคามือพรางขบกรามแน่น
ต้องใช่มันแน่ๆ ไอ้คริสแน่ๆ!
“เป็นอะไรรึปล่าว” เอริถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าไม่ดีของมายู
“ไม่มีอะไร ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” มายูกระแทกแก้วเหล้าลงบนโต๊ะด้วยความไม่สบอารมณ์แล้วลุกปึงปังไปเข้าห้องน้ำทันที ทิ้งให้เพื่อนสองคนนั่งงงเป็นไก่ตาแตก
“นี่มันวันซวยอะไรของฉันเนี่ย! ” มายูเดินกระแทกส้นเท้าเข้าไปในห้องน้ำเพื่อหาที่สงบสติอารมณ์
อุตส่าหนีมาถึงร้านเหล้าแต่ไอ้คริสยังตามมาหลอกหลอน ชาติที่แล้วไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้นะ!
ในขณะที่หญิงสาวกำลังยืนสงบสติอยู่หน้ากระจกนั้น เธอไม่ทันสังเกตว่าตอนนี้ในห้องน้ำไม่มีใครเลย จู่ๆมีมือปริศนาผลักประตูห้องน้ำเข้ามาแล้วจัดการล็อคกลอนข้างในทันที