แรงกว่านี้อีกนะคะ
“ แกนี่ผิดปกติทางจิตนะเนี่ยนิดา ความคิดลบแบบนี้จะยิ่งทำให้ลดทอนความมั่นใจในตัวเองลงเยอะ แกต้องคิดใหม่ เปลี่ยนตัวเองใหม่ เริ่มที่ผม การแต่งตัว เสื้อผ้าก่อน ”
“ เออ ๆ เอาเหอะ ค่อยซื้อทีหลังก็ได้ ให้ทำงานได้เงินก่อน ค่อยว่ากัน ” ฉันรีบตัดบทเพราะไม่อยากให้เธอพูดเรื่องนี้ต่อ เธอพยักหน้า
“ เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะไปบอกกับผู้จัดการร้าน แล้วพรุ่งนี้แกก็เตรียมตัวไปได้เลย ”
“ พรุ่งนี้เลยเหรอวะแก ฉันยังไม่พร้อมเลย ”
“ อยากได้ไหมเงินน่ะ ” ฉันพยักหน้า
“ ถ้าอยากได้ก็ต้องพร้อมเสมอ ไม่มีอะไรน่ากลัว งานสบาย เงินดี ทิปดี แถมเจ้าของผับ โคตรหล่อเลยแก น่ากินมาก ”
นางเอ่ยแล้วพร่ำเพ้ออะไรอีกหลายอย่างเกี่ยวกับอีตาบอสเจ้าของผับอะไรนี่แหละ แต่ฉันไม่ได้ฟัง เพราะในหัวฉันเฝ้าคิดคำนวณถึงรายได้ที่จะเข้ามาแล้วจะได้เจียดส่งไปให้พ่อกับแม่ที่บ้านบ้าง แค่นั้นฉันก็มีความสุขแล้ว
และแล้ววันเริ่มงานที่ผับวันแรกก็มาถึง
ผับแห่งนี้ชื่อว่า ปาปิยอง ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจในเมืองหลวง แค่เฟิร์นพาฉันเดินเข้าไปด้านใน ร่างกายอวบ ๆ ของฉันก็หดเกร็งลงมาก ความหรูหราของมันทำให้ใจฉันเต้นตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ฉันเกาะแขนเฟิร์นไว้แน่น เหมือนเธอจะรู้เลยหันมายิ้มให้กำลังใจ
“ ไม่ต้องกลัวนะแก ฉันอยู่ข้าง ๆ ”
ฉันเลยส่งยิ้มกลับไปเพื่อเป็นการขอบคุณ
เฟิร์นพาฉันไปสวัสดีผู้จัดการร้านซึ่งเป็นผู้ชายร่างสูงใหญ่ลำบึ้ก ชื่อ พี่ชาตรี แต่การพูดและการเคลื่อนไหวร่างกายอรชรอ้อนแอ้นยิ่งกว่าผู้หญิงหลายเท่าตัว ใช่ เธอเป็นสาวสองที่ใจดีมาก
“ สวัสดีจ้าน้องนิดา เดี๋ยวไปเปลี่ยนชุดนะ ไม่ต้องกลัว มีอะไรมาถามพี่หรือเพื่อน ๆ ทุกคนได้ ”
แล้วเธอก็แนะนำฉันกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นเด็กเสิร์ฟด้วยกันอีกราวห้าหกคน เป็นผู้หญิงนักศึกษากันทั้งหมด
เฟิร์นพาฉันไปเปลี่ยนชุดในห้องพนักงาน ซึ่งเป็นเชิ้ต แขนยาวสีขาวค่อนข้างจะรัดรูปพอสมควรกับกระโปรงทรงเอยาวประมาณหัวเข่า มีเน็คไทเล็ก ๆ สีดำผู้ตรงกลาง ฉันสวมเสร็จก็ไม่กล้าออกมาเพราะไม่มั่นใจในสรีระตัวเองเลย
“ เฮ้ยแก เสร็จหรือยังเนี่ย นานไปหรือเปล่า เดี๋ยวต้องเข้างานแล้ว ” เฟิร์นส่งเสียงเร่ง
“ แก ฉันว่ามันรัดไป ฉันไม่กล้าเดินหรอก น่าเกลียด ”
“ ไหนออกมาให้ฉันดูซิ เร็ว อย่าลีลาแก เดี๋ยวคนอื่นว่าอู้งานอีก ” ฉันเลยจำต้องเปิดประตูออกไป เฟิร์นมองฉันอย่างตะลึงอยู่พักหนึ่งแล้วจับตัวฉันหมุน
“ ว้าว น่าเกลียดที่ไหนวะ แกโคตรเซ็กซี่เลยนิดา สะบึมจริง ๆ ”
“ แต่ฉันว่า.. ”
“ พอ ๆ เลิกเถียง ไปทำงานกัน ฉันจะสอน ”
ฉันเลยจำต้องเดินกระมิดกระเมี้ยนตามเฟิร์นออกไปทำงานทันที
แขกของที่นี่ส่วนมากจะเป็นผู้ดีมีเงินและค่อนข้างสุภาพ เป็นฝรั่งและไฮโซ ไม่ก็ดาราที่ฉันเคยเห็นในโทรทัศน์ ตอนแรกก็กล้า ๆ กลัว ๆ แต่ผ่านไปสามสี่ชั่วโมงฉันก็หายเกร็งและสามารถทำงานได้อย่างสบายใจ ที่สำคัญตอนนี้ฉันได้ทิปมาสองร้อยบาทแล้วด้วยสิ นั่นเป็นแรงขับเคลื่อนให้ฉันทำงานอย่างมีความสุขที่สุด
ประมาณเกือบตีหนึ่ง แขกเริ่มซา ฉันปวดฉี่จึงขออนุญาตมาเข้าห้องน้ำ ฉันเลือกห้องในสุด ขณะทำธุระเสร็จกดชักโครกเรียบร้อย กำลังจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางอยู่นั้น ฉันก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังมาจากด้านนอก
“ อ้า เอริคขา ใจเย็น ๆ ซี่ อู้ว ”
“ ทำไมล่ะ คุณอยากให้ผมหยุดเหรอ ”
“ ซี้ด อ้า ไม่ค่ะ ชาช่าไม่อยากให้หยุด แต่กลัวคนมาเห็น ”
“ กลัวคนมาเห็น กับกลัวไม่ได้มันส์ คุณกลัวอันไหนมากกว่ากัน ”
“ อ๊า ที่รัก ซี้ด กลัวอันหลังมากกว่าค่ะ ถ้าอย่างนั้นแรงกว่านี้อีกนะคะ ” เสียงครางซี้ดซ้าดและออดอ้อนวอนขอกระเส่า
ฉันตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าขยับ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ ถึงแม้ฉันจะไม่เคยผ่านเรื่องพรรค์นี้มาก่อนแต่ก็พอจะเคยเห็นในหนังฝรั่งมาบ้าง เสียงแบบนี้ใช่แน่ ๆ มีคนกำลังทำอย่างว่ากันอยู่ แต่จะมาทำอะไรเวลานี้ ในสถานที่แบบนี้วะ นี่มันห้องน้ำ เป็นที่สาธารณะ แล้วฉันจะกล้าออกไปทำงานได้ยังไงเนี่ย
ไหนว่าแขกที่นี่ผู้ลากมากดีมีคุณภาพ ไหงมาทำแบบนี้กันตรงอ่างล้างหน้าในห้องน้ำวะ เข้าไปในห้องน้ำสักนิดมันจะเสียเวลามากนักหรือไง