ไม่จริง !
ไปสิ วิ่งหนีไปแก้ว เดี๋ยวถูกจับได้นะ
เด็กสาวบอกตัวเอง
ทว่าแปลกนักทั้งที่คิดว่ามันคือสิ่งที่น่าละอาย แต่ขากลับไม่ยอมก้าวไปไหน ดวงตากลมโตยังตรึงอยู่ที่ภาพเบื้องหน้า หัวใจกระแทกอกซ้ายเร็วแรง
ได้ยินเสียงครางต่ำแหบห้าวออกมาจากลำคอชายคนนั้นราวทรมานหนักเหลือเกิน
จู่ ๆ เขาก็เอื้อมมือไปขยุ้มผมบนศีรษะของผู้หญิงที่ดูดกินแก่นกายใหญ่ของตนเอาไว้ แล้วเป็นฝ่ายควบคุมเกมโดยดึงศีรษะของเธอเข้าหาตัว ริมฝีปากเจ้าหล่อนขยับเข้าออกเป็นจังหวะ เหมือนมันยังไม่สาแก่ใจ เขายังขยับสวนเข้าใส่ปากเธอทุกครั้งในจังหวะที่ดึงศีรษะเธอเข้าหา
มีเสียงอ๊อกแอ๊กอึกอักเล็ดลอดมาจากปากผู้หญิงคนนั้นคล้ายกับว่าหายใจไม่สะดวก แต่ชายคนนั้นก็ไม่สงสาร เขายังกระทั้นบั้นเด้าให้เจ้าดุ้นใหญ่ยาวนั้นให้เข้าลึก แอ่นกระแทกแรงขึ้นเร็วขึ้นจนกระทั่งเธอสำลัก !
แม้ว่าเธอจะพยายามดันท่อนขากำยำออก แต่มือใหญ่ยังขยุ้มเส้นผมของเธอเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้
บ้าเอ๊ย คนใจร้าย เธอจะตายไหมนะ !?
“ เฮ้ย ! ” แก้วกานดาหลุดปากออกไปด้วยความตกใจ แว้บหนึ่งเธอคิดว่าฝ่ายชายน่าจะได้ยินเพราะเขาชะงักแต่ก็ไม่ได้หันมาแต่อย่างใดและยังคงปฏิบัติกิจกรรมนั้นอย่างต่อเนื่อง
ไปเถอะแก้ว ไปจากตรงนี้เสียที
เธอบอกตัวเองอีกครั้ง แต่ความอยากรู้อยากเห็นมันวิ่งนำความถูกต้อง ไหน ๆ พวกเขาก็ไม่เห็น เธอก็อยากรู้ว่าสิ่งเหล่านี้มันจะจบยังไง อีกอย่างหาโอกาสได้ที่ไหนเล่าที่จะได้เห็นจากของจริงในระยะใกล้ถึงเพียงนี้
ชายคนนั้นขยุ้มศีรษะเธอแน่นเข้า กระทุ้งลำเอ็นกับปากเล็กถี่กระชั้น เธอได้ยินเสียงเขาคำรามลั่นก่อนเกร็งตัวนิ่งอยู่กับปากของฝ่ายหญิงที่ดูดปากกับเครื่องเพศของอีกฝ่ายจนแก้มตอบ
เขาค้างนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนหันหน้ามามองที่ตรงนั้น ตรงที่เธอยืนอยู่ !
เด็กสาวสะดุ้งเฮือก ถอยหลังกรูดแล้ววิ่งอย่างเร็วจี๋ออกจากที่นั่นทันที !
เมื่อถึงเรือนพักเธอก็พุ่งเข้าไปขดตัวในผ้าห่ม โชคดีที่ครูรุ่งรัตน์หลับลึกไม่รู้สึกตัว ไม่อย่างนั้นคงต้องตอบคำถามกันยกใหญ่
หัวใจของเธอยังเต้นระส่ำ มันกระแทกแรงเสียจนเธอกลัวมันจะทะลุออกมานอกอก
ผู้ชายคนนั้นเขาเห็นเธอ แม้เธอจะไม่เห็นใบหน้า ไม่เห็นดวงตา แต่เขาก็หันมาทางที่เธอยืนอยู่ !
เขาเป็นใคร คุณหมอดุจตะวันหรือเปล่านะ ?
บ้านหลังใหญ่ขนาดนั้นเขาคงไม่อยู่คนเดียวหรอก น่าจะมีคนอื่น ๆ อยู่ด้วย ในจดหมายเขาไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวอะไรให้ฟังแม้แต่นิด รู้ก็แต่เขาเป็นกุมารแพทย์ มีแต่เธอที่เขียนเล่าเรื่องของตัวเองได้เป็นวรรคเป็นเวร
แต่เท่าที่ได้อ่านลายมือเป็นระเบียบ ถ้อยคำที่เรียงร้อยแล้วส่งกลับแม้จะไม่ถึงครึ่งหน้ากระดาษแต่ก็สัมผัสได้ถึงความใจดี มีเมตตา
หรือว่าเธอจะคิดไปเอง แท้จริงเขาอาจจะไม่ใช่คนดีอย่างที่เธอคิดก็ได้
ไม่หรอก ไม่มีทางที่หมอดุจตะวันคนดีของเธอจะทำอะไรแบบนั้น เขาเป็นผู้ใหญ่ใจดี เขาไม่ใช่คนแบบนั้นแน่ ๆ !
นอนคิดกลับไปกลับมาอยู่เนิ่นนาน เรียกความทรงจำครั้งแรกที่ได้พบกันระยะประชิด ได้สบตา แม้ไม่ได้เห็นใบหน้าแต่ก็จำได้ว่าคุณหมอตัวสูงใหญ่ รูปร่างพอ ๆ กับผู้ชายคนเมื่อครู่
ไม่จริง !
เธอถกเถียงกับตัวเองอยู่ในใจ ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบกล่องสมบัติส่วนตัว เป็นกล่องคุ้กกี้สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่คุณครูรุ่งรัตน์ให้เป็นของขวัญปีใหม่เมื่อปีกลายออกมาเปิด
จดหมายสิบสองฉบับเรียงรายอยู่ในนั้น เธอเริ่มต้นจดหมายฉบับแรกด้วยอยากขอบคุณเขา โดยส่งไปที่อยู่ที่โรงพยาบาล เขาตอบกลับมาสั้น ๆ ว่ายินดีเป็นยิ่งนักที่ได้ช่วยเหลือเด็กดีอย่างเธอ
...ฉันดีใจที่ได้รับจดหมายจากเธอ เล่าเรื่องของเธอให้ฉันฟังบ้างนะหนูน้อย...
นั่นคือถ้อยคำที่ชโลมจิตใจเด็กสาวเหลือเกิน เธอตัดสินใจเขียนจดหมายหาคุณหมอเดือนละครั้งเพื่อเล่าเรื่องทุกอย่างที่เป็นไปในชีวิต ไม่กล้าเขียนถี่กว่านั้นเพราะเกรงว่าจะเป็นการรบกวนเวลาทำงานของท่าน
ส่วนด้านล่างสุดที่วางบนพื้นกล่องเป็นเสื้อกาวน์สีขาวสะอาดตาที่เขาคลุมมันมาบนตัวเธอในวันนั้น เธอบรรจงพับเอาไว้แถมยังใส่ถุงอีกหนึ่งชั้นเพราะกลัวทำมันเปื้อน มือเรียวไล้ไปบนลายปักเป็นชื่อเจ้าของเสื้ออย่างแผ่วเบาทะนุถนอม
นพ.ดุจตะวัน ภควัตโชติกุล