ตอนที่ 8 เพื่อนรัก
ช่วงเย็นหลังกลับจากโรงเรียน แพรวาก็ขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านเพื่ออาบน้ำแต่งตัว ค่ำวันนี้เธอมีนัดรวมตัวกับกลุ่มเพื่อนสาวในงานเลี้ยงรุ่นที่มหาวิทยาลัยจัดขึ้น
หญิงสาวอาบน้ำเสร็จก็มายืนอยู่หน้ากระจก หยิบครีมบำรุงผิวหน้า โลชั่น และอื่นๆ ตามลำดับมาชโลมไปยังส่วนต่างๆ ของเรือนร่างตามสรรพคุณของครีม จากนั้นก็เริ่มแต่งหน้าทำผม แล้วก็เดินเข้าไปหยิบชุดสูตที่เป็นเซ็ตกระโปรงสีฟ้าความยาวกลางหน้าขา ด้านบนเป็นเสื้อสายเดี่ยวสีขาวลายลูกไม้ทั่วทั้งตัว และสวมทับด้วยเสื้อสูตสีฟ้าเข้ากับชุด ก่อนจะออกจากบ้านก็เลือกหยิบรองเท้าส้นสูงคู่ใจมาสวมใส่ แล้วก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังงานเลี้ยงรุ่นที่ถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
ภายในงานวันนี้เต็มไปด้วยดอกกุหลาบที่ถูกประดับอยู่ทั่วทุกมุมงาน และงานเลี้ยงก็ได้ถูกจัดขึ้นที่หอประชุมของมหาวิทยาลัยชื่อดังที่เธอเคยเรียน เหล่าบรรดาศิษย์เก่าต่างพากันทยอยเดินเข้างาน รวมทั้งตัวของเธอด้วยที่กำลังเดินมองหากลุ่มเพื่อนที่มาถึงก่อนหน้าแล้ว
“แพรวาทางนี้” เสียงของคัพเค้กดังขึ้นพร้อมกับยกมือขึ้นส่งสัญญาณ
แพรวามองตามเสียงที่ดังเข้าหู ก็เห็นกลุ่มเพื่อนสาวต่างก็มาถึงกันพร้อมหน้า จึงเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ว่างด้านข้างคัพเค้กพร้อมกับยกยิ้มให้เพื่อนรักทั้งสี่คนอย่างคิดถึง เพราะแต่ละคนต่างก็อยู่ในวัยทำงาน จึงไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนตอนสมัยยังเรียนอยู่
ด้วยดีกรีที่สาวๆ ทุกคนในกลุ่มต่างก็เป็นถึงดาวของแต่ละคณะ คงไม่ต้องบอกว่าออร่าความสวยของแต่ละคนจะขนาดไหน แต่เห็นสวยๆ แบบนี้ก็ใช่ว่าเรื่องของความรักและการใช้ชีวิตจะสวยงามเสมือนหน้าตาเสมอไป เพราะหลังจากที่ได้ทักทายพูดคุยกันไปแล้วพอประมาณ ก็มาถึงการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของช่วงที่ไม่ได้เจอหน้ากัน และก็พบว่ากลุ่มเพื่อนสาวต่างก็กำลังประสบกับปัญหาด้วยกันทั้งนั้น
พราวมุก เพื่อนรักที่เป็นถึงศัลยแพทย์ชื่อดังและเจ้าของคลินิกความงามก็กำลังทุกข์ใจกับเรื่องสามี เพราะทั้งคู่แต่งงานกันด้วยความจำเป็น
คัพเค้ก เจ้าของร้านคาเฟก็กำลังร้อนใจกับการการดำเนินธุรกิจที่ไม่ได้เป็นดั่งใจหวัง เพราะธุรกิจไม่ได้ให้ผลกำไรอย่างที่คิด หรืออาจจะเรียกว่าใกล้เจ๊งเลยก็ว่าได้
น้ำตาล เซลล์คลินิกศัลยกรรมที่หลงรักรุ่นพี่ผู้ซึ่งเป็นหมอเจ้าของคลินิกมานาน แต่ก็ไม่สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ไปได้มากกว่านี้
ส่วนเพื่อนรักอย่างอังก็เผลอไปนอนกับหุ้นส่วนของร้านที่มาใหม่ และเขาก็ยังกลายมาเพื่อนพี่ชายของเธออีกต่างหาก
และปัญหาของอังดูจะคล้ายกับปัญหาของแพรวาราวกับถอดเรื่องกันมา เพราะทั้งคู่ต่างก็มีอะไรกับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
แพรวาดูชั่งใจเมื่อเพื่อนต่างหันมาถามว่าชีวิตช่วงนี้ของเธอเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็ต้องคิดหนักเมื่อภาพในคืนนั้นประเดประดังเข้ามาในหัว แม้ว่าจะจำฉากเร่าร้อนในคืนนั้นไม่ได้ แต่คำพูดที่เธอตอบรับเขานั้นยังจำได้ไม่เคยลืม
“เรื่องงานสอนที่โรงเรียนโอเคเลย เด็ก ๆ น่ารักกันทุกคน แต่เรื่องของฉันนี่สิ” แพรวาเอ่ยราวกับชั่งใจว่าจะเล่าต่อดีหรือไม่
“มันเป็นยังไงเล่ามาเถอะ ยังไงก็เพื่อนกัน” อังถามออกมาและมองหน้า
รวมถึงเพื่อนรักที่เหลือด้วยที่กำลังจดจ้องใบหน้าหวานเพื่อรอฟังคำตอบ
“ก็ฉันดันนอนกับพี่ชายของนักเรียนตัวเองนี่สิ นายนั่นอยู่ข้างบ้านที่ฉันเช่า แถมยังเป็นเด็กรุ่นน้องอีกต่างหาก” เอ่ยจบแพรวาก็ยกแก้วเหล้ากระดกลงคอ
“แกกับฉันก็ไม่ต่างกันเลยนะ แพรวา” อังพูดออกมาแต่ก็ยังยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ
“หัวอกเดียวกันเลยแก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็ต้องเจอหน้ากันแทบทุกวัน” แพรวาหันไปเอ่ยกับอัง
“พวกแกเป็นบ้าอะไรกันไปหมดเนี่ย ป้องกันกันรึเปล่าฉันไม่อยากเป็นป้าโดยที่ไม่พร้อมนะยะ” พราวมุกเหลืออดกับพฤติกรรมของเพื่อนตัวดีทั้งหลาย
“สมแล้วที่คำถามนี้เป็นของแก ยัยคุณหมอพราวมุก” คัพเค้กยกนิ้วโป้งให้เพื่อนสาว
“ฉะ ฉัน ฉันไม่ได้ป้องกัน จังหวะนั้นจะไปหามาจากไหน” อังตอบออกมาไม่เต็มเสียง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ทันได้ตั้งตัว
“วินาทีนั้นใครจะป้องกันทันกันล่ะ ฉันเมา แต่ฉันกินยาคุมฉุกเฉินแล้วนะ คงไม่ปล่อยให้ตัวเองท้องกับเด็กรุ่นน้องนั่นหรอก” แพรวาหันไปตอบพราวมุก
“ถามจริง ผู้ชายคนนั้นหล่อไหมวะแก ถึงขนาดเมาแล้วเผลอได้กันขนาดนั้น ฉันว่าคงหล่อบาดใจมากเลยอะ” น้ำตาลเพื่อนรักที่ชอบสวมบทนักสืบถามขึ้น
“หล่อ” แพรวาก็เผลอตอบออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พูดต่อ “หล่อแล้วไง ก็แค่รุ่นน้องไหมแก”
“รุ่นน้องแล้วไง สมัยนี้ผัวเด็กเขาฮิตกันจะตาย” อังเอ่ยขึ้น
“พวกแกก็ ตอนนี้ฉันกำลังกลุ้มใจอยู่ อุตส่าห์ได้ย้ายโรงเรียน ย้ายที่อยู่ ทำไมโลกมันถึงได้แคบแบบนี้นะ” แพรวาเอ่ยพลางหยิบแก้วน้ำสีอำพันขึ้นมากระดกดื่มเพื่อคลายความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ในใจ
“แกจะกลุ้มใจอะไร ก็ไหนบอกกินยาคุมฉุกเฉินแล้วไง” พราวมุกถามอย่างสงสัย
“ฉันไม่ได้กลุ้มเรื่องนั้น แต่เจ้าเด็กนั่นรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือฉันแล้วน่ะสิ” แพรวาทำหน้าเศร้าตอบเพื่อนรัก
“ฮะ!!!!” ทั้งสี่สาวอุทานออกมาพร้อมกันราวกับนัดกันมา พร้อมกับทำตาโตด้วยความไม่น่าเชื่อ
“แล้วแกว่าไง” พราวมุกถามต่อ
“ฉันก็ตอบไปว่าแค่วันไนท์สแตน” แพรวาเอ่ยอย่างไม่เต็มเสียง
ใจจริงเธอก็ไม่ได้ต้องการให้เรื่องทั้งหมดมันออกมาเป็นแบบนี้ แต่เธอก็แค่อยากให้น่านน้ำเลิกยุ่งกับเธอจึงได้ตอบแบบนั้นออกไป และรู้ดีว่าสิ่งที่พูดออกจากปากมันจะทำให้เธอถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่ชอบไปมีความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนกับใครก็ได้ แต่ในเมื่อตัดสินใจแบบนั้นไปแล้วก็ต้องยอมรับผลของการกระทำของตัวเอง
“แพรวา แก่ตอบแบบนี้ผู้ชายคนนั้นก็เข้าใจแกผิดหมดน่ะสิ” คัพเค้กถอนหายใจให้เพื่อนรัก บอกแบบนี้ผู้ชายอาจจะคิดว่าแพรวาเป็นคนที่ไม่จริงจังกับเรื่องของความรัก แถมยังเป็นผู้หญิงใจง่ายน่ะสิ
“ฉันรู้ แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ ก็เด็กนั่นเล่นตามตื้อฉันไม่เลิก ฉันก็แค่ตอบปัดไปงั้นๆ จะได้เลิกยุ่งกับฉันสักที” แพรวาถอนหายใจก่อนจะยกน้ำเมาขึ้นดื่มแก้ความร้อนรุ่มที่สุมอยู่ในใจ
“ผู้ชายลืมเรื่องคืนนั้นไม่ได้ เด็กนั่นอาจจะแอบมีความรู้สึกดีๆ ให้แก หรือไม่ก็อาจจะติดใจลีลาอันเร่าร้อนของแกก็ได้นะแพรวา ฮ่าฮ่า” น้ำตาลเอ่ยแซวด้วยใบหน้ายิ้มร่าแล้วหัวเราะชอบใจ
“ลีลาบ้าอะไรล่ะ ฉันจำเรื่องคืนนั้นไม่ได้เลยด้วยซ้ำ โอ้ย พอแล้ว ห้ามถามต่อ พวกเรามาดื่มกันเถอะ” แพรวารีบร้องปรามและตัดบทสนทนาทันที พร้อมกับยื่นแก้วเหล้าในมือไปชนกับแก้วของเพื่อนๆ แล้วยกขึ้นดื่ม
น่านน้ำอายุน้อยกว่าเธอตั้ง 4 ปี แล้วอีกอย่างหญิงสาวผู้เคยผ่านการถูกหักหลังจากผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนคนแรกของเธอ เวลาเกือบสามปีที่คบกันมาไม่ทีค่าอะไรเลย ถ้าเทียบกับผู้หญิงคนใหม่ที่เพิ่งเจอกันในผับ และการนอกใจในครั้งนั้นก็เป็นแค่ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่เธอจะให้อภัยคนอย่างแฟนเก่าได้
เคยได้ยินไหม หมามันเคยกินขี้ เมื่อกล้านอกใจกันครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป และผู้หญิงอย่างเธอเป็นคนเจ็บแล้วจำและความรักครั้งนั้นก็จบด้วยการเลิกลา
และตั้งแต่นั้นมา แพรวาก็ไม่เคยเปิดใจคบกับใครเลย แค่คุยเล่นก็ไม่มี ก็คงจะมีแต่ครั้งนี้ที่พลาดแบบพลาดมากที่สุดด้วยการเมาแล้วทำเรื่องอย่างว่ากับน่านน้ำ แถมยังเป็นในรถที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถใต้คอนโดของเธออีกต่างหาก
“ชนแก้วจ้าสาวๆ” คัพเค้กเอ่ยชวนเพื่อนๆ
แก้วในมือของทั้งห้าสาวก็ถูกยื่นไปด้านหน้ากระทบกันจนเกิดเสียง แล้วก็ยกจรดริมฝีปากอวบอิ่มกระดกรับน้ำเมาลงคอจนผ่านไปแก้วแล้วแก้วเล่า
ระหว่างที่ดื่มก็เมาท์มอยกันอย่างสนุกสนาน ต่างคนต่างก็แชร์เรื่องราวให้เพื่อนได้รับฟัง ใบหน้าสวยมีสีเลือดฝาดด้วยฤทธิ์สุราของแต่ละคนต่างก็มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกันอย่างถ้วนหน้า สมกับการเป็นเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายเดือน