บท
ตั้งค่า

Chapter 8 สบตาไม่รู้ตัว

หลายวันต่อมา

ด้านเจนิสหลังจากที่ฉันพลาดมีอะไรกับผู้ชายคนนั้น หลังจากที่กลับมาถึงคอนโดฉันก็จัดการตัวเองโดยการซื้อยาคุมฉุกเฉินมาทานทันที ฉันป้องกันตัวเองไว้ ส่วนกับเลย์หลายวันมานี้เราไม่ได้ติดต่อกันเลย ที่มหาลัยฉันก็ไม่เจอเขา นับตั้งแต่วันที่เราเลิกกัน ฉันไม่ได้ข่าวคราวอะไรของเลย์เลยแปลกเนาะทั้งที่เราเรียนที่มหาลัยเดียวกันจะบังเอิญเจอกันทีมันเป็นอะไรที่ยากมักมาก การที่ฉันจะลืมใครซักคนที่เข้ามาอยู่ในใจของฉันนานนับปี จะให้ลืมเพียงแค่เวลาหนึ่งสัปดาห์มันก็เป็นไปได้ยากมาก เพื่อนฉันแนะนำให้ฉันมีคนใหม่จะได้ลืมคนเก่า แต่มันไม่ได้ง่ายเลยสำหรับฉันเลยนี้สิ ถ้าฉันจะมีใครซักคนขอเป็นคนใหม่ที่เข้ามา ฉันรักเขาจริงฉันไม่ต้องการให้เขาเข้ามาเป็นตัวแทนของใครอีกคน

@มหาวิทยาลัย B

ร่างบางในชุดเสื้อกีฬาสีเขียวการเกงยีนส์ขาเดฟสีซีดผมยาวถูกรวบมัดเป็นจุกขึ้นกลางหัว สะพายกระเป๋าเป้น่ารักสีชมพูคู่ใจ วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ทางมหาลัยนั้นมีการแข่งขันกีฬาสีที่มหาลัย ซึ่งฉันก็เป็น กลุ่มที่ไม่ชอบการเข้าร่วมกิจกรรมเรื่องเล่นกีฬาฉันเล่นอะไรไม่เป็นซักอย่าง ทั้งที่วันนี้ช่วงเช้ามีการเดินขบวนกันไปแล้ว แต่นี้จะสิบโมงที่ฉันพึ่งจะมาถึงคณะทั้งที่เพื่อนๆ ในห้องนั้นมาเช็คชื่อกับรุ่นพี่กันครบหมดแล้ว

"ยัยเจ ทางนี้แก" ฉันเดินเข้ามาที่หน้าตึกก็เจอกับยัยเฟย์ที่โบกมือเรียกฉันมาแต่ไกล เมื่อเห็นยัยเฟย์นั่งอยู่ใต้ตึกกับยัยแซมมี่ฉันก็เดินเข้าไปหาทั้งสองนางทันทีที่พวกเขานั้นรอฉัน

"พวกแกมากันนานแล้วเหรอ แล้วนี้ยัยน้ำอุ่นไปไหนละ" เจนิสหลังจากที่เดินเข้ามาฉันก็ถามหายัยน้ำอุ่นเพื่อนอีกคนในกลุ่มทันที

"แกอย่าเป็นห่วงยัยอุ่นเลย นางเช็คชื่อเสร็จก็วิ่งแจ้นไปทานข้าวที่โรงอาหารแล้วยะ" ยัยแซมมี่หันมาเอ่ยกับฉัน

จากนั้นฉันก็เดินไปหารุ่นพี่เพื่อเช็คชื่อในช่วงเช้าทันที ฉันมีเพื่อนสนิทอยู่กันสามคนยัยแซมมี่ร่างชายใจหญิง ส่วนยัยเฟย์ และยัยน้ำอุ่น ผู้หญิงแท้ หลังจากที่เช็คชื่อเสร็จแล้วนั้น พวกฉันทั้งสามคนก็เดินมายังโรงอาหาร แต่โรงอาหารตึกคณะบริหารค่อนข้างแน่น พวกฉันจึงเดินมาที่โรงอาหารของคณะนิเทศซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก

พอเดินเข้ามาก็เจอกับยัยน้ำอุ่นที่นั่งทานอยู่ก่อนแล้ว

"เจนิส ฉันคิดว่าแกจะโดดชั่วโมงกีฬาแล้วซะอีก" ยัยน้ำอุ่นที่กำลังทานข้าวเอ่ยถามฉันมา

"ถ้าไม่ติดว่านับชั่วโมงก็คงนอนดูซีรีส์ที่ห้องแหละ" ฉันตอบเพื่อนไป จากนั้นก็เดินไปซื้อข้าวทันที เพราะตอนนี้ฉันหิวมากจนเริ่มจะไม่ไหวแล้วแหละ เพราะนี่มันสิบโมงกว่าๆ แล้ว ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องฉันเลย

"เจ กับเลย์พวกแกยังคงคุยกันอยู่ไหม" หลังจากที่ฉันกลับมานั่งที่โต๊ะ นั่งทานข้าวกันไปได้ซักพักจู่ๆ ยัยแซมมี่ก็จ้องหน้าและเอ่ยถามฉัน

"ทำไม แกไม่ชอบเลย์แล้วจะพูดถึงเขาอีกทำไม" ฉันจ้องมองใบหน้าของเพื่อนและถามยัยแซมมี่กลับทันที

"ถามจริงนะ แกไม่รู้หรือแกแกล้งโง่วะ เจนิส พวกฉันไม่ได้ยุให้แกเกลียดไอ้เลย์มันนะโว้ย แต่แกดูโน้นมันเลิกกับแกไม่ทันไรก็มีใหม่แล้ว และก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ใช่พี่นิสาแก๊งค์คนดัง พวกเดียวกับแก๊งค์ยัยพี่สาวของแกหรือเปล่า" ฉันได้ยินเช่นนั้นถึงกับหันมองไปตามที่แซมมี่บอกมาทันที

ร่างสูงโปร่งผมสีบอนด์ทองของอดีตแฟนหนุ่มที่เดินกอดคอไปกับเพื่อนสนิทของพี่แป้งพี่สาวต่างสายเลือดของเธอ ซึ่งแฟนใหม่ของเลย์เธอนั้นคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเพื่อนสนิทของพี่แป้ง แต่จู่ๆ ภาพในวันนั้นก็ปรากฏขึ้นมาในหัว

หึ...! พี่แป้งคงทราบเรื่องนี้ดีตั้งแต่แรกอยู่แล้วสินะ ฉันได้แต่มองตามพวกเขาที่เดินออกไปจากโรงอาหารจนลับตา ข้าวในจานที่ฉันรู้สึกหิวฉันก็รู้สึกอิ่มและทานมันไม่ลงทันที เฟย์ น้ำอุ่น แซมมี่ได้แต่เสมองใบหน้าของเจนิส

"ฉันไม่น่าหลุดปาก บอกเรื่องนี้กับแกเลยเจ" เมื่อเห็นว่าเพื่อนนั่งนิ่งแซมมี่ได้แต่เอ่ยมาเช่นนั้น พวกเธอเข้าใจแหละว่าเจนิสนั้นรักเลย์มาก แต่ก็ไม่คิดว่าฝ่ายชายนั้นจะหักหลังเพื่อนเธอลง เพราะเจนิสและเลย์นั้นรักกันมาก

"เจ แกอย่าคิดมากเลย สวยๆ อย่างแกหาใหม่ได้สบาย แกจะเอาหลัวใหม่ หล่อกว่าไอ้เลย์เป็นร้อยคนยังหาได้เลย เชื่อฉันสิ" ยัยแซมมี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ เอ่ยกับฉันมาราวกับปลอบฉัน

"เป็นร้อยนิฉันไม่ได้บ้าผู้ เหมือนแกนะยะ" ฉันได้แต่มองค้อนให้กับเพื่อน

"บวกหนึ่งเลยแก จริงอย่างอิแซมมันพูดนะเจ แกออกจะสวยน่ารักขนาดนี้ ไอ้เลย์มันคิดผิดที่ทิ้งแกไป ซักวันไอ้เลย์มันต้องเสียใจซมซานกลับมาหาแก หยี๋กับยัยพี่นิสายังกะผีเน่ากับโลงผุ" ยัยน้ำอุ่นที่กำลังตักข้าวเข้าปากเอ่ยกับฉันมา นินางนั้นไม่ชอบสาวๆ แก๊งค์นี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

"ใช่ ฉันเห็นด้วยนะ แกฝืนทานอีกนิดดิ ฉันเห็นแกทานอะไรไม่ได้มาเป็นสัปดาห์แล้ว รีบทานเดี๋ยววันนี้ฉันพาไปดูอะไรดีๆ ที่สนามบอลกัน รีบทานเลยนะพวกแก" ยัยเฟย์เอ่ยกับพวกฉันและหันมายกยิ้มให้กับพวกฉันทั้งสามคน

"ของดีอะไรแกที่สนามบอล" ยัยน้ำอุ่นเอ่ยถามยัยเฟย์มาด้วยที่สงสัย

"อ๋อ...ฉันนึกออกแล้ว รีบทานเลยนะพวกแก" ฉันถึงกับขมวดคิ้วให้กับยัยแซมมี่และยัยเฟย์ที่เหมือนพวกนางรู้กันเพียงแค่สองคน

"น้ำอุ่นแกละอยากไปกับพวกนี้เปล่า" ฉันหันไปถามยัยน้ำอุ่น เพราะดูท่าแล้วคงไม่พ้นเรื่องไปนั่งส่องหนุ่มๆ ต่างคณะเป็นแน่นอน

"ไปดิ ไม่ไปแล้วแกจะอยู่ไหน วันนี้งานกีฬา ห้องสมุดเข้าไม่เปิดให้แกเข้าหรอกนะยัยเจ ไปกับพวกฉันเถอะ ไอ้ทอยเพื่อนฉันที่อยู่วิศวะบอกว่าปีนี่หนุ่มๆในคณะมันเข้าคัดแต่ตัวเด็ดลงเลยนะโว้ย ฉันจะไปเชียร์คนดังฉันหนะแก" ยัยน้ำอุ่นไม่พูดพร้อมกับทำสีหน้าเพ้อฝันขึ้นมา ทำเอาเจนิสถึงกับส่ายหน้าให้กับเพื่อนที่นับวันแต่ละคนอาการบ้าผู้ชายยิ่งหนักเข้าสมองกันทุกวัน

หลังจากที่ทานข้าวเสร็จในที่สุดฉันก็ปฏิเสธเพื่อนสนิททั้งสามสาวไม่ได้ ที่ตอนนี้พวกเรามานั่งอยู่บนแสตนขอบสนามเพื่อมาดูการแข่งขันฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศของคณะวิศวะและคณะโลจิสติก ซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องการแข่งขันกีฬาทั้งมหาลัยก็จะมีสองคณะนี่แหละที่จะเป็นคู่แข่งขันกันประจำ เพราะผู้ชายจะเยอะสุด

ร่างสูงอันคุ้นหน้าวิ่งหย่อๆ วอมร่างกายในสนาม พร้อมกับมีแฟนสาวรุ่นพี่นั้นโบกมือเชียร์ที่ขอบสนาม ส่งกำลังใจให้กันถึงที่

"เจ นั้นมันไอ้เลย์ พวกฉันขอโทษนะ ไม่คิดว่าไอ้เลย์มันจะลงแข่งด้วย ถ้ารู้เช่นนี้พวกฉันก็คงไม่พาแกมา" ฉันมองไปในสนามและแสตนเชียร์ของฝั่งโลจิสติก สายตาก็สะดุดเข้ากับกลุ่มพวกพี่แป้งพี่นิสาที่นั่งติดขอบสนามและยังมีป้ายไฟโบกให้กับเลย์ ฉันถึงกับจุกและพูดไม่ออก

"ไม่เป็นไรแก ช่างเถอะ" ฉันเอ่ยกับเพื่อน แต่กับรู้สึกถึงขอบตารู้สึกร้อนพราวๆ ขึ้นมาเพียงไม่กี่นาที มันเอ่อล้นที่ไหลออกมาราวกับไม่รู้ตัว

"ไม่เป็นไรนะเจ แกอย่ามองพวกเขา" ยัยแซมมี่เอ่ยพร้อมกับตบลงที่บ่าไหล่ของฉัน ปากบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่ในใจลึกๆ กับตรงกันข้ามที่มันทั้งจุกทั้งเจ็บและหน่วงภายในใจไปหมด

!! กรี๊ด อร้าย...!! จากนั้นไม่นานนัก ก็มีเสียงกรี๊ดร้องของสาวๆ ที่มาเต็มกันทั่วทั้งสนาม

ฉันจึงละใบหน้าขึ้นมาก็พบว่า ตอนนี้ไม่ใช่แค่สาวๆ คนอื่นๆ รวมถึงเพื่อนสนิทของฉันทั้งสามคนก็ตกอยู่ในอาการกรี๊ดกร๊าดกันแทบคลั่ง ฉันเสมองไปยังสนามที่ตอนนี้นักกีฬาทั้งสองทีมนั้นได้วิ่งลงสนามกันครบและยืนประจำตำแหน่ง

ตากลมเปิดกว้างออกมาด้วยความตกใจ กับผู้ชายเสื้อกีฬาสีขาวเบอร์แปดสิบแปดที่ยืนเด่นอยู่ในสนาม เขาดูหล่อดูดีและที่สำคัญเขาดูเด่นเท่ห์มักมาก ให้ตายเถอะนี้ฉันไม่ได้จำผิดคนใช่ไหม ผู้ชายคนที่กำลังเดาะลูกบอลในสนาม คือคนเดียวกับคนที่ฉันมีอะไรด้วยในคืนวันนั้นเขายืนอยู่ในสนามตรงหน้าฉันตอนนี้ด้วย และที่สำคัญเขายืนเผชิญหน้ากับเลย์ด้วย

!! ตึก !! ฉันถึงกับใจสั่นหัวใจเต้นแรงขึ้นมากะทันหัน ฉันจำหน้าเขาได้แม่นไม่ผิดแน่นอน เขาเรียนที่นี่ด้วยงั้นเหรอ เขาคือใคร ตอนนี้ในหัวของฉันเกิดคำถามขึ้นมามากมาย

"อร้าย...แก พี่ริว พี่ริก พี่เรียวตะ พี่อรัณ อร้าย ฉันรักเขาแก สู้ๆ นะคะ ไฟท์ติ่งค่ะ" จากนั้นเสียงของยัยเฟย์ก็กรี๊ดดังขึ้นมา ไม่ใช่แค่ยัยเฟย์ยัยแซมมี่ ยัยน้ำอุ่นก็กรี๊ดไปด้วยรวมถึงสาวๆ ทั้งสนามก็กรี๊ดเป็นเสียงเดียวกัน เล่นเอาซะอีกฝั่งตรงข้ามถึงกับดูแผ่วไปเลย

"แก ยัยเจ แกดูพี่ริวของฉันสิ อ้าก... วันนี้พี่เขาดูหล่อเท่ห์มากแก โอ้ย...หัวใจฉันจะวาย พี่ริว พี่ริกของฉัน" ยัยเฟย์เอ่ยพร้อมกับใช้มือมาตบที่ตัวฉันราวกับเขินพวกเขา แต่ฉันไม่รู้หรอกนะว่านางกำลังเอ่ยถึงใคร

"แกยัยเฟย์ป้ายไฟแกเตรียมมาไหม ยกออกมาสิแก คนดังแก๊งค์วิศวะจะได้เห็นพวกเรา" ยัยแซมมี่เอ่ยกับยัยเฟย์มา

"เอามาดิฉันนะเตรียมพร้อมแต่แกถือนะอิแซมยังเขินพวกพี่เขาวะ" ยัยเฟย์หันมาเอ่ยกับยัยแซมมี่ เหมือนพวกนางรู้กันสองคน จากนั้นไม่นานยัยแซมมี่ก็ถือป้ายไฟขึ้นมาเชียร์ ฉันจึงได้หันไปถามพวกเพื่อนฉัน

"นี้พวกแกเชียร์ใครเหรอ พวกเขาคือใคร" ทำไมพวกเพื่อนฉันถึงขั้นมีป้ายไฟราวกับพวกคนดัง

"ใช่สิ ชีวิตนี้แกไม่เคยสนใจใครเลย...นอกจากไอ้เลย์คนเดียว ผู้ใน มอ.B ไม่มีใครสู้ไอ้เลย์ของแกได้เลยนิ" ที่ยัยแซมมี่เอ่ยกับฉันมาแบบนี้ เพราะฉันไม่สนใจใครจริงๆ ไม่แปลกหรอกที่ฉันไม่รู้จักพวกเขา

"ก็คนดังคณะวิศวะ รุ่นพี่ปีสี่หนุ่มสุดฮอตของพวกฉันนะสิ อร้าย...นั้นไง พี่เขาวิ่งมาโน้นแล้ว เบอร์ 9 หนะพี่เรียวตะ ทายาทเจ้าของ มอ.B ส่วนเบอร์ 23 พี่อรัณ คนนี่ก็หล่อผัวอีกคนของฉัน ส่วนเบอร์ 58 พี่ริกกี้ พ่อหนุ่มเพลย์บอยหล่อรวยไม่ธรรมดา ที่สำคัญแฝดพี่น้องกับผัวมโนพี่ริวสุดหล่อของฉันเบอร์ 88 ตำแหน่งกองหน้า" ยัยแซมมี่เอ่ยพร้อมกับยกยิ้มออกมาด้วยความตื้นเต้น

"พี่ริว คนนี้นะที่พวกแกเอ่ยถึงบ่อยๆ" เจนิสเอ่ยมาด้วยสีหน้าอันตกใจ

"พี่เขาหล่อมากเลยละสิ สู้ๆนะคะพี่ริว" จาก นั้นยัยแซมมี่ก็ตะโกนข้ามหัวฉันให้กับร่างสูงที่วิ่งมาข้างสนาม ฉันเผลอสบตาเข้ากับเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel