บทที่ 3 ของหวง 3
ทางฝั่งนั้นโทรมาเร่งรัดให้รีบพาลูกชายเข้าไปพูดคุยเจรจา ยิ่งทำให้คุณนายบุษยาร้อนใจ
ตระกูล ‘กิจธาดาวงศ์’ กับตระกูล ‘เดชากุล’ ปรองดองกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย แถมยังเอื้อหนุนทำธุรกิจร่วมกัน
คุณหญิงบุษยาค่อนข้างมั่นใจว่าลูกชายของเธอต้องชอบว่าที่คู่หมั้นคุณหนูพิมผกาอย่างแน่นอน สวย รวย เก่ง อ่อนหวานแถมชาติตระกูลไม่ได้น้อยหน้าใคร
“ถ้าครีมอยากได้เงินเท่าไหร่แม่ยินดีให้ตามที่หนูต้องการ ขอแค่ให้เลิกกับฌอห์ณ” น้ำเสียงที่พูดฟังดูเห็นอกเห็นใจ เพราะรู้ว่าตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาครีมต้องทนรองรับอารมณ์ร้ายๆ ของลูกชายขนาดไหน เงินที่ให้ไปจะถือว่าเป็นค่าทำขวัญ ไม่ว่าเท่าไหร่ก็ยินดีจ่าย
“หนูจะได้เอาเงินก้อนใหญ่ไปตั้งตัวเริ่มชีวิตใหม่”
ทุกอย่างรอบตัวดูหมุนช้าลง ครีมยังคงยืนนิ่งไม่ได้พูดหรือตอบโต้อะไร
“ฌอห์ณมีคู่หมั้นอยู่แล้ว หนูคงยังไม่เคยรู้เรื่องนี้ใช่ไหม”
“…..”
“ที่ฌอห์ณมาคบกับหนูก็เพื่อรอเวลาให้คู่หมั้นของเขาเรียนจบ ลูกชายแม่เขาไม่ได้จริงจังกับหนูเลยนะ”
มือเล็กกำชายกระโปรงของตัวเองไว้แน่น เธอเพิ่งจะรู้ความจริงก็วันนี้ว่าฌอห์ณนั้นมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยปริปากพูดถึงเรื่องนี้เลย
“แม่หวังดีไม่อยากให้ครีมเสียเวลาชีวิตอยู่กับฌอห์ณไปมากกว่านี้ เข้าใจที่แม่พูดใช่ไหม”
“…..”
“ตอนนี้คู่หมั้นของฌอห์ณกำลังจะกลับมา อีกไม่นานสองคนก็จะแต่งงานจดทะเบียนสมรสกัน แม่ไม่อยากให้ครีมกลายเป็นเมียน้อยของลูกชายแม่นะ”
เพราะกลัวว่าลูกชายจะเลยเถิดถลำลึกกับครีมมากไปเลยคิดจะตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ยังไงคนที่เธออยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ก็คือ ‘พิมผกา เดชากุล’ หรือถ้าลูกชายอยากเลี้ยงครีมไว้เป็นเมียน้อย เมียเก็บ เธอก็จะยอมทำเป็นปิดหูปิดตา
“ครีมอยากให้แม่ลองไปคุยกับฌอห์ณดูก่อนว่าเขาต้องการแบบไหน ครีมเคารพการตัดสินใจของเขา ถ้าฌอห์ณบอกว่าจะเลิกครีมก็ยินดีจะไปเองค่ะ”
“หนูครีมก็น่าจะรู้ว่าฌอห์ณคงไม่ทำแบบนั้น”
“แล้วถ้าครีมเป็นฝ่ายบอกเลิกฌอห์ณขึ้นมาจริงๆ แม่คิดว่าฌอห์ณจะยอมเลิกกับครีมไหมคะ”
“…..” ครั้งนี้เป็นฝ่ายคุณหญิงบุษยาที่เงียบไป เธอไม่เข้าใจว่าผู้หญิงอย่างครีมมีดีอะไร ลูกชายถึงหลงจนโงหัวไม่ขึ้น ไม่ยอมเขี่ยทิ้งไปสักที
“ไม่ใช่ครีมไม่อยากไปนะคะ แต่เป็นฌอห์ณเองมากกว่าที่ไม่ยอมปล่อยครีม แม่ก็น่าจะรู้ดี”
“…..”
“เพราะทุกวันนี้ครีมก็ไม่ได้อยากอยู่กับเขาแล้วเหมือนกัน” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ดวงตากลมโตเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาแต่ต้องฝืนกลั้นมันเอาไว้
“…..”
“มัวทำอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่ยอมออกไปสักที”
ฌอห์ณมองคนทั้งสองอย่างพิจารณา เป็นเพราะครีมหายออกมานานเกินไปจึงเดินมาตามด้วยตัวเอง แต่อารมณ์ของทั้งสองคนดูแปลกไปจนอดสงสัยไม่ได้
“อยากให้ครีมคุยเรื่องนี้กับฌอห์ณต่อหน้าแม่เลยไหมคะ?”
คุณหญิงบุษยายืนนิ่ง สอดส่องสายตาไปมาคล้ายคนคิดหนักเมื่อมองเห็นสีหน้าของคนที่เพิ่งมาใหม่
“ถ้าแม่ต้องการแบบนั้น ครีมจะได้ช่วยพูดให้”
“ว่ามาสิ ครีมมีอะไรจะคุยกับฌอห์ณ”
“เลิกกัน…”
“เลิกอะไร!?” ร่างสูงเลิกคิ้วถามก่อนจะรั้งคนตัวเล็กให้เข้าใกล้จนใบหน้าน้อยๆ แนบชิดกับแผงอกแกร่ง หัวใจของเธอสั่นไหวเมื่อสัมผัสถึงลมหายใจร้อนเจื่อกลิ่นบุหรี่ที่เป่ารดลงบนพวงแก้ม
สายตาเย็นเยียบที่ชายหนุ่มจ้องมองพร้อมจะพังทุกอย่างถ้าเกิดได้ยินอะไรที่ไม่เข้าหู
“ไม่มีอะไรหรอกฌอห์ณ เราสองคนแค่คุยกันเรื่องทั่วไปน่ะ” ผู้เป็นแม่รีบพูดแทรกขึ้น กลัวลูกชายจะไม่พอใจถ้าเกิดรู้ว่าเธอไปพูดหลับหลังอะไรกับครีมบ้าง
“ครีมรู้สึกปวดหัวมาก ขอตัวกลับบ้านก่อนนะ ฌอห์ณอยู่คุยกับแม่ต่อเถอะ”
“แล้วจะกลับยังไง?”
“เดี๋ยวครีมนั่งรถแท็กซี่กลับเอง”
“ถ้าจะกลับก็กลับด้วยกัน ฌอห์ณไม่ปล่อยให้ครีมไปไหนคนเดียวหรอก”
“ฌอห์ณอยู่กับแม่ก่อน ไหนบอกว่าคืนนี้จะกลับมาค้างที่บ้านกับแม่”
“เอาไว้วันหลังผมจะมาหาใหม่”
คุณนายบุษยารู้ดีว่าลูกชายเป็นคนไม่ชอบเดินตามใคร แต่การที่เขายอมเดินตามหลังผู้หญิงคนนี้ออกไปแบบไม่ลังเล มันแสดงให้คนเป็นแม่ได้เห็นชัดเจน ว่าฌอห์ณเลือกครีมแล้วจริงๆ