บทที่ 1 คนคุ้นเคย 2
ครีมหอบสังขารอันบอบช้ำพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเล เธอก้มมองกลางหว่างขาที่เต็มไปด้วยคราบน้ำสีขาวขุ่นของแฟนหนุ่มแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
หลังจากเสร็จกิจฌอห์ณยังนอนคว่ำหน้าไม่รู้สึกตัว ครีมดันท่อนแขนแกร่งที่พาดอยู่บนเอวให้ออกห่าง ก่อนจะหยัดตัวลุกจากที่นอนอย่างระมัดระวัง
ตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงกว่าแล้ว ไม่มีเวลามานั่งร้องไห้หรือคร่ำครวญอะไรทั้งนั้น ถ้าไปเข้างานสายอีกครั้งมีหวังคงโดนหัวหน้าไล่ออกจากบริษัท
เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก! แต่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสาเหตุทั้งหมดก็มาจากเขาที่ใช้กำลังบังคับข่มเหงจนเธอเสียการเสียงาน
ครีมเป็นพนักงานของบริษัทเอกชน ทำแผนกเกี่ยวกับบัญชี รายได้ต่อเดือนก็สองหมื่นต้นๆ แต่แทบจะไม่เหลือใช้เพราะต้องส่งให้พ่อกับน้องอีกสองคนที่อยู่ต่างจังหวัด
ครีมมีน้องสาวกับน้องชายที่กำลังเรียนอยู่มัธยมด้วยกันทั้งคู่สามพี่น้องอาศัยอยู่กับพ่อตั้งแต่เด็ก ส่วนแม่หนีไปแต่งงานใหม่ จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกเลย
“ยัยครีม”
เสียงของ‘เอม’ เพื่อนร่วมงานคนสนิทร้องเรียก หลังจากที่เห็นครีมวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในบริษัท เธอมีเพื่อนสนิทอยู่สองคนคือ ‘เอม’ กับ ‘น้ำตาล’
“ว่าไงเอม?”
“ทำไมวันนี้มาสาย”
“มาไม่ทันรอบรถเมล์น่ะสิ เลยมาถึงช้า”
เข้างานเก้าโมงแต่มาถึงแปดโมงห้าสิบ ถือว่ารอดตายอย่างหวุดหวิด
“แฟนแกก็มีรถตั้งหลายคัน มันไม่คิดจะตื่นมาส่งแกบ้างหรือไง”
“เขาไม่ชอบตื่นเช้าน่ะ” คนตัวเล็กรีบหยิบขนมปังที่เลือกกินแทนข้าวเช้ายัดใส่ปากด้วยความหิวโหย โดยไม่ทันสังเกตสายตาของเพื่อนสนิทที่กำลังมองมา
“แล้วเลิกงานล่ะ ถึงตอนเช้าไม่ได้มาส่ง อย่างน้อยตอนเลิกงานก็น่าจะมารับแกบ้างสิ”
“…..” ครีมนั่งเงียบไม่มีคำโต้แย้งเพราะมันเป็นเหมือนที่เพื่อนพูดทุกอย่าง ทำงานที่บริษัทนี้มาเป็นปี แต่ฌอห์ณเคยมารับมาส่งเธอแทบจะนับครั้งได้
“ทีออกไปเที่ยวดึกดื่นกับเพื่อนยังไปได้เลย ไอ้ฌอห์ณมันยังเห็นแกเป็นเมียอยู่ไหม” เอมพูดอย่างเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเพื่อน เธอเองก็รู้จักคนทั้งสองเพราะเคยเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน
“…..”
“มาอยู่กับฉันไหม หอพักใกล้บริษัทจะได้ไม่ต้องเปลืองค่ารถ ช่วยกันออกค่าห้องหารค่าน้ำค่าไฟก็น่าจะโอเค”
“ไปไม่ได้หรอก เดี๋ยวฌอห์ณก็ตามไปอาละวาดอีก ฉันไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อน”
ครีมถอนหายใจอย่างคิดไม่ตกเพราะรู้จักนิสัยฌอห์ณดีกว่าใคร แค่ไม่เห็นเธออยู่ในห้องก็โวยวายยกใหญ่ หรือถ้าคิดจะย้ายออกไปอยู่กับคนอื่นมีหวังได้ตามอาละวาดเหมือนที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าหวงเธอหรือเรียกว่าหวงก้างกันแน่!
“แฟนแกนี่ก็แปลกนะ ทำเหมือนไม่รักแก แต่สุดท้ายก็ไม่ทิ้ง สรุปว่ามันจะเอายังไงกันแน่”
“…..”
หลังเลิกงานเค้กรีบเก็บของแล้วเดินมารอที่ป้ายรถเมล์ ถึงแฟนหนุ่มจะมีฐานะร่ำรวยแต่เธอก็ไม่คิดจะอยู่เฉยงอมืองอเท้าขอเงินเขาใช้ไปวันๆ
คัทลียา : วันนี้ครีมกลับถึงห้องช้าหน่อยนะ ตอนนี้ติดฝนอยู่ป้ายรถเมล์ นั่งรอรถมาชั่วโมงกว่าๆ แล้ว
ชลากร : อืม
“คิดไว้แล้วว่าเขาต้องตอบแบบนี้”
ฌอห์ณตอบกลับมาสั้นๆ แค่นั้น ก่อนที่ครีมจะเก็บโทรศัพท์ยัดใส่กระเป๋าสะพาย เธอคาดหวังว่าเขาอาจจะมารับหรือแสดงความเป็นห่วง แต่ก็นั่นแหละ! เลยต้องมานั่งผิดหวังอยู่คนเดียว
แกร๊ก…บานประตูห้องถูกเปิดออก เค้กกลับมาถึงในสภาพเปียกปอนจากน้ำฝน ในมือสองข้างถือถุงอาหารที่ซื้อมาไว้กินด้วยกันตอนเย็น
“ฌอห์ณจะออกไปไหน?” เธอถามแฟนหนุ่มที่กำลังยืนแต่งตัวทำผมอยู่หน้ากระจก เขาตวัดสายตาหันมองแค่แวบเดียวคล้ายกับเช็คว่าเธอกลับมาถึงห้องแล้วจริงๆ ก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถ
“ว่าจะไปสนามแข่งรถสักหน่อย วันนี้มีเดิมพันกับพวกไอ้มอส”
“ไปอีกแล้วเหรอ ฌอห์ณออกไปหาเพื่อนทุกวันเลย ทำไมไม่อยู่กับครีมบ้าง”
เลิกงานมาก็เหนื่อยมากแล้ว อย่างน้อยถ้าได้กำลังใจจากเขาก็คงดีแต่ไม่มีเลย…ไม่เคยมีกำลังใจจากฌอห์ณมานานมากจนลืมความรู้สึกไปหมดแล้ว
“อยู่บ้านมันน่าเบื่อไง”
“…..”
ครีมไม่ได้ตอบกลับพร้อมทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา แค่ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดให้เหนื่อยไปมากกว่านี้ เลยเลือกจะจบบทสนทนาไว้เพียงแค่นั้น
“เป็นอะไรไอ้ฌอห์ณ ทำไมวันนี้มึงดูไม่ค่อยมีสมาธิเลย”
มอสเดินเข้าไปตบบ่าเพื่อนชายเบาๆ เมื่อเห็นว่าฌอห์ณเอาแต่ชำเลืองมองจ้องโทรศัพท์
“ไม่มีอะไร”
จะตีสองแล้วแต่ครีมยังไม่โทรตามเขาเลยสักสาย จริงอยู่ที่รู้สึกรำคาญ แต่พอเธอไม่โทรมามันกลับรู้สึกแปลกไป
“ว่าแต่วันนี้ เมียมึงไม่โทรตามเหรอ ปกติเห็นโทรตามทุกชั่วโมง”
“ไม่โทรตามก็ดีแล้ว ขี้เกียจคุย” ร่างสูงยืนพิงกำแพง ยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋าหลังของกางเกงยีน ก่อนจะหยิบมวนบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบด้วยอารมณ์หงุดหงิด
“มึงดูไม่ค่อยสนใจเมียมึงเลยนะ ถ้าเป็นแบบนั้นทำไมไม่เลิกกันอ่ะ เขาจะได้ไปหาผัวใหม่ที่ดีกว่ามึง”
‘คชา’ พูดทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเพื่อนชายรู้สึกยังไงกับครีม แต่พวกเขามันเป็นแค่คนนอก จะให้พูดอะไรมากก็ไม่ได้
“เลิกไม่ได้หรอก คบกันมานานแล้ว”
ฌอห์ณไหวไหล่ตอบเหมือนไม่แคร์ ส่วนเขาจะคบหรือเลิกยังไงก็ได้ แต่คนที่ไม่ยอมไปน่าจะเป็นครีมมากกว่า
“มึงหรือครีมที่เลิกไม่ได้? แต่กูว่าน่าจะเป็นมึงมากกว่านะที่ไม่ยอมปล่อยครีมไป”
“ไม่ต้องเสือกเรื่องของกู”
“…..”
ครืด~ สมาร์ตโฟนแผดเสียงร้องดังเมื่อมีสายเรียกเข้า คนตัวเล็กขยับพลิกตัวอย่างสะลึมสะลือพร้อมใช้มือควานหาตัวต้นเหตุที่กำลังส่งเสียงร้อง
“ว่าไงมอส?” ร่างบางกรอกเสียงใส่ปลายสาย คนที่โทรมาคือเพื่อนสนิทของแฟนหนุ่ม
(นั่นใช่ครีมป่ะ)
“ใช่ค่ะ ครีมกำลังพูดสายอยู่”
(ไอ้ฌอห์ณบอกให้มารับที่xxx)
“แล้วทำไมไม่กลับเอง”
(มันเมามาก ขับรถกลับไม่ไหว)
“งั้นมอสช่วยมาส่งฌอห์ณให้หน่อยได้ไหม ตอนนี้ดึกมากแล้ว ครีมคงไม่มีรถไปรับ”
ดึกดื่นตีสามขนาดนี้จะให้เธอไปรับยังไง รถหลายคันที่มีอยู่ก็เปล่าประโยชน์เพราะครีมขับรถไม่เป็น ถ้าเป็นแท็กซี่คงรอนานส่วนรถเมล์ไม่ต้องพูดถึง
(ไอ้ฌอห์ณไม่ยอมกลับกับใคร มันบอกจะเอาแค่ครีมคนเดียว)
“อืม…เดี๋ยวครีมไปรับ”