ตอนที่ 3
“อ่า… อูย… อ่า… อูย… ”
ไอ้ใหญ่รูดชักลำเอ็นยาวใหญ่จนมือกำไม่รอบ ยอบกายลงนั่งคุกเข่าด้วยความเสียว ขณะดวงตายังทาบอยู่กับรูน้อยๆ ของแผ่นสังกะสีเก่าคร่ำ
ภาพและเสียงร้องครางของเรไรทำเอาลำเอ็นของไอ้ใหญ่คัดแข็งแทบระเบิด
ตอนนี้ต่างคนต่างร้องครางราวกับแข่งขัน แม้อยู่ห่างกันเพียงผนังกั้น… แต่เรไรก็ไม่รู้ว่าไอ้ใหญ่กำลังเสพสุขกับเรือนร่างของหล่อนด้วยสายตา
วันรุ่งขึ้น
ตอนใกล้ค่ำ ขณะที่เรไรขี่จักรยานออกมาตามถนนลูกรังสีแดง ทอดผ่านมากลางไร่ข้าวโพด พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นไอ้ใหญ่ กำลังยืนถือค้อนตอกตะปูซ่อมรั้วไม้กันแนวไร่ข้าวโพด
“สวัสดีครับคุณเรไรคนสวย”
ไอ้ใหญ่เอ่ยทักขึ้นมาก่อน หล่อนขี่จักรยานเข้ามาใกล้ หล่อนรู้สึกสะดุดตากับเรือนกายสูงใหญ่ของคนงานใหม่ ถ้าให้วิจารณ์กันตรงๆ อย่างปราศจากอคติในใจ… หุ่นไอ้ใหญ่แม่งเซ็กซี่โคตรๆ
เนื้อตัวของไอ้ใหญ่กำยำไปด้วยมัดกล้าม ที่เห็นก็เพราะว่ามันถอดเสื้อพาดไว้กับแนวรั้ว สายเหงื่อเป็นมันปลาบอาบเลื่อมไปทั้งตัว อกแน่นนูนไปด้วยมัดกล้าม มีเส้นขนสีดำแผ่คลุมเป็นแพมาถึงกล้ามท้องอัดแน่นไว้ด้วยลอนซิกแพ็ค ต่ำลงมาอีกนิดก็คือเป้ากางเกงตุงแน่นไปด้วยลำเนื้อ สิ่งที่เห็นทำเอาเรไรตกใจ รีบชักสายตาออกมาจากสิ่งที่ทำเอาใจเต้น
“ทะลึ่งนะมึง… ”
รถจักรยานหยุดลงใกล้ๆ ร่างกำยำของไอ้ใหญ่ หล่อนเชิดหน้าใส่อย่างไม่เป็นมิตร
“โถ… ผมอุตส่าห์พูดเพราะๆ ดูคุณเรไรตอบเข้าสิ… พูดไม่เพราะเลย”
ไอ้ใหญ่จ้องหน้าหล่อนจนเรไรต้องหลบสายตาวูบ รู้สึกใจเต้น หวิววาบแปลกๆ ร้อนผ่าวตรงซอกขาเหมือนกำลังโดนมันข่มขืนด้วยสายตา
“ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องทักฉัน”
เรไรทำท่าไม่พอใจ
“เกลียดอะไรผมนักหนาล่ะคุณเรไร”
ไอ้ใหญ่นึกสนุกที่ได้ต่อปากต่อคำ ด้วยหล่อนโนบรา ตอนที่สายลมกรรโชกเข้ามาปะทะเรือนร่าง เสื้อผ้าฝ้ายบางๆ ก็แนบเน้นเข้ากับทรงอกอวบใหญ่ เห็นปลายถันแทงตุงขึ้นมาบอกตำแหน่งของจุกหัวนมสาวที่ทำเอาไอ้ใหญ่เผลอกลืนน้ำลายลงคอเสียงดังเอื๊อก
“เป็นเหี้ยอะไร… ”
เหมือนเรไรจะรู้ตัว หล่อนรีบคร่อมจักรยานแล้วปั่นออกมา ไอ้ใหญ่จ้องมองเรียวขาขาวๆ ที่เลิกร่นขึ้นมาจากผ้าถุงตอนที่หล่อนปั่นจักรยาน
“สักวันเถอะ… เดี๋ยวพี่ใหญ่จะกระแทกให้น้องเรไรร้องขอชีวิตเลยคอยดู… รู้นะว่าเงี่ยน”
ไอ้ใหญ่พึมพำไล่หลังรถจักรยานที่กำลังแล่นออกไปท่ามกลางประกายแสงแดดสีทองอร่ามของยามเย็น พระอาทิตย์ดวงสีแดงกลมโตลอยต่ำเกือบแตะสันเข่า ขณะที่หัวใจของไอ้ใหญ่กระเส่าไปด้วยความรู้สึกทางเพศที่มีต่อเมียสาวของเจ้าของไร่
อีกสัปดาห์ต่อมา
ข้าวคำสุดท้ายในจานตรงหน้าถูกช้อนตักเข้าใส่ปากจนหมดจาน ก่อนที่เถ้าแก่สุ่นจะตะโกนถามเมียสาวที่กำลังนั่งเหยียบจักรเย็บผ้าอยู่ตรงมุมห้อง
“วันนี้ฉันจะเข้าไปในตลาด… เธอจะไปด้วยกันไหม”
เถ้าแก่สุ่นกำลังจะออกไปซื้อปุ๋ยเพื่อเตรียมไว้ใช้กับไร่ข้าวโพดที่กำลังออกฝักไปทั้งไร่
“เถ้าแก่ไปคนเดียวเถอะจ้ะ… วันนี้ฉันจะเย็บเสื้อที่ทำค้างเอาไว้”
เรไรมีฝีมือในเรื่องตัดเย็บเสื้อผ้า หล่อนมีรายได้พิเศษจากการตัดเสื้อให้กับลูกค้าหลายรายซึ่งเป็นคนในอำเภอเดียวกัน
ตัดเย็บเสื้อผ้าเป็นงานที่หล่อนทำด้วยใจรัก ไม่ใช่ทำเพราะขัดสนเงินทอง เพราะว่าฐานะของเถ้าแก่สุ่นก็จัดว่าไม่ยากจน เงินทองของเขาสามารถเลี้ยงดูเรไรให้สุขสบายไปทั้งชาติ
“เออ… อย่าลืมเอาข้าวไปให้ไอ้ใหญ่ด้วยล่ะ”
สามีร้องสั่งก่อนออกไปจากบ้าน ด้วยทุกวันไอ้ใหญ่จะแวะมาเอาข้าวที่เรไรใส่ปิ่นโตวางไว้ที่แคร่ไม้หน้าบ้าน แต่วันนี้สายป่านนี้แล้วก็ยังไร้เงาของมัน
“มันก็น่าจะเดินมาเอาเองนะ… ทำไมต้องเอาไปให้”
เรไรรู้สึกหัวเสีย เมื่อต้องเอ่ยถึงคนงานใหม่ ไม่รู้ว่าทำไม? หล่อนจึงไม่อยากเข้าไปใกล้ ไม่เชิงว่าไม่ชอบขี้หน้า… แต่ไม่รู้สิ เรไรเกลียดสายตาของมัน เกลียดวิธีการมองเหมือนรู้เท่าทันอารมณ์บางอย่างของหล่อนที่พยายามเก็บซ่อนเอาไว้
“ทุกวันนี้ฉันจะต้องทำอาหารแล้วไปเสิร์ฟให้มันถึงที่ใช่ไหม… อยู่ไม่กี่วันก็กำเริบเสิบสาน”
เรไรบ่นไม่หยุด