ตอนที่1จินเสียง
จินเสียง หรือคุณหนูรอง มีอาการแปลกประหลาด รูปร่างอวบอ้วน ผิวพรรณมีผดผื่น ใบหน้ามีจุดด่างดำ อัปลักษณ์ผิดจากพี่สาวและน้องสาว
ด้วยเพราะยามมารดาตั้งครรภ์เกิดอาการแทรกซ้อนขึ้น เมื่อฮูหยินรองคลอดคุณหนูรองนั้นท้องฟ้าปั่นป่วนอย่างฉับพลัน จึงทำให้บิดาชิงชังนางยิ่งนัก ก็เพราะว่าตระกูลจินขายผ้าไหม และวันนั้นเกิดพายุฝนโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง ทำให้หลังคาของโรงเก็บผ้าไหมเปียกน้ำฝนจนเกิดความเสียหาย
ฮูหยินเอกตั้งแง่ชิงชังบุตรสาวลำดับที่สองยิ่ง ก็เพราะว่าฮูหยินรองเป็นภรรยาที่สามีหลงรักปักใจ ถึงขั้นเอ่ยแตกหักกับนาง หากไม่ยินยอมให้เขาแต่งภรรยาอีกคน เขาจะหย่ากับนางเสีย
เช่นนั้นแล้วหลิวเพ่ยอันจึงยินยอมให้สามีแต่งภรรยาเข้ามาอีกคน นับว่าคราวเคราะห์ผ่านพ้นไป เมื่อฮูหยินรองคลอดบุตรได้ไม่ถึงสามวัน นางก็จากไปเสียแล้ว หลงเหลือเพียงแค่เจ้าหัวผักกาดนอนร้องไห้โยเยอยู่ในห้อง
กาลเวลาผันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จากวันกลายเป็นเดือนแล้วกลายเป็นปี ยามนี้คุณหนูรองเติบโตขึ้นมาภายใต้ความดูแลของฮูหยินเอก ถ้อยคำเรียกขานนั้นคือท่านแม่ ในทางกลับกันแล้ว คุณหนูรองมักถูกชิงชังเสมอ นางก็ทราบดี
วันนี้คุณหนูรองสวมอาภรณ์ด้วยผ้าเนื้อหยาบ ใบหน้ามีจุดด่างดำ ผิวพรรณมีผดผื่นขึ้น หาได้งดงามเหมือนพี่สาวและน้องสาวไม่ กำลังลงมือคนสีผสมอยู่ในอ่างไม้ใบใหญ่ ซึ่งเป็นกิจการของบิดา
“คุณหนูไปพักเถิดเจ้าคะ ที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของบ่าวเองเจ้าค่ะ” สาวใช้ผูกผ้าอยู่บนศีรษะ มองเห็นคุณหนูได้รับความไม่เป็นธรรม ซ้ำยังถูกรังแกออกบ่อยครั้ง ทำงานหนักมิต่างจากสาวใช้ในเรือนทั้งเห็นใจและเวทนาเหลือเกิน
“ไม่เป็นไร พวกเจ้าเองก็เหนื่อยเหมือนกันมิใช่หรือ รีบทำเถิดจะได้พักกัน” ด้วยความร่าเริงและเป็นกันเอง นางจึงเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของเหล่าข้ารับใช้ทั้งหลาย
ส่วนพี่สาวของนางและน้องสาวนั้นหรือ ยามนี้กำลังนั่งอยู่หน้ากระจกขัดเงาบานใหญ่ สาวใช้กำลังค่อย ๆ ปักปิ่นเสียบลงกลุ่มผม เพราะวันนี้มีงานเลี้ยงรับรองขุนนางผู้หนึ่ง ซึ่งเดินทางมาจากเมืองหลวง เพื่อซื้อผ้าไหม
ก็เพราะว่าผ้าไหมของตระกูลจินนั้นก็งดงามไม่แพ้ร้านค้าของตระกูลอื่น ๆ เช่นนั้นแล้ว ขุนนางผู้นี้จึงเลือกเดินทางมาดูด้วยตนเอง แล้วก็เป็นไปตามคาด เขาจึงจัดซื้อเป็นจำนวนหนึ่งพันพับ เช่นนั้นแล้วเถ้าแก่จิน จึงจัดงานเลี้ยงให้แก่ขุนนางผู้นี้
“พี่ใหญ่ ข้างดงามหรือไม่” ผู้เป็นน้องสาวลำดับที่สาม หรือน้องเล็กเอ่ยเสียงหวาน เมื่อนางเดินเข้ามายังห้องนอนอย่างถือวิสาสะ
“น้องเล็กงดงามนัก คืนนี้พวกเราต้องโดดเด่นกว่าผู้ใด” มิใช่มีเพียงแค่ขุนนางที่มาร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้ แต่ยังมีตระกูลค้าผ้าไหมเข้าร่วมด้วย เช่นนั้นเองวันนี้จินหลินและจินจูต้องงดงามกว่าเหล่าคุณหนูทั้งหลายที่มาร่วมงาน
“ว่าแต่พี่ใหญ่ วันนี้ทั้งวันข้าไม่เห็นนางอัปลักษณ์นั่นเลย มิใช่ว่าแอบไปแต่งตัวแข่งขันกับพวกเรานะ” แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าแข่งอันใดก็ไม่สามารถแข่งความงามได้ ก็ยังพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเหยียดยิ้ม หยามหยันอีกฝ่าย
ผู้เป็นพี่ใหญ่ระบายยิ้ม แววตาเย่อหยิ่งยิ่งนัก เอ่ยขึ้นเยาะเย้ยน้องสาวต่างมารดาขึ้นว่า “ยามนี้คงกำลังทำงานอยู่กระมัง ช่วยไม่ได้นี่นา เกิดมาอัปลักษณ์ล่มแคว้นเสียขนาดนี้ ท่านพ่อหรือจะกล้าให้นางร่วมงานด้วย มิให้อับอายตระกูลจินของพวกเรา”
“พูดอันใดก็หัดระวังเอาไว้บ้าง หากท่านพ่อหรือคนอื่น ๆ ได้ยินอาจไม่พอใจเอาได้” ฮูหยินเอกหรือมารดาเข้ามาดูความเรียบร้อยของบุตรีทั้งสอง แล้วบังเอิญได้ยินพวกนางพูดคุยกันสนุกปาก จึงเอ่ยตักเตือนเบา ๆ
“ท่านแม่ละก็ ข้าไม่ชอบนางนี่นา” คุณหนูเล็กหน้างอง้ำ นั่งอยู่บนเก้าอี้ แม้ใบหน้าจะสะสวยเพียงใดแต่กลับมีนิสัยก้าวร้าวนัก ซ้ำยังไม่เคยเห็นผู้ใดอยู่ในสายตา มักเหยียบย่ำผู้อื่นเสมอ
“แค่นางอัปลักษณ์อับโชคเช่นนี้แล้ว พวกเราก็เมตตานางสักครั้งเถิด ให้คนไปตามนางมาร่วมงานเลี้ยงคืนนี้” หลิวเพ่ยอันหรือฮูหยินเอก มารดาของบุตรสาวทั้งสองมีแผนร้าย หวังว่าคืนนี้ให้ลูกสาวของศัตรูหัวใจได้รับความอับอาย ถ้าหากถูกขับไล่ออกจากตระกูลจินได้ก็ยิ่งดีนัก
“ท่านแม่!” จินหลินอุทานเสียงดัง รีบหันกลับมามองท่านแม่อย่างกังวลใจ
“แค่อยากให้นางถูกท่านพ่อของพวกเจ้าขับไล่เท่านั้น อีกอย่างนางออกจะอัปลักษณ์ ผู้ใดจะสนใจนางกันเล่า” หลิวเพ่ยอันยกยิ้ม นางกำลังรอให้จินเสียงพบกับหายนะครั้งใหญ่ อยากรู้นักว่าหากถูกขับไล่ออกจากตระกูลจินไปแล้ว เด็กสาวจะพักอาศัยอยู่ที่ใด
หลิวเพ่ยอันวาดหวังให้จินเสียงกลายเป็นคนเร่ร่อน ราวกับขอทานยากไร้อยู่ตามข้างถนน ถูกคนเหยียดหยาม ชิงชัง หากเป็นตามที่นางคาดการณ์เอาไว้ก็ย่อมสะใจนางเสียเหลือเกิน
สาวใช้ได้รับคำสั่งจึงยอบกายแล้วหมุนกายเดินออกจากห้องไป เพื่อไปตามคุณหนูรองให้มาร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ เมื่อสาวใช้ไปตามถึงยังโรงเรือนย้อมสีผ้า ใช้เวลาราว ๆ สองก้านธูปก็มาถึง
“คุณหนูรองเจ้าคะ ฮูหยินให้มาตามคุณหนูไปร่วมงานเลี้ยงคืนนี้เจ้าค่ะ” สาวใช้ก้มหน้าก้มตา เพราะทราบดีว่านี่คือแผนของฮูหยินเพื่อทำให้คุณหนูรองอับอายขายหน้าต่อหน้าธารกำนัลในคืนนี้
“ข้ารู้สึกไม่สบาย อีกอย่างข้ารู้สถานะดีไม่อาจร่วมงานได้ กลับไปบอกท่านแม่ก็แล้วกัน” จินเสียงมีหรือจะไม่รู้ว่ามารดาผู้นั้นคิดเล่นงาน
“แต่ว่า...” สาวใช้พูดได้ไม่เต็มปากนัก ครั้นจะชักชวนก็หาได้กระทำเช่นนั้นไม่ ท่าทางของนางจึงอึกอัก
“ได้ ๆ ข้าไม่ทำให้เจ้าลำบากใจ ข้าจะกลับพร้อมกับเจ้าก็ได้” แม้รู้ว่าจะสร้างความลำบากใจให้แก่สาวใช้ หากนางไม่ไปตามคำสั่งของนางปีศาจร้ายนั่น สาวใช้ผู้นี้ย่อมต้องถูกลงโทษเป็นแน่
“คุณหนู บ่าว...บ่าว...” สาวใช้ยังคงก้มหน้ารู้สึกผิดมหันต์
“ข้ารู้ว่าเจ้าลำบากใจ หากข้าปฏิเสธเจ้าคงถูกท่านแม่โบยเป็นแน่ คืนนี้พวกนางคงทำให้ข้าอับอายขายหน้า คงทำให้ท่านแม่พอใจกระมัง” จินเสียงเอ่ยเสียงเศร้า
“คุณหนูรองก็ทราบ แต่ทำไมกันละเจ้าคะ” สาวใช้เดินตามแผ่นหลังของคุณหนูรอง นางก็หาได้เข้าใจเจตนาของนายสาวแต่อย่างใด
“ข้าก็ไม่ได้อยากอยู่ที่นี่สักเท่าไรนักหรอก” จินเสียงกดยิ้มเล็กน้อย “ถึงเวลาที่ข้าจะไปจากที่โสมมหลุดพ้นจากโคลนตมนี้เสียที ข้ารอมาตั้งนานแล้วว่าเมื่อไร ท่านพ่อจะเสือกไสข้า ไปให้พ้นจวนนี้เสียที คืนนี้แล้วสินะ...ข้าจะไม่ทำให้ท่านแม่ผิดหวัง!”