บทที่ 20 สวัสดีครับคุณเจียง
ถึงแม้ซุนเส้าหลงจะรู้สึกอับอาย แต่ตอนนี้จะไม่จ่ายเงินก็ไม่ได้ เขาจึงพูดเสียงต่ำว่า“พูดบ้าอะไรกัน?ไม่ได้เอาเงินสดมา ในมือถือก็ไม่มีรึไง?”
คนพวกนี้ถึงแม้จะไม่กล้าล่วงเกินซุนเส้าหลง แต่ก็ไม่อยากจ่ายเงิน ถ้าไม่บอกว่ามือถือแบตหมด ก็บอกว่าในบัตรไม่มีเงิน
พนักงานมองดูซุนเส้าหลงด้วยความแปลกใจ จนทำให้ซุนเส้าหลงเขินอาย
ซุนเส้าหลงไม่เคยพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน เขาไม่มีทางแล้วจริง จึงหันไปพูดกับเจียงเฉิงว่า“เจียงเฉิง ฉันจ่ายเงินแค่บิลก่อนหน้านั้น อีกห้าขวดที่นายดื่มนายจ่ายเองนะ”
เจียงเฉิงกำลังดื่มอย่างเพลิดเพลิน เมื่อได้ยินแบบนั้นจึงรีบกล่าวว่า“คุณชายซุนครับ ไม่มีเงินก็ไม่มีเงินสิครับ มาเสแสร้งทำท่าทางเป็นคนรวยทำไมล่ะ”
คำพูดของเจียงเฉิงทำให้ซุนเส้าหลงหน้าแดงก่ำในทันที เขาตะคอกออกไปว่า“ถ้านายมีเงิน นายก็จ่ายเองสิวะ?”
“จริงด้วย พูดเหมือนกับว่านายมีเงินอย่างงั้นแหละ วันนี้ถ้าไม่เป็นเพราะคุณชายซุนล่ะก็ แม้แต่ประตูของโรงแรมนายก็เข้ามาไม่ได้หรอกนะ”หยูตานมองเจียงเฉิงด้วยสายตาเหยียดหยาม
“ไอ้บ้านนอกเศษสวะ ไม่เคยกินเหล้าดีๆแบบนี้ ก็เอาแต่กินไม่หยุด แกมันหน้าไม่อาย”
“ไม่รู้จริงๆว่าสวี่ฉิงดาวมหาลัยของเราทำไมถึงชอบคนแบบนายได้ เป็นแมงดาไม่ว่า ยังไม่ยอมจ่ายเงินแม้แต่แดงเดียว”
คนอื่นๆอาศัยจังหวะนี้ช่วยซุนเส้าหลง กดขี่เจียงเฉิง
สวี่ฉิงได้ยินแบบนั้นจึงหันไปมองซุนเส้าหลง“ซุนเส้าหลง นายมันน่าขยะแขยงจริงๆ”
ถึงแม้ว่าซุนเส้าหลงจะถูกสวี่ฉิงดูถูก แต่ตอนนี้จ่ายเงินเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เขาไม่สนใจเรื่องอื่น
สวี่ฉิงกำลังจะหยิบกระเป๋าของตัวเองออกมา ทันใดนั้นเจียงเฉิงก็จับมือของสวี่ฉิงไว้ แล้วกล่าวว่า“คุณไม่ต้องหรอก ผมจ่ายเอง”
สวี่ฉิงมองไปที่เจียงเฉิงด้วยสีหน้าแปลกใจ เธอรู้ว่าเดือนๆหนึ่งเจียงเฉิงได้เงินเดือนเท่าไร แค่ไม่กี่พันเท่านั้นเอง จะจ่ายบิลราคาสูงขนาดนี้ได้อย่างไร
“นายตอแหลเหมือนจริงๆ?ฉันไม่เชื่อว่าขยะอย่างแกจะมีปัญญาจ่ายค่าเหล้าห้าขวดนี้”ซุนเส้าหลงพูดอย่างเย้ยหยัน
“นี่ เจียงเฉิง ถ้านายจ่ายเงินหนึ่งแสนนี้ได้จริงๆ ฉันจะกินโต๊ะนี้เดี๋ยวนี้เลย เป็นไง?”หยูตานมองไปที่เจียงเฉิงด้วยสีหน้าถากถาง
เจียงเฉิงได้ยินแบบนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก เขาหยิบบัตรสีทองออกมาจากกระเป๋าหนึ่งใบ แล้วมอบให้พนักงาน
หลังจากพนักงานเห็นบัตรสีทองนี้ ใบหน้าของเขาตกตะลึงทันที เขาพูดกับเจียงเฉิงว่า“ทุกท่านรอสักครู่นะครับ อย่าพึ่งไปไหนนะครับ”
เมื่อสิ้นเสียง พนักงานก็รีบวิ่งออกไปทันที
ซันเส้าหลงเห็นแบบนี้ จึงอดที่จะทึ่งไม่ได้ เขามองไปที่บัตรในมือของเจียงเฉิง แต่บัตรใบนั้นไม่เหมือนบัตรเอทีเอ็มนินา?
ในขณะที่ทุกคนงงงวย ด้านนอกมีเสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาอย่างเร่งรีบ มีชายสวมชุดสูทคนหนึ่งพุ่งเข้ามาในห้องวีไอพี
ชายผู้นี้ก็คือผู้จัดการของโรงแรมไข่ก้วน ติงเจิ้งหมิง คนที่ตามอยู่ด้านหลังล้วนมีแต่บุคลากรของโรงแรม
ซุนเส้าหลงกับหยูตานและคนอื่นๆเคยเห็นภาพแบบนี้ คิดว่าเป็นเพราะพวกเขาติดค่าอาหาร โรงแรมจึงเรียกคนมาสั่งสอนพวกเขา
ซุนเส้าหลงรีบกล่าวว่า“ทุกท่านครับ ผมคือคุณชายของซุนซื่อเรียลเอสเตท เราติดค่าอาหารจริงๆนั่นแหละ แต่ต้องโทษไอ้หมอนี่เลยครับ เขาสั่งเหล้าไปห้าขวด”
หยูตานรีบกล่าว“ใช่ค่ะ เขาเป็นคนจนๆคนหนึ่ง ไม่เคยดื่มเหล้าดีขนาดนี้ ถ้าพวกคุณจะเอาเงิน ก็ไปเอากับเขาเลยค่ะ ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรานะคะ”
ติงเจิ้งหมิงเมินเฉยต่อคำพูดของพวกซุนเส้าหลง และถามพนักงานก่อนหน้านี้ว่า“เมื่อกี้ใครเป็นคนเอาบัตรให้นาย?”
พนักงานรีบพูดกับเจียงเฉิงว่า“เขาครับ”
ติงเจิ้งหมิงรีบเดินไปทางเจียงเฉิง เมือ่ซุนเส้าหลงและคนอื่นๆเห็นดังนั้น จึงรู้สึกมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น เห็นทีคราวนี้เจียงเฉิงหาเรื่องใส่ตัวซะแล้ว
“สวัสดีครับคุณเจียง กระผมคือผู้จัดการของโรงแรมไข่ก้วนกิจการภายใต้บริษัทฟางหยวนกรุ๊ปนะครับ ผมชื่อติงเจิ้งหมิง ไม่ทราบว่าคุณเจียงผู้ถือบัตรมาสเตอร์การ์ด คุณเจียงได้โปรดอภัยให้ด้วยนะครับ”พูดจบติงเจิ้งหมิงก็โค้งทำความเคารพให้กับเจียงเฉิง
พนักงานคนอื่นระดับผู้จัดการ ต่างทำความเคารพเขา และกล่าวย่างพร้อมเพรียงกันว่า“สวัสดีครับคุณเจียง!”