บทที่ 8 ซื้อที่
ยามเฉิน(07.00-08.59 น.) หลังจากที่ลี่อินรดน้ำสวนผักหลังกระท่อมน้อยเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวจึงได้อุ้มเสี่ยวเหลียนออกจากบ้าน มุ่งหน้าไปยังเรือนหัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อทำการเจรจาขอซื้อที่ดินจำนวนห้าหมู่ ตรงกระท่อมน้อยที่นางกับบุตรสาวใช้พักอาศัย
เพราะเกรงว่าหากช้าไปมากกว่านี้จะมีผู้มาขอซื้อไปก่อน พื้นที่ตรงนั้นเป็นทำเลดีสำหรับลี่อิน นางสามารถปลูกผักและทำการเกษตรได้ง่าย เนื่องจากใกล้กับคลองน้ำสะดวกต่อการรดน้ำผัก และยังง่ายต่อการนำมาใช้สอยอุปโภคบริโภคด้วย
ลี่อินดีใจมากที่ได้พบกระเป๋าเดินทาง ไม่เช่นนั้นต่อให้ทำงานให้ตายก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหาเงินจำนวนยี่สิบตำลึงได้ครบ ลำพังแค่ขายพืชผลที่หามาได้ทั้งเดือน เก็บเงินได้เพียงแค่สิบอีแปะเท่านั้น
ลี่อินใช้เวลาเดินในไปเรือนหัวหน้าหมู่บ้านถึงสองเค่อ (30นาที) ไม่ใช่เพราะว่ากระท่อมของนางอยู่ไกลมากแต่อย่างใด แต่เพราะเจ้าตัวน้อยอยากจะลงเดินเอง ทั้งที่แค่จะยืนด้วยขาตนเองยังโยกเยกไปมา ไม่ค่อยจะมั่นคงกว่าจะไปได้แต่ละก้าว ลี่อินก็แทบอยากจะอ้อนวอนขอให้ท่านแม่อุ้มเจ้าเถอะนะเสี่ยวเหลียน
“เสี่ยวเหลียนมาให้แม่อุ้มเจ้าเถอะ ให้เจ้าเดินเองเมื่อไหร่จะถึงบ้านท่านลุงหวงล่ะลูก” ลี่อินแทบจะร้องไห้ ไม่รู้ว่าบุตรสาวได้ความดื้อรั้นมาจากผู้ใดกัน
“แม่ เดิน” ขาป้อมๆ จะก้าวไปข้างหน้าอย่างเดียว มิได้ฟังมารดาพูดเลยแม้แต่น้อย
“มาให้แม่อุ้มเร็วเข้า ถ้าเจ้าไม่เชื่อฟังแม่จะให้อดขนมหนึ่งวันนะรู้ไหม” ในเมื่อใช้ไม้อ่อนไม่ได้ผล งานนี้ต้องยกเอาของกินมาล้อกันแล้ว
“อุ้มๆ” เมื่อได้ยินว่าตนจะต้องอดขนมแสนอร่อยตั้งหนึ่งวัน มีหรือนางจะดึงดันต่อ รีบชูมือให้กับท่านแม่อุ้มโดยไม่รอให้มารดาพูดซ้ำ
“เปลี่ยนใจเร็วเหลือเกินนะเจ้าตัวยุ่ง” อดมันเขี้ยวเจ้าลูกหมีไม่ได้ ต้องดึงจมูกรั้นนั้นโยกไปมา ส่วนคนที่ถูกมารดาแกล้งก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจ
กว่าจะถึงเรือนผู้นำหมู่บ้านอย่างท่านลุงหวง ก็เล่นเอาลี่อินถึงกับเหนื่อยหอบ ระหว่างทางต้องสู้รบตบมือกับเสี่ยวเหลียนน้อย ทั้งแวะเก็บดอกไม้ข้างทาง ดูนกดูผีเสื้อกว่าจะมาถึงบ้านท่านลุงหวงได้ก็เสียเวลาไปมากโข
“ท่านลุงหวงอยู่บ้านหรือไม่เจ้าคะ” หญิงสาวชะเง้อคอมองอย่างใคร่รู้ บริเวณบ้านดูเงียบเหมือนไม่มีผู้ใดอยู่ ไม่ใช่ว่านางจะมาเสียเที่ยวหรอกนะ
“อยู่ผู้ใด อ้าวลี่อินเองหรือเข้ามาในบ้านก่อน” รอไม่นานภรรยาของท่านลุงหวงออกมาเปิดประตูให้ทั้งสองแม่ลูก ท่านป้าชินเป็นคนจิตใจดีและอารมณ์ดีและเอ็นดูเสี่ยวเหลียนมาก ยามใดที่เข้าเมืองท่านป้าชินจะมีขนมติดไม้ติดมือมาฝากเสี่ยวเหลียนเสมอ
“คารวะท่านลุงกับท่านป้าเจ้าค่ะ” เมื่อเข้ามาในบ้านหญิงสาวโค้งตัวเล็กน้อยให้กับลุงหวงและป้าชิน
“เหลียน เหลียน” ส่วนเสี่ยวเหลียนก็ไม่แพ้กัน เมื่อเห็นว่ามารดาที่อุ้มตนอยู่ ทำความเคารพท่านตาท่านยาย นางมีหรือจะไม่ทำตาม
ความน่ารักและรู้ความทำให้คนแก่ทั้งสองต่างอมยิ้ม หากเป็นลูกเป็นหลานที่แท้จริงของพวกท่าน จะทั้งรักทั้งหลงขนาดไหนกันนะ มารดาอย่างลี่อินก็ช่างสอนบุตรสาวได้ดีจริงๆ ถ้าบุตรชายตนยังไม่แต่งงานทั้งสองผู้เฒ่าก็มิรังเกียจหากจะรับลี่อินเป็นสะใภ้
“เจ้ามีอะไรหรือถึงได้มาหาลุงแต่เช้าเชียว” เมื่อนั่งลงเรียบร้อยท่านลุงหวงเอ่ยถามขึ้น
ส่วนเสี่ยวเหลียนภรรยาเขาได้พาออกไปเล่นด้านนอกแล้ว จะได้ไม่ต้องรบกวนในยามที่ผู้ใหญ่คุยกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือภรรยาของเขาคงจะเหงา พอมีเสี่ยวเหลียนมาหาคงจะขลุกอยู่ด้วยกันไม่ไปไหน
“คือว่าข้าอยากจะขอซื้อที่ ตรงที่ข้าอาศัยอยู่ห้าหมู่เจ้าค่ะ” ลี่อินรีบบอกถึงธุระที่นางมาหาท่านลุงหวงแต่เช้า
แต่เมื่อเห็นท่านลุงทำหน้าฉงน หญิงสาวจึงรีบอธิบายถึงที่มาของเงิน เพราะคนที่พลัดถิ่นมาไม่มีที่อยู่อย่างนาง จะหาเงินจากที่ไหนมาได้มากมายถึงเพียงนี้ คงจะไม่พ้นคิดว่าไปขโมยของคนอื่นมาก็เท่านั้น
“คือข้ามีเงินซื้อนะเจ้าคะท่านลุง ข้านำเครื่องประดับที่ติดตัวมาไปขายเจ้าค่ะ” หญิงสาวพูดโป้ปดเรื่องที่นำเครื่องประดับไปขายอะไรนั่นไม่มีหรอก ถ้าบอกว่านางมีเงินหลายพันตำลึงในกระเป๋าวิเศษก็คงถูกหาว่าบ้า
“ลุงก็ไม่ได้ว่าอันใดเจ้า ลุงแค่ไม่เข้าใจซื้อที่ไปแล้วไยต้องมาซื้ออีก” ก็เมื่อไม่นานมานี้มีคนของท่านนายอำเภอมาขอซื้อที่จำนวนแปดหมู่ แล้วยังบอกด้วยว่าแม่นางลี่อินวานเป็นธุระให้ เพราะกลัวว่านางไม่ใช่คนในหมู่บ้าน จะไม่ยอมขายให้คนต่างถิ่นที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า แล้ววันนี้นังหนูลี่อินถึงได้มาถามซื้ออีกได้เล่า
“อะไรนะเจ้าคะ มีคนซื้อไปแล้วหรือ โธ่! ข้ามาช้าไปหรือนี่” หญิงสาวทำหน้าบอกบุญไม่รับ นางก็อุตส่าห์เร่งรีบมาขอซื้อทันทีที่มีตำลึงเงิน แต่นี่อะไรนางมาช้าเกินไป แล้วผู้ใดที่มาขอซื้อไปก่อนนางกันแบบนี้นางกับเสี่ยวเหลียนจะไปอยู่ที่ไหน
“อ้าว! ก็เจ้าวานให้คนของท่านนายอำเภอมาซื้อที่ให้มิใช่หรือ ซื้อไปทั้งหมดแปดหมู่เชียวนะ” ท่านลุงหวงถามอย่างแปลกใจ เหตุใดถึงได้ทำเหมือนไม่รู้เรื่อง
“ข้าไม่เคยรู้จักคนของนายอำเภอนะเจ้าคะท่านลุง นายอำเภอคือผู้ใดหน้าตาอย่างไรข้าก็ยังไม่รู้จักเจ้าค่ะ” คิ้วบางขมวดมุ่น นอกจากเข้าป่าแล้วนางก็แทบจะไม่ได้ไปที่ใดเลย จะรู้จักคนนอกหมู่บ้านได้อย่างไร ยิ่งเป็นถึงท่านนายอำเภอด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้
ท่านลุงหวงได้ยินเช่นนั้นจึงได้ลุกเดินเข้าห้องไปโดยไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะกลับมาพร้อมกับม้วนกระดาษในมือ และยังมีหนังสือบันทึกอีกหนึ่งเล่ม พร้อมกับยื่นมาให้ลี่อินได้ดู
“จะเป็นอย่างที่เจ้าพูดได้อย่างไร หนังสือการโอนชื่อเป็นชื่อเจ้าพร้อมประทับตรา ข้าว่าพรุ่งนี้จะเอาหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินไปให้เจ้าอยู่เลย” ท่านลุงหวงกางม้วนกระดาษพร้อมกับชี้ให้ดูชื่อผู้ครอบครองที่ดิน มันได้ถูกบันทึกเป็นชื่อของนางเป็นผู้ถือครอง บ่งบอกให้รู้ว่าท่านลุงหวงไม่ได้พูดเล่น
ลี่อินรีบกวาดตาดูชื่อตามที่ท่านลุงชี้ให้นางดู มันเป็นชื่อของนางจริงๆ แล้วเหตุใดท่านนายอำเภอที่ไม่เคยรู้จักกัน ถึงได้ซื้อที่ดินให้กับนางได้กัน
“เป็นชื่อข้าจริงด้วยเจ้าค่ะท่านลุง”
“เจ้ามาวันนี้ก็ดีแล้ว เช่นนั้นก็เอาหนังสือนี่ไปเลยก็แล้วกัน” ลุงหวงหัวหน้าหมู่บ้านรีบม้วนเก็บแผ่นกระดาษแล้วยื่นให้กับลี่อิน ก็ดีเหมือนกันพรุ่งนี้ตนมีธุระอย่างอื่นอีกหลายที่ หากตัดเรื่องเอาหนังสือที่ดินไปให้ลี่อินอีกเรื่อง งานคงจะเสร็จเร็วขึ้น
“ขอบคุณเจ้าค่ะ ท่านลุงพอจะทราบหรือไม่ข้าจะพบท่านนายอำเภอได้อย่างไร” นางอยากจะพบและสอบถามเรื่องที่ดินนี่ให้รู้เรื่อง อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้ และจะจ่ายเงินค่าที่ดินทั้งหมดคืนท่านนายอำเภอด้วย
“ช่วงนี้ท่านนายอำเภอจะยุ่งออกตรวจพื้นที่และความเป็นอยู่ของชาวบ้าน คงจะหาตัวยากสักหน่อย เอาไว้ให้งานท่านอยู่ตัวก่อน ข้าจะพาเจ้าไปพบที่อำเภอก็แล้วกัน” เพราะต้องมารับช่วงต่อจากคนเดิมที่ก่อเรื่องไว้มาก นายอำเภอคนใหม่คงจะยุ่งไม่น้อย ลุงหวงจึงบอกลี่อินไปเช่นนั้น
“เจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าไม่รบกวนท่านลุงแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะเจ้าคะ” เมื่อเห็นว่าหมดธุระที่นางมาวันนี้แล้ว จึงไม่อยากจะอยู่รบกวนนาน หญิงสาวจึงได้ขอตัวลากลับ
หลังจากได้กล่าวลาท่านลุงหวงกับท่านป้าชินผู้เป็นภรรยา ลี่อินก็รีบพาบุตรสาวตัวน้อยกลับบ้าน เพราะนางอยากจะเดินสำรวจพื้นที่ พลางคิดไปด้วยระหว่างทางกลับกระท่อมน้อย จะทำสิ่งใดต่อจากนี้ดี ภายในหัวน้อยๆ มีสิ่งที่อยากทำผุดขึ้นมามากมาย
นางอยากสร้างบ้านใหม่เหมือนบ้านในฝันที่เคยคิดไว้ ทำสวน ปลูกผักผลไม้ เลี้ยงสัตว์ ปรับปรุงพื้นที่ทั้งหมดให้กลายเป็นอาณาจักรของนางเอง และได้อยู่กับบุตรสาวตัวน้อยอย่างมีความสุข คงจะไม่มีอะไรดีไปมากกว่านี้แล้ว
