บท
ตั้งค่า

ตอนที่2 แผนรับมือ

“สวรรค์ฉันทำผิดอะไรมากนักอย่างนั้นเหรอ ฉันเพิ่งตกหน้าผาตายมาแท้ ๆ ทำไมส่งฉันมาตายอีกแล้ว หรือว่าครั้งก่อนฉันตายทรมานไม่พอ ครั้งนี้จึงส่งฉันมาให้ตาอ๋องผู้โหดเหี้ยมนั้นทรมานจนตายอีกรอบ”

จ้าวฉือลี่ยังไม่ทันจะกล่าวตัดพ้อในโชคชะตาของตนเองเสร็จ เสวี่ยเฟิงก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน

“คุณหนูขอรับ ถึงข้าจะไม่รู้ว่าท่านพูดอันใดอยู่ แต่ยามนี้พวกเรากลับไปจวนตระกูลเผยก่อนเถอะขอรับ หากคนขององค์รัชทายาทหรือคนของชินอ๋องมาเจอพวกเราตอนนี้คงไม่อาจรักษาชีวิตไว้ได้ แต่หากเราไปถึงจวนตระกูลเผยพวกเราอาจมีทางรอด”

เมื่อได้ยินคำว่า ‘อาจมีทางรอด’ จ้าวฉือลี่ถึงกับได้สติ ถึงเวลาจะกระชั้นชิดแต่ก็ถือว่ายังมีโอกาสให้ทุกคนรอดตาย

นางพยายามนึกถึงเนื้อเรื่องในนิยายเรื่องนี้เพื่อหาทางออก แต่เพราะนักเขียนเทงานไว้กลางทางลงตอนสุดท้ายไว้3เดือนแล้วไม่ยอมกลับมาแต่งต่อให้จบ ทำให้นางนั้นจำรายละเอียดทุกอย่างได้ไม่ชัดเจนนัก

นางจำได้ว่าตอนสุดท้ายเผยตั้นเยี่ยนและคนรับใช้ข้างกายทั้งสามถูกเว่ยเหวินเซียนทรมานจนตาย โดยการจับขึงไว้ที่กลางลานฝึกทหารส่วนตัวของเว่ยเหวินเซียน และใช้แส้เฆี่ยนตีทุกวันวันละ50ครั้ง มิหนำซ้ำบางวันเว่ยเหวินเซียนอารมณ์ไม่ดีก็จะมาระบายอารมณ์ลงมือทรมานนางด้วยตนเอง บางครั้งก็ใช้แส้เฆี่ยนตีบางครั้งก็ใช้มีดกรีดไปตามใบหน้าและลำตัวของนาง

พวกนางไม่ได้ทรมานจากการถูกลงทัณฑ์เท่านั้น แต่ยังต้องทนกับอาการป่วยแทรกซ้อนเพราะยามกลางวันตากแดด ยามกลางคืนถูกลมหนาว เมื่อบวกกับบาดแผลเผยตั้นเยี่ยนและคนรับใช้ทั้งสามก็ทนไม่ไหวล้มตายไปทีละคนภายในไม่ถึง7วันเท่านั้น

และคนสุดท้ายที่ตายก็คือเผยตั้นเยี่ยน เพราะเว่ยเหวินเซียนนั้นให้หมอมารักษานางเพื่อให้นางได้ดูการตายของคนรับใช้ข้างกาย และหวังจะยื้อนางให้ทรมานนานกว่านี้ แต่ทว่าไม่รู้ว่าโชคดีหรือไรที่นางไม่อาจทนไหวจึงตายตามคนรับใช้ไป

เพียงแค่จ้าวฉือลี่นึกถึงความตายที่แสนทรมานรออยู่ด้านหน้าก็ทำนางหวาดกลัวขึ้นมาทันที แต่สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดของมนุษย์ก็ทำให้นางคิดหาทางออกขึ้นมาได้

“คนชุดดำผ่านไปหรือยัง” จ้าวฉือลี่จำได้ว่าเว่ยหลิงเฮ่อจะต้องส่งคนมา2ชุด ชุดแรกนั้นคงตามรถม้าไปแล้ว ส่วนอีกชุดจะใส่ชุดดำปลอมเป็นโจรมาปล้นตราพยัคฆ์ แต่ทว่าพวกของเว่ยหลิงเฮ่อทั้งสองชุดจะโดนคนของเว่ยเหวินเซียนสังหารทั้งหมด และหลังจากนั้นไม่ถึงหนึ่งเค่อเว่ยเหวินเซียนจะเจอพวกนางทั้งสามคน

“ชุดดำหรือเจ้าคะ” ฉุยฉุยเอ่ยถาม

“ดูจากที่เจ้าไม่รู้เรื่องแสดงว่าพวกเขายังไม่ผ่านไป เช่นนั้นก็ดีพวกเราจะได้มีเวลามากขึ้นอีกหน่อย” จ้าวฉือลี่ระบายลมหายใจออกมาก่อนจะเอ่ยถึงแผนการให้คนทั้งสองตรงหน้าฟัง

“เสวี่ยเฟิงเจ้าเอาตราพยัคฆ์กลับไปที่จวนของชินอ๋อง แล้วเอาตราพยัคฆ์ไปแอบไว้แถว ๆ เรือนนอนของบ่าวรับใช้ ยามนี้กำลังคนที่รักษาจวนชินอ๋องอยู่น่าจะน้อยลงมาก เพราะชินอ๋องนำคนออกมาตามหาข้าและตราพยัคฆ์ ด้วยฝีมือเจ้าน่าจะลอบเข้าไปได้ไม่ยาก หลังจากนั้นเจ้ารีบไปจวนตระกูลเผยเอารถม้าและตามคนมาบอกว่ามีคนดักทำร้ายข้า หลังจากนั้นก็แสร้งตามหาข้าตรงทางสามแยกข้างหน้าสักหนึ่งเค่อ แล้วค่อยไปแจ้งชินอ๋องว่าข้าหายตัวไป เจ้าทำได้หรือไม่”

“ทำได้ขอรับ แล้วคุณหนูจะทำอันใดต่อขอรับ” เสวี่ยเฟิงถามด้วยความเป็นห่วง เพราะหากเขาไปแล้วมีคนของเว่ยเหวินเซียนหรือเว่ยหลิงเฮ่อมา เพียงลำพังฉุยฉุยคงไม่อาจรับมือได้

“เจ้าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวข้ากับฉุยฉุยจะไปหลบอยู่ในป่าไผ่แถว ๆ สามแยก หากชินอ๋องมาเจอข้าก็จะบอกว่ามีคนดักทำร้ายข้า และเพราะข้าได้รับบาดเจ็บจึงซ่อนตัวอยู่ตรงนั้น แล้วให้เจ้าไปตามคนมาช่วย จำเอาไว้ไม่ว่าจะถูกคาดคั้นมากเท่าใดก็บอกเพียงเท่านี้ก็พอ นอกนั้นข้าจะจัดการเอง”

เมื่อคนทั้งคู่ตรงหน้าพยักหน้ารับรู้นางก็ล้วงเข้าไปในแขนเสื้อหยิบตราพยัคฆ์ออกมาให้เสวี่ยเฟิง ขณะนั้นเองชายชุดดำก็ขี่ม้าผ่านไปพอดี ฉุยฉุยกับเสวี่ยเฟิงถึงกับดวงตาเบิกโตเพราะทั้งคู่ไม่รู้ว่าเหตุใดคุณหนูถึงรู้ว่าจะมีบุรุษชุดดำขี่ม้าผ่านมา

“ไปได้แล้วอย่ามัวชักช้า เวลาของพวกเราเหลือไม่มากแล้ว” จ้าวฉือลี่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าทั้งคู่นั้นมัวแต่เหม่อลอย

“เสวี่ยเฟิงอย่าใช้เส้นทางเดิมที่นั่งรถม้ามา ให้เจ้าใช้เส้นทางอื่น” จ้าวฉือลี่เกือบลืมบอกไปแล้ว โชคดีที่นางนั้นนึกขึ้นมาได้ทัน ไม่เช่นนั้นเสวี่ยเฟิงต้องไปเจอกับคนของเว่ยเหวินเซียนแน่นอน

เสวี่ยเฟิงที่กำลังจะก้าวเท้าไป หันหน้ามาพยักหน้ารับรู้ทันที ก่อนจะรีบไปทำตามคำสั่งของผู้เป็นนาย ส่วนฉุยฉุยกับจ้าวฉือลี่ก็รีบเดินไปยังทางสามแยกอย่างรวดเร็ว ยามนี้นางนั้นหวังเพียงว่าขอให้เป็นไปตามที่นิยายเขียนเอาไว้ ที่จิ่งหลินนั้นบอกกับเว่ยเหวินเซียนว่าพวกนางโดนคนร้ายดักทำร้าย โดยไม่ทราบว่าคนเหล่านั้นเป็นใคร

จ้าวฉือลี่กับฉุยฉุยเดินเลยสามแยกที่แยกไปจวนชินอ๋องกับจวนตระกูลเผย ส่วนอีกเส้นทางคือทางที่พวกนางไปยังเรือนที่ใช้นัดพบกับเว่ยหลิงเฮ่อ เมื่อพวกนางมาถึงก็มิได้เดินต่อ นางเพียงหากอไผ่ขนาดใหญ่เพื่อซ่อนตัว ถึงนางจะรู้ว่าเว่ยเหวินเซียนจะต้องหาตัวนางเจอก็ตาม

พวกนางอยู่ในจุดที่ใช้ซ่อนตัวไม่ถึงครึ่งเค่อ เสียงฝีเท้าม้าและเสียงคนจำนวนมากก็ดังเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ หัวใจของจ้าวฉือลี่เต้นรัวเร็วและแรงเสียจนแทบจะทะลุออกมาจากอก เพราะนางนั้นไม่แน่ใจว่าจะสามารถโกหกเว่ยเหวินเซียนได้อย่างแนบเนียนหรือไม่ เพราะอย่างไรเขาก็เป็นพวกขึ้นชื่อเรื่องความฉลาดและมีความสามารถไม่เป็นรองใคร นางจึงกลัวว่าเขาจะจับผิดนางได้

ฉุยฉุยเอื้อมมือมาจับมือคุณหนูของนางเมื่อเห็นว่าสีหน้าและแววตานั้นฉายแววหวาดกลัววิตกกังวลจนชัดเจน มือขาวเนียนนุ่มของเผยตั้นเยี่ยนเย็นเฉียบ ฉุยฉุยถูมือให้คุณหนูของนางเพื่อทำให้อุ่น พร้อมกับเอ่ยเพื่อให้คุณหนูของนางสบายใจ

“คุณหนูเจ้าคะ อย่ากังวลเลยเจ้าค่ะ ฮูหยินที่อยู่บนสวรรค์จะต้องคุ้มครองคุณหนูให้ปลอดภัยอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”

จ้าวฉือลี่หันไปมองฉุยฉุยพร้อมกับยิ้มแห้ง ๆ ‘เรื่องโกหกทั้งนั้น ถ้าคนตายคุ้มครองได้จริง พ่อแม่ของฉันที่ตายไปก็คงไม่ปล่อยให้ฉันหนีพวกทวงหนี้จนพลัดตกหน้าผาลงมาตายเช่นนี้หรอก’

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel