1 ยุติธรรมกับทุกคน
“คุณศรุตครับหัวหน้าฝ่ายบัญชีแจ้งว่าสามเดือนแล้วที่ติดต่อญาติของยายสน ไม่ได้พวกเขาไปหาตามที่อยู่แล้วปรากฏว่าที่อยู่นั้นเป็นบ้านเช่าพอยายสนเสียชีวิตที่นั่นก็ไม่มีใครอยู่เลย” นรเทพรายงานเจ้านายตามที่ได้รับแจ้งจากหัวหน้าฝ่ายบัญชี
“แล้วติดต่อหลายชายยายสนได้ไหม”
“ตอนนี้เรามีแค่ที่อยู่และข้อมูลของหลานสาวยายสนเท่านั้นครับ คุณศรุตจะให้เราแจ้งไปทางหลานสาวไหม”
“ก็คงจะต้องแจ้งไปแล้วก็เรียกมาคุยถึงรายละเอียด ยายสนเป็นหนี้เราอยู่ประมาณสี่แสนถ้าฉันจะยกหนี้ส่วนนี้ให้มันก็ได้อยู่เพราะยายสนทำงานกับเรามานานแต่ ถ้าฉันยกหนี้ให้ยายสนมันก็ไม่ยุติธรรมกับพนักงานคนอื่นที่กู้เงินกับบริษัท ถ้ายังไงนายช่วยเรียกหลานสาวยายสนมาคุยกับฉันหน่อยก็แล้วกันนะ”
“ได้ครับคุณศรุตเดี๋ยวผมจะจัดการให้”
หลังจากนั้นอีกสามวันหญิงสาวสวมชุดนักศึกษาคนหนึ่งก็เข้ามาหาศรุตที่บริษัท
“สวัสดีค่ะคุณศรุตหญิงสาว” ยกมือไหว้อดีตเจ้านายของยายและนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอกับเจ้านายของคุณเพราะที่ผ่านมาจะได้ยินแต่คุณยายพูดถึงเขาอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังไม่เคยเจอสักครั้ง
“สวัสดี นั่งลงก่อนสิ”
“ขอบคุณค่ะ”
ศรุตมองหลานสาวของยายสนด้วยความสนใจ เขาไม่คิดเลยว่ายายสนพนักงานที่ทำงานเป็นแม่บ้านของเขามานานหลายปีจะมีหลานสาวที่สวยและหุ่นดีเอามากๆ แบบนี้ เสือผู้หญิงอย่างเขาไม่เคยรู้สึกกระหายอยากจะขย้ำเหยื่อแบบนี้มาก่อน
“เธอเป็นหลานสาวของยายสนใช่ไหมชื่ออะไรล่ะ”
“ชื่อนลินภัสร์ค่ะคุณจะเรียกว่ามายด์ก็ได้
“เธอรู้มั้ยว่าฉันเรียกเธอมาหาที่นี่เพราะอะไร”
“มายด์ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ บางทีอาจจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณยายใช่ไหมคะ”
“ใช่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับยายของเธอนั่นแหละ ก่อนเสียชีวิตได้คุยอะไรกับยายบ้างหรือเปล่า”
“เราก็คุยกันตามปกติค่ะ”
“ยายเคยบอกอะไรเกี่ยวกับบริษัทบ้างไหม”
“ส่วนใหญ่ที่ยายเล่าให้ฟังก็เป็นเรื่องทั่วๆ ไปค่ะ ยายว่าทำงานที่บริษัทนี้เจ้านายใจดีเพื่อนร่วมงานดี มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“จริงๆ แล้วฉันก็เห็นใจเธอนะ ยายเพิ่งเสียไปได้ไม่กี่เดือนแต่เรื่องนี้ฉันก็จำเป็นที่จะต้องเรียกเธอเข้ามาพูด”
“มันเรื่องอะไรกันคะคุณศรุตคุณรีบบอกมายด์ด์มาเถอะค่ะ”
“ก็ยายของเธอกู้เงินในบริษัทไปสี่แสนบาท”
“อะไรนะยายจะกู้เงินไปเยอะแยะแบบนั้นไปทำไม”
นลินภัสร์ตกใจเป็นอย่างมากเพราะเธอเรียนในมหาวิทยาลัยรัฐบาลค่าเทอมไม่ได้แพงมากนักอีกทั้งตนเองก็ทำงานพิเศษหาเงินเพื่อจะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายจนแทบจะไม่เคยขอเงินยายใช้เลยด้วยซ้ำ
“ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่ายายเธอกู้เงินไปทำไม เขาอาจจะกู้ไปส่งให้เธอเรียนหรือเปล่า”
“เป็นไปไม่ได้เลยค่ะ มายด์เรียนเรียนมหาวิทยาลัยรัฐบาลค่าเทอมไม่ได้แพงเท่าไหร่แล้วมายด์ก็ทำงานพิเศษส่งตัวเองเรียนทั้งนั้นบางทีเงินที่ยายกูจากบริษัทไปยายอาจจะเอาไปให้คนอื่น”
“คนอื่นที่เธอพูดถึงหมายด์ถึงพี่ชายของเธอใช่มั้ยล่ะ”
“คุณศรุตรู้เหรอคะว่ามายด์มีพี่ชาย”
“รู้สิยายของเธอเคยเล่าให้ฟังว่ามีหลานอยู่สองคนชื่อไม้กับมายด์ เธอลองติดต่อพี่ชายเธอดูสิว่ายายของเธอได้เอาเงินไปให้เขาหรือเปล่า”
“มายด์เจอกับพี่ไม้ครั้งสุดท้ายก็ตอนงานศพยาย จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย”
“ก่อนหน้านี้พี่เธอ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าล่ะถึงต้องใช้เงินมากขนาดนั้น”
คำถามของศรุตทำให้นลินภัสร์พอจะเดาออกว่ายายกู้เงินมากขนาดนั้นก็น่าจะเอาไปให้พี่ชายของเธอ ซึ่งเขาบอกว่ากำลังลงทุนทำธุรกิจบางอย่างกับเพื่อนแล้วถ้าธุรกิจนี้ประสบผลสำเร็จเขาจะได้เงินมาอย่างมากมาย
“ฉันจะให้โอกาสเธอติดต่อพี่ชายและเอาเงินมาผ่อนชำระหนี้นะ”
“ขอบคุณค่ะ คุณศรุตมายด์จะรีบติดต่อพี่ไม้ให้ได้เร็วที่สุด มายด์ขอถามอะไรอย่างหนึ่งได้ไหม”
“เธอจะถามอะไรล่ะมายด์”
“ถ้ามายด์ติดต่อพี่ชายไม่ได้แล้วคนที่จะต้องใช้หนี้ก็คือมายด์หรือเปล่า”
“มันก็คงต้องเป็นอย่างนั้น”
"แต่มายด์เคยได้ยินว่าคนที่รับมรดกไม่จำเป็นจะต้องใช้หนี้ของคนที่เสียชีวิตไปแล้วถ้าหากจำนวนหนี้นั้นมันมากกว่าจำนวนมรดกใช่ไหมคะ”
“ดูเหมือนเธอจะรู้เรื่องพวกนี้ดีนะ ถ้าตามหลักแล้วมันก็เป็นยังนั้น แต่ในกรณีของคุณยายท่านไม่มีหลักทรัพย์อะไรมาค้ำประกันเลยท่านจึงลงบันทึกไว้ว่าถ้าหากท่านเป็นอะไรไปคนที่จะต้องรับผิดชอบหนี้สินทั้งหมดก็คือเธอกับพี่ชายของเธอ จะดูสัญญาไหม”
ศรุตคิดไว้แล้วว่าคนมีความรู้อย่างหลานสาวคุณยายสนจะต้องเอาข้อนี้มาอ้างแน่ๆ เขาเลยเตรียมเอกสารที่ยายสนเซ็นไว้ตั้งแต่วันแรกเอามาให้กับหญิงสาวดู
เอกสารในสัญญาระบุไว้ตามที่ศรุตบอกจริงๆ นลินภัสร์อ่านข้อความนั้นซ้ำไปซ้ำมาแล้วถอนหายใจ เงินมากถึงสี่แสนแบบนั้นเธอจะมาหาเธอจะหาที่ไหนมาใช้คืนเขาได้
“มายด์ขอติดต่อพี่ชายก่อนได้ไหมคะ จากนั้นจะยังไงต่อมายด์ค่อยมาบอกคุณอีกที”
“ฉันจะให้เวลาเธอหนึ่งอาทิตย์นะถ้ายังติดต่อเขาไม่ได้เงินทั้งหมดเธอก็จะต้องเป็นคนใช้เอง”
“ได้ค่ะ ถ้ายังงั้นมายด์ขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“หวังว่าอีกหนึ่งอาทิตย์ฉันจะได้รับข่าวดีจากเธอนะมายด์”
“แน่นอนค่ะคุณศรุต”