ตอนที่ 2 ผักบุ้ง
มาแล้วจร้า พีรดา จันเต็มหรือจะเรียกฉันว่าผักบุ้งก็ได้ ฉันคือสาวน้อยสู้ชีวิต พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อตา และค่ายมวยของตัวเอง ฉันเป็นนักมวยในค่ายและยังเป็นคนดูแลค่ายอีกด้วย แต่เพราะที่ค่ายกำลังมีปัญหาฉันจึงต้องออกมาหางานทำเพื่อหาเงินไปจุนเจือค่าของฉัน
ฉันขับมอไซค์เพื่อที่จะกลับบ้าน เพราะคงจะไปต่อไม่ไหวละกนะ เจ็บทั้งหัว เจ็บทั้งตัวขนาดนี้ ไหวก็บ้าละ แต่ก็ไม่วายสายตาดันไปเห็นป้ายประกาศตรงเสาไฟซะก่อน แต่ที่มันสะดุดตาที่สุดก็คือเงินเดือนนี้แหละ
“30000 เลยหรอวะ ทำไมมันเยอะแบบนี้อ่ะ มันงานอะไรวะเนี้ย”
ฉันพึมพำกับตัวเองด้วยความสงสัย แล้วด้วยความที่เงินมันเยอะฉันมาก ฉันจะปล่อยงานนี้ให้หลุดมือไปไม่ได้เด็ดขาด ฉันจึงรีบหยิบมือถือขึ้นมา แต่ก่อนอื่น ต้องกด *121# ก่อนเลย
ฟิ้ววววววววววว ข้อความเข้ามา มันบอกว่า ฉันเหลือเงินแค่ 5 บาทอะไรเนี้ย เหลือแค่นี้เองเหรอแต่ก็ เอาวะ 5 บาทก็คุยได้ฉันเลยกดเบอร์นั้นทันที
“สวัสดีค่ะ ผับ ANGLE WHITE ค่ะ”
เสียงคนปลายสายฟังโคตรจะลื่นหูดูดีมีชาติตระกูลสุดๆเลย ดูท่างานนี้จะยากหน่อยเพราะเขาน่าจะคัดคนที่หน้าตาแล้วหละ แต่ก็นะ ลองถามไปก่อนละกันเผื่อว่าจะฟลุ๊คได้งานนี้จริงๆ
"คือ จะสอบถามเกี่ยวกับงานที่แปะไว้ตรงเสาไฟอะค่ะ”ฉันถามกลับคนในสายทันที ซึ่งนางอึ้งไปแปบนึงเลยนะ
“เอ่อออ ได้ยินมั้ยคะฮัลโหล ยังอยู่ป”"
“อยู่ค่ะ”โหนานมากเลยนะกว่าจะตอบเราอ่ะ
“ถ้าเกี่ยวกับเงินเดือน 3 หมื่น คุณต้องเข้ามาคุยที่ผับเองนะคะ รีบหน่อยก็ดีเพราะมีคนสนใจเยอะมากเลยค่ะ”
ปัจจุบันทันด่วนขนาดนั้นเลยเหรอ นี่มันงานอะไรกันเนี้ย
“ตอนนี้เลยเหรอคะ”
“ค่ะต้องตอนนี้เลยถ้าคุณอยากจะได้งานนี้”
"ค่ะ งั้นเดี๋ยวเข้าไปตอนนี้เลยค่ะ”
พอกดวางสายฉันก็รีบส่องกระจกดูแผลที่หัว มันมีเลือดออกมาเยอะพอสมควรเลยนะ ฉันจึงเอาน้ำเทใส่ผ้าเช็ดหน้าแล้วเอาขึ้นมาเช็ดเลือดออกจนหมด อย่างน้อย มันก็คงแค่ซึมๆแหละ เลือดไหลแค่นี้คงไม่ตาย ทนหน่อยละกันนะเว้ยหัว และหลังจากนั้นเราก็บึ่งรถไปที่นั่นทันที
และพอมาถึงฉันก็ยืนมองหน้าผับอยู่พักใหญ่ ที่นี่โคตรดูดีอ่ะ หรูหราสุดๆ แล้วเขาจะให้เราทำหน้าที่อะไรนะ แต่ถ้ามันเป็นงานเปลืองตัวอีกเราก็คงต้องขอบายอะนะ เพราะมันไม่ใช่ทาง
“มาทำอะไรครับ”
เสียงของคนหน้าผับร้องถามเรา
“อ๋อมาสมัครงานนะพี่”
“อ๋อ งานที่แปะที่เสาไฟใช่มั้ย”
“อืม ใช่พี่งานนั้นเลย”
“งั้นก็เข้าไปด้านในได้เลย”
“เข้าไปเลยเหรอ”
“เออ เข้าไปเหอะ”
ฉันก็ลังเลนะ แต่ก็เข้าไปเหอะ เขาให้เข้านี่นา แล้วฉันก็ผลักประตูผับเข้าไปเลย แต่สิ่งที่เจอกลับไม่ใช่สาวสวยที่คุยเมื่อกี้ มันกลับเป็นไม้เบสบอลที่พุ่งมาที่ตัวของฉันแบบไม่ทันได้ตั้งตัวอ่ะ แต่ฉันก็หลบทันนะพร้อมกับถีบไม้เบสบอลจนมันหลุดมือมัน แต่มันไม่ได้มีแค่อันเดียวนะซิ มันมีไม้เบสบอล อี3-4 อันพุ่งมาที่ตัวฉัน ฉันจึงก้มลงไปเก็บไม้ที่ร่วงเมื่อกี้ขึ้นมาก่อนจะเอาขึ้นมาหวดพวกมันไม่ยั้งเลย เรียกได้ว่า หมาหมู่รุมสาวสวยก็ได้ แต่ใครจะยอม มาเล่นกันแบบนี้พี่พร้อมปะทะนะจ้ะบอกเลย เราจึงจัดการพวกมันลงไปกองกับพื้นแบบไม่ต้องลุกขึ้นได้อีก 3-4 วันกันเลยทีเดียว เรียกว่าจัดหนักจัดเต็มทั้งหมดอ่ะ
แปะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงปรบมือจากใครบางคนดังขึ้น พร้อมกับบุคคลที่ก้าวเข้ามาซึ่งเราก็ไม่รู้จักหรอกนะ แต่จะว่าสติดีอยู่รึเปล่านี่ซิ เพราะพอเห็นคนของตัวเองลงไปนอนกองกับพื้นแล้วรู้สึกชอบใจเนี้ย ไม่ปกติเลยนะ
“เก่งมากเลยนะ นี่เธอสามารถเอาชนะ คนเก่งของฉันได้ทีเดียวเลย เก่งจริงๆ” ผู้ชายรูปร่างกำยำและสูงใหญ่เดินเข้ามาตบที่ไหล่ของฉันเบาๆ ซึ่งฉันก็พยายามบ่ายเบี่ยงและเลายงตัวจากมือเขานะ ก็ใครจะไปรู้ละว่าจะมาดีรึมาร้ายอีก เกิดเราเผลอแล้วซัดเราลงไปกองกับพื้นนี่แย่ตายเลย อย่าประมาทนะดีที่สุดละ
“นี่มันอะไรกันอะ หนูจะมาสมัครงาน แต่พี่กะจะฆ่าหนูเลยเหรอ” เราตั้งท่าไม่พอใจเอามากๆ จนผู้ชายคนนั้นหัวเราะออกมาเลย
“ไม่ได้จะฆ่าแต่แค่จะทดสอบฝีมือก็แค่นั้น”
เขายิ้มเบาๆ คืออะไรทดสอบฝีมือตรงไหนแบบเนี้ยเรียกว่าจะฆ่ากันมากกว่านะ
“ทดสอบฝีมือเหรอ นี่มันงานอะไรกันแน่อ่ะพี่”
“คนคุมผับ”
คำตอบของพี่เขาทำให้ฉันอึ้งไปพักนึงเลย คนคุมผับเหรอ เออ มันก็เข้าท่าอยู่นะ เพราะมันดีกว่าเป็นเด็กเสิร์ฟเยอะเลย เพราะเราก็เคยทำงานแบบนี้มาเหมือนกัน
“แต่หนูเคยทำงานแบบนี้มาแล้วนะพี่ แต่ทำได้แค่ 3 วันเองอ่ะเขาก็ไล่ออกเลย”
“อ้าวทำไมอ่ะ” พี่เขาทำหน้าตาแบบว่าสงสัยมากเลย
“พอดีหนูไปต่อยเจ้าของผับสลบคาตีน”
พอได้ยินคำตอบของเราพี่เขาดูอึ้งไปนิดนึงนะ
“สลบคาตีนเลยเหรอ”
“ใช่พี่ ก็เขามาลวนลามหนูก่อนมั้ยอ่ะ ใครจะยอมถูกปะ เพราะหนูไม่ได้มาเป็นสาวๆให้เขาลวนลามซักหน่อยหนูมาคุมผับ และพอโดนหนูกระทืบไปหน่อย หนูก็โดนไล่ออกเลย”