Intro
Intro
จะมีใครสักกี่คนบนโลกที่อาจจะเคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องมาแบกรับภาระหน้าที่ที่ถูกสร้างความหวังไว้จากคนในครอบครัว บางคนถูกคาดหวังเรื่องการเรียน
บางคนถูกคาดหวังเรื่องหน้าที่การงาน หน้าที่การงานต้องมั่นคงเข้าไว้เพื่อภายหน้าต้องเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้กับคนในครอบครัว
มันจะคอยบีบบังคับให้เราต้องเลือก ระหว่างสิ่งที่เราอยากทำหรือสิ่งที่เราควรทำ ...สองสิ่งนี้ถ้าลองให้ชั่งน้ำหนักใส่กันดูคุณจะเลือกแบบไหน?
‘รินเข้าใจพี่นะ ว่าพี่คงหางานให้รินเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว’
‘บริษัทเอเจนซี่ของเราก็เข้าขั้นวิกฤติมากเลยตอนนี้ พนักงานรวมทั้งนางแบบในสังกัดก็แทบจะไม่มีอีเว้นให้ออกกันอยู่แล้ว’
ความลำบากของคนมันต่างกัน เพราะความลำบากทุกข์ยากนี้ทำให้เราไม่สามารถเลือกหนทางเดินชีวิตของตนเองไม่มากนัก
เฉกเช่นเดียวกันกับ ‘ญาริน สรหณุรักษ์’ นางแบบสาวสวยที่เพิ่งจะกำลังโดนถูกจ้างให้ออกจากงาน อย่างกะทันหันเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่บริษัทไม่สามารถพยุงกิจการให้ไปต่อได้
‘รินเข้าใจค่ะ แต่การพี่ lay-off พนักงานออกกะทันหันแบบนี้ แล้วเราจะไปทันหางานจากที่ไหนได้ล่ะคะ’
ไม่มีใครอยากหางานทำใหม่กะทันหันแบบนี้แต่ถ้าจะยื้อกันไป ก็ไม่สามารถทำอย่างนั้นได้อยู่ดี ญารินเข้าสถานการณ์ตรงหน้านี้ดีเพียงแต่ตอนนี้เธอแค่เตรียมตัวเตรียมใจไม่ทัน
หลังจากเรียนจบสาขานิเทศศาสตร์มาได้ 2 ปี ก็ได้งานทำในสายที่เรียนมาโดยตรงเลย
ด้วยความที่มีรูปร่างหน้าตาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การทำงานในวงการเดินแบบของเธอที่ผ่านมาสามารถทำให้เธอกอบโกยรายได้ไปไม่น้อยเลยทีเดียว
‘พี่ต้องขอโทษพวกเราในส่วนนี้ด้วยก็แล้วกัน แต่ถ้าบริษัทเราไม่คืนที่ตรงนี้ให้เจ้าของเค้า พี่คงจ่ายค่าเช่าไม่ไหวแล้วเหมือนกัน อีกอย่างในสถานการณ์โรคระบาดแบบนี้นะริน
พี่ก็ดิวงานให้นางแบบไม่ได้เลยเพราะไม่มีสินค้าแบรนด์ไหนเค้าจัดอีเว้นในช่วงนี้เลย รินก็รู้ดีนี่ ....นะ เข้าใจพี่เถอะ’
‘แล้วนี่ถ้าเกิดปิดบริษัทนี้ไป พี่โรสจะทำยังไงต่อไปคะ?’
‘พี่ก็คงจะกลับไปช่วยดูธุรกิจที่บ้านก่อนแล้วล่ะ บริษัทพ่อพี่ก็มีปัญหาเหมือนกัน ไม่งั้นพี่ก็พอจะโยกเงินมาหนุนที่นี่ได้อยู่ แต่รินและคนอื่นๆ ไม่ต้องกังวลใจไปนะ ยังไงพี่ก็จ่ายเงินเดือนล่วงหน้าให้อยู่แล้ว เผื่อในช่วงนี้ยังหางานใหม่กันไม่ได้’
ขณะที่เธอเองก็เพิ่งจะลงหลักปักฐานและเพิ่งจะกำลังตั้งตัวได้ ทว่าตอนนี้เหมือนเธอจะต้องกลับบ้านไปเตรียมตัวหางานใหม่ทำเสียแล้ว นึกคิดแล้วก็ยังอยู่ในทางตัณหาทางออกไม่ได้
หากจะไปสมัครงานตามสายที่เรียนมาก็คงจะยาก แล้วยิ่งได้ข่าวจากแวดวงบันเทิงหลายที่ว่าก็มีการหยุดชะงักงันไว้ก่อนเหมือนกัน โรคระบาดทั่วโลกแบบนี้ ใครกันที่อยากให้มันเกิดขึ้น
...หากขอพรกับพระเจ้าองค์ไหนแล้วท่านยังมีเมตตาต่อมนุษย์ที่หมดหนทางอย่างเธออยู่ ก็ขอให้ดลบันดาลทางออกให้เธอด้วยเถอะ
เขาว่ากันว่าปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิตย่อมมีทางออกให้กับเราเสมอ เพียงแต่ไม่อาจจะรู้ได้ว่า มันจะเป็นช่วงเวลาไหนของชีวิตที่เราจะเจอทางออก
‘3 ล้าน ...สำหรับหน้าที่ใหม่ของเธอ แค่ทำตามที่ฉันบอก’
‘ส่วนที่เหลือ ถ้าเกิดเธอทำสำเร็จอยากจะเรียกเท่าไหร่ ฉันทุ่มไม่อั้น’
ญารินพบทางออกนั้นแล้ว ทางออกที่มันเหมือนจะไม่ใช่ทางที่ดีที่สุด แต่จะเป็นทางออกที่เราต้องจำเป็นต้องเดินเข้าไปเพื่อเอาตัวรอด และผลตอบแทนที่ถูกยื่นเสนอมาเหมือนโปรโมชั่นในทางออกแห่งนั้น
มันยิ่งทำให้เธอตัดสินใจปฏิเสธไม่ลง ด้วยปัจจัยแวดล้อมและความจำเป็นต้องใช้เงิน
ชาย 2 คนผู้มีฐานะเป็นนายจ้างของบริษัทแห่งใหม่ ที่เธอคิดว่าแค่จะมาทำงานแทนพี่สาวระหว่างลาคลอดเพียงเท่านั้น
ทว่าจู่ๆ ก็มีเจ้าของบริษัททั้งคนเป็นพ่อและลูกชายที่มีตำแหน่งประธานบริษัท นัดแนะเพื่อขอพูดคุยข้อเสนอบางอย่างกับเธอโดยตรง
‘แต่ท่านคะ ...ดิฉันคิดว่ามันมากเกินไป อีกอย่างดิฉันคิดว่าตัวเองไม่มีความสามารถพอ ขอโทษนะคะ’
ญารินคิดว่าค่าตอบแทนที่เธอจะได้รับมันมากเกินไปหรือไม่ หากเพียงแค่เธอต้องเข้ามารับข้อเสนอของคนทั้งสอง ให้ช่วยดูแลจัดแจงระเบียบชีวิตให้กับคนคนหนึ่ง ที่อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว
‘ลองเก็บไปคิดดูก่อนเถอะ อย่าเพิ่งตัดสินใจอะไรไป ตอนนี้ฐานะทางบ้านเธอก็เดือดร้อนอยู่ไม่ใช่เหรอ? ฉันคิดว่าถ้าเธอฉลาดพอ... ก็คงจะไม่ปฏิเสธ'
‘คะ คือว่า....’
อีกอย่างที่ต้องทำความเข้าใจคือเธอเองก็จบสายงานนิเทศฯ มา เรื่องงานเลขาฯ เรื่องเอกสารงานบริหารงานจัดตารางงานต่างๆ เธอเองก็ยังงูๆ ปลาๆ คอยโทรศัพท์ถามงานกับ ‘นลิน’ พี่สาวของเธอบ้างเลย
แล้วนี่ต้องให้เธอเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับท่านรองประธานคนที่ไม่เอาอ่าวคนนั้น มีหวังจากที่จะได้ใช้เงิน 3 ล้าน เพื่อความสุขสบายในวันข้างหน้า ก็คงจะเปลี่ยนมาเป็นใช้เงิน 3 ล้านเพื่อไปพบจิตแพทย์แน่นอนเลย
ขนาดเพิ่งจะมาทำงานด้วยกันกับ ‘ณัฐกานต์’ รองประธานบริษัทและเป็นเจ้านายของเธอคนใหม่ เพียงไม่นานยังทำให้เธอปวดหัวหนักขนาดนี้เลย แล้วต่อไปถ้ารับข้อเสนอนี้เธอก็คงจะได้กินยาแก้เครียดวันละหลายๆ เม็ดแน่นอน
‘อย่าเครียดเลยริน เอาเหอะน่า.... อย่างน้อยในระหว่างที่พี่ลาคลอดอยู่เราก็ทำไปทำงานแทนพี่ได้อยู่’
‘แต่นั่นมันไม่ใช่งานถนัดของรินเลยค่ะ งานเอกสารอะไรนั่นรินก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่นะพี่’
นลินพี่สาวของเธอเคยเป็นอดีตเลขาฯ ให้กับรองประธานบริษัทวิลลิงตันเอ็นกรุ๊ปคนก่อนหน้านี้
ก่อนที่ณัฐกานต์จะมารับตำแหน่ง แม้ว่าเธอจะไม่เคยร่วมงานกับรองประธานคนปัจจุบัน แต่เธอคิดว่าเขาคงจะทำงานได้เก่งไม่น้อยไปกว่าพี่ชายของเขาแน่นอน
ทว่าดูเหมือนความคิดของนลินจะผิดไป ในเมื่อญารินเองแค่ทำงานร่วมกับรองประธานคนนั้นได้ไม่นาน เพียงแค่ 2 อาทิตย์ เธอก็แทบจะหลาบจำกับวีรกรรมแต่ละอย่างที่เขาทิ้งไว้ให้เธอหลายอย่างเลย
ปล่อยให้เธอทำงานงกๆ อยู่คนเดียว ส่วนตัวเองกลับเลิกงานก่อนแทบจะทุกวัน หนำซ้ำบางวันยังโดดงานไปที่อื่นอีกด้วย แค่คิดก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว
‘มีอะไรก็โทรมาถามพี่สิ ถ้าเราเลือกงานตอนนี้มีหวังถ้าเกิดหาไม่ทันตอนรักเปิดเทอม รายนั้นก็คงจะนั่งกอดเข่าเสียใจแน่ อุตส่าห์สอบติดแพทย์ทั้งที’
‘เฮ้ออ!! แล้วนี่พี่ภพไม่ติดต่อพี่มาเลยหรอ พี่...’
‘รายนั้นน่ะหรอไม่มีวี่แววเลย ป่านนี้ก็คงจะสุขสบายกับยัยผึ้งไปแล้ว เหอะ!’
‘พี่โอเคนะ? ไม่เป็นไรหรอกพี่ ยังไงฉันก็จะหาเงินมาให้ทันใช้แน่นอน พี่กับเจ้าตัวเล็กต้องได้อยู่สบาย’
ครอบครัวของเธอเหลือกันแค่ 3 คนพี่น้อง นลินเป็นพี่สาวคนโตก่อนหน้านี้เธอเป็นเสาหลักของครอบครัวมาโดยตลอด ทั้งส่งญารินและต้องรักเรียนหนังสือจนญารินจบมาก็พอจะช่วยผ่อนแรงได้บ้าง
ทว่าตอนนี้เธอต้องเตรียมตัวคลอดและพักฟื้นอีกเป็นเวลา 3 เดือน ตามนโยบายของบริษัท
อีกเรื่องก็คือเธอเพิ่งจะโดนสามีทิ้งมาหมาดๆ จะว่าโดนทิ้งก็ไม่เชิงเพราะเป็นเธอเองที่ทนพฤติกรรมของอดีตสามีไม่ไหว
แต่ก่อนไม่ค่อยเอาการเอางานยังพอทนเพราะคิดว่ายังพอตักเตือนไหว ทว่าล่าสุดที่เลิกกันเพราะเธอดันจับได้ว่าภพธรมีชู้ ความรักที่เธอศรัทธามามันจึงพังทลายลงพร้อมกับใบหย่า
แต่หนทางต่อไปนี่สิสัปดาห์หน้าเธอเองก็ต้องคลอด ต้องรักก็จะขึ้นมหาวิทยาลัยแล้ว ภาระหน้าที่เลยถูกเปลี่ยนมือมาที่ญาริน เธอเองก็อดสงสารน้องสาวคนนี้ไม่ได้ที่จะต้องมารับผิดชอบทุกอย่างภายในบ้าน
ลำพังเงินเก็บกับเงินเดือนก็ยังพอมีอยู่บ้าง แต่สักวันมันก็ต้องหมดไปเพราะอดีตสามีเธอไม่คิดจะเหลียวแลส่งเสียค่านมค่าผ้าอ้อมลูกเลย ไปแล้วไปลับเสียจริง
อดีตนางแบบสาวตกอับ ต้องแบกหน้าหางานใหม่และดันได้มารับงานต่อจากพี่สาวแท้ๆ ของตนเองที่เพิ่งจะลาคลอดออกมาเลี้ยงลูกคนเดียว ด้วยภาระหลายอย่างจากทางบ้านที่เธอต้องช่วยรับผิดชอบสมาชิกในครอบครัว
และเมื่อเธอบังเอิญได้รับข้อเสนอบางอย่างจากเจ้าของบริษัทแห่งใหม่ที่เธอเข้ามาทำงาน ตัวเลขที่ทางนั้นเสนอให้ ...จะทำให้เธอและครอบครัวอยู่สุขสบายขึ้น
แล้วเธอจะรับมือกับเจ้านายคนใหม่ได้อย่างไร ในเมื่อแค่ได้ยินถึงความประพฤติของอีกฝ่ายจากปากพ่อของเขาแล้วแบบนี้เธอจะทำงานได้สำเร็จหรือไม่ต้องมาลุ้นกัน